ควันหลง ลิเวอร์พูล ​ยึดจ่าฝูงคืน

หลายคนรอดูปฏิกิริยาของ "หงส์แดง" หลังจากแพ้อาร์เซนอล 1-3 แถมโปรแกรมสัปดาห์นี้แข่งทีหลัง แมนฯซิตี้ ที่จัดการเชือดเอฟเวอร์ตัน 2-0 ชิงจังหวะขึ้น "จ่าฝูง" ชั่วคราว ในเกมที่แข่งขันเท่ากัน

เด็กหงส์จะแสดงปฏิกิริยาอย่างไรทั้งสองเด้งที่โถมเข้ามา

นั้นสิ....

เกมที่เอติฮัด คาดว่าน่าจะเป็นเกมที่ไม่ยาก แต่ก็เล่นเอาทีมเป๊ปเหนื่อยเหมือนกันเพราะ ทีมฌอน ไดส์ มารับลึกได้ดี เจาะยาก คิดดูว่านี่คือครึ่งแรกที่ แมนฯ ซิตี้ ยิงไม่เข้ากรอบนับจาก ส.ค. 2022

หนำซ้ำยังลากมาจนถึง น.70 คือยิงเข้ากรอบครั้งแรกโดย เออร์ลิง ฮาลันด์ 

ณ จุดนั้นทีมเปลี่ยนตัวเอา เควิน เดอ บรอยน์ ลงมา รวมทั้ง ไคล วอล์คเกอร์ แทน ทั้ง มาเตอุส นูเนส และ อาคานยี

ฮาลันด์ ยิงซ้ำ แฉลบเข้า...ประตูแรกใน 77 วัน

การมาของ เดอ บรอยน์ มีผลหรือไม่กับประตูแรกไม่ชัดเจน แต่ประตู 2-0 จากจังหวะสวนกลับนั้นแอสซิสต์ อย่างแม่นให้ ฮาลันด์ หลุดเดี่ยวเข้าไปจัดง่ายๆ เป็นแอสซิสต์ ที่ 4 ในห้าเกมหลังกลับมาลงสนาม 

ถูกแซวว่า "พี่คนนี้ให้บอลแม่นจริง"

ซิตี้ชนะไม่แปลกครับ ตามหน้าเสื่อแค่ว่ายากหรือง่าย แต่การที่ชนะแล้วแซงขึ้นฝูงในจำนวนแมตช์ที่เท่ากัน อันนี้ถือว่าน่าสนใจ พวกเขาเล่นพรีเมียร์ลีกนับจากแพ้วิลล่า มาล่าสุดก็ชนะ 7 เสมอ 1 เก็บ 22 แต้มไล่มาเรื่อยๆ

ถึงจุดนี้แล้ว....มีไม่เกินทีมสองทีมที่จะแบ่งแต้มจากพวกเขาได้ดูจากฟอร์มและสภาพทีม...

เมื่อเรือใบแซงแล้วหงส์ รับมือ เบิร์นลีย์ ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากสามแต้ม

แอนฟิลด์ สถิติใหม่

สถิติเดิมสมัยยุค 50 โน่นเลย 58,757 คนนัดเสมอเชลซี 2-2 ธ.ค. 1949 ยุคที่ยังเป็นตั๋วยืนปะปน ยุคนี้เก้าอี้ นับว่าสนามใหญ่ขึ้น ตอนแรกคาดว่า 60,000 แต่นี่คือ เบิร์นลีย์ มั้ง....

สถิติประกาศระหว่างเกม 59,896 คน

VVD นัดที่ 250 PL

เฟอร์จิล ฟานไดจ์ กัปตันทีมที่พึ่งพลาดนัดเจอปืน ลงสนามในพรีเมียร์ลีกนัดที่ 250 ท่ามกลางข่าวไม่ดีเมื่อ อลีสซิง เบคเกอร์ และ โจ โกเมซ เป็นไข้หวัด ซึ่ง เจเค ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมแล้วว่า นักเตะชุดใหญ่เป็นไข้หวัด กลุ่มแฟนหงส์ที่ไปปักหลักเฝ้าร.ร. ก็ดูว่าใครจะลงจากรถบัสเข้า ร.ร. ใครหายไป

โลกโซเชียล ก็สังเกตกันได้ว่า โจ โกเมซ และ อาลี หายไป ก็เลยปล่อยข่าวกันให้ติดตาม แบบรู้ก่อนใคร 55555

ถ้าเมืองไทยก็เอามาจากฝรั่ง ใครเอามาจากไหนให้เครดิต เขาบ้างก็ดีนะครับ เพราะเราไม่ได้รู้เอง อย่า เคลม ว่าตัวเองรู้เร็ว

มีพรรคพวกผมอยากรู้เร็ว...มาถาม ผมเลยส่งลิงค์จาก  X ให้ว่าเป็นของกลุ่มแฟนหงส์อย่างเช่น  ชThis is Anfield เป็นต้น

ส่วนตัวนัดนี้ก็อย่างทีทราบกันว่า อาลี และ โจ ไม่ได้ลง เคลเลเฮอร์ ลงแทน ส่วน โกนาเต้ นั้นแบน ควอนซ่าห์ เล่นกับ ฟานไดจ์ แบ๊กสองข้างกลับมาเป็น เทรนต์ และ ร็อบโบ้ (ตัวจริงนัดแรกนับจาก 8 ต.ค.ปีก่อน) ส่วนแดนกลาง เอ็นโด คุมกลาง แม็คก้า ขวา และ โจนส์ ซ้าย หน้าสามคน โชต้า, ดาร์วิน นูนเญซ และ ดิอาส

ฟากทีม แวงซองต์ กอมปานี  ไม่มี ไล ฟอสเตอร์ กองหน้าตัวเก่ง (ยิงไปสี่ลูก) เลือกใช้ ดาวิด โฟฟาน่า ยืมจากเชลซี ที่เล่นใช้ได้คู่กับ อัมดูนี เล่นระบบ 4-4-2 แบ๊กโฟร์  อัสซิยอน (ขวา) คู่เซนเตอร์ โอเช, เอสเตเว ทางซ้าย เดลครัวส์ กลางสี่คน  บราวน์ฮิลล์, เบิร์จ, แรมซีย์ และ โอโดแบร์

หงส์หงอยครึ่งแรก

หลายคนรอดูปฏิกิริยาหลังโดน ซิตี้แซงและแพ้ปืนมา... แต่ 45 นาทีแรกต้องยอมรับว่า นอกจากเดอะ ค็อป จะเงียบเนื่องจากบอลไม่ดุดัน กร้าวแกร่งที่เล่นในบ้าน ยังดูเล่ยแบบเบาๆ แถมผิดพลาดบ่อยแดนกลาง 

นี่ดีนะ...เบิร์นลีย์ ลงโทษไม่ได้จากความพลาดแดนกลางหงส์แดง

แม็คกา,เอ็นโด และ โจนส์ ไม่ลงล็อคเท่าไหร่ บอลไม่ถึงหน้ามาก แล้วหาก เบิร์นลีย์ ตั้งโซนรับทันก็เจาะไม่ได้เลย การได้ประตูจากลูกนิ่งก็เป็นจังหวะที่ แทรฟฟอร์ด ออกมาจั่วลม เข้าหัว โชต้า  โดย เทรนต์ ทำสถิติกองหลังที่แอสซิสต์ มากสุดใน #PL

58 ลูก แซง ร็อบโบ เพื่อนเลิฟ 

พอนำ...ก็ไม่ได้ดุดันเหมือนที่เคยเล่นในแอนฟิลด์ สุดท้ายเล่นไปเล่นมาโดนตีเสมอก่อนหมดครึ่งแรกเฉย จังหวะเตะมุมคืนบ้าง โอเช โหม่งเข้ามุมง่ายๆจากแถวจุดโทษด้วยซ้ำ...

ได้จากเตะมุม ก็เสียจากเตะมุม

เอลเลียตต์ 2 แอสซิสต์

ครึ่งหลังสายข่าวรายงานว่า เทรนต์ ดูมีปัญหาเรื่องตึงๆกล้ามเนื้อ เจเค เลยเปลี่ยนออก ส่ง เอลเลียตต์ ลงแล้วโยก โจนส์ ยืนแบ็กขวาจำเป็น ส่วนมิดฟิลด์ ขยับ แม็คกา ไปซ้าย เอลเลียตต์ ทางขวา

การมาของ เอลเลียตต์ ดูคึกคักก็จริง แต่ เบิร์นลีย์ มีโอกาสลุ้นประตูเหมือนกัน ดีแต่ว่า เคลเลเฮอร์ เซฟได้ ก็ไม่แปลกเพราะหลังยืน ไฮไลน์ ดีเฟ้นส์ แล้วเสียบอลแดนบนและแดนสอง โดนตลบหลัง...พื้นที่ก็เยอะ 

แต่อย่างว่าแหละ...คุณภาพนักเตะเบิร์นลีย์ ประมาณหนึ่ง จังหวะสกัดบอลกันไม่ขาด 

บอลเข้าทาง เอลเลียตต์ ครอสเสาแรกให้ ดิอาส โขกนำ 2-1 น.52  ทำให้สถานการณ์คลี่คลาย 

จะโดนตีเสมอก็มี...แต่ก็เอาตัวรอดจนถึงน.79 เอลเลียตต์ เก็บบอลจังหวะสองได้ ครอสไปเสาสองให้ ดาร์วิน นูนเญซ ที่เกมนี้เล่นติดๆขัด แต่โหม่งเข้าไปสวยงาม 3-1

มันจบละครับนาย....

หงส์แดง ยึดจ่าฝูงคืนจากแมนฯ ซิตี้ แม้แข่งมากกว่าหนึ่งนัดก็ตาม แต่นั่นคือสิ่งที่ต้องทำ

ไม่ใช่แพ้ปืน แถมเรือใบ แซงไปก่อน จะมาหงอยเหงาเศร้าซึม (แม้ครึ่งแรกดูเป็นแบบนั้น) จนมีผลกระทบต่อการเล่น ตรงนี้แหละที่จะทำให้เสียจังหวะจะโคนในการร่วมลุ้นแชมป์

โอเค แม้การเตรียมทีมมีปัญหาจากนักเตะเป็นไข้หวัด ปัญหาที่ควบคุมไม่ได้ง่ายๆ แต่ที่เหลือก็ต้องทำ

ถ้าถามว่าเกมนี้....อะไรคือทีเด็ดในการชนะเบิร์นลีย์ ทีมโซนตกชั้น

คำตอบคือการแก้เกมครึ่งหลังของ เจเค เหมือนหลายๆนัดในซีซั่นนี้

การหยิบ ฮาร์วีย์ เอลเลียยต์ ลงมาแล้วเปลี่ยน เทรนต์ ที่โอเค ไม่สมบูรณ์ แต่นั่นคือการตัดสินใจของโค้ช ที่ไม่ต้องเสี่ยงอะไร แม้จะให้ โจนส์ เล่นแบ็กขวา เพราะยังไงบอลต้องบุกอยู่เหมือนเดิม 

เกมครึ่งหลังจึงออกมาสาดกระสุนใส่ เบิร์นลีย์ จนได้ประตูคืนมาสองลูกเก็บสามแต้ม ยึด "จ่าฝูง" กลับมาก่อน

ไม่ปล่อยให้เรือใบแล่นฉิวได้โดยง่าย

JACKIE 


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport