คุยข้างแอนฟิลด์กับ ซิโก้ ผู้ชายที่เตะบอลได้นิดหน่อย

นอกบ้าน มันยังงัย ยังงัย, แต่ในบ้าน This is Anfield !!

เปลี่ยน 7 ตัวจากเกมตูลูส  ไม่แปลกใจกับการหายป่วย และกลับมาสวมปอกแขนกัปตันของ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ,  และไม่แปลกใจ โฌแอล มาติป กับโคดี้ กัคโป ยังลงตัวจริงต่อ

หาก วาตารุ เอ็นโด้ ในแดนกลาง และ คอสตาส ซิมิกาส ที่แบ๊คซ้าย  ได้เล่นต่อ ทั้งที่ต่างผลงานแย่ในศึกยูโรป้า ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ ต่างโดนเปลี่ยนตัวตอนฮาล์ฟไทม์ อาจเป็นคำถามก่อนเกมสำหรับใครหลายใคร

นัดลิเวอร์พูล ต้อนรับเบรนท์ฟอร์ด พอดี เพื่อนรัก, คุณซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง  หัวหน้าโค้ชสโมสรฮองอันยาลาย อาศัยจังหวะที่ลีกเวียดนามหยุดเตะ หลีกทางให้กับช่วงเบรกทีมชาติ  มาศึกษาเกมของเจอร์เก้น คล็อปป์ หน่อย โดยเฉพาะเรื่อง เคาน์เตอร์ เพรสซิ่ง  (เสียบอลแดนบน แล้วเข้าไปเพรสต่อกันเลย)   ก็เลยชวนถ่ายสัมภาษณ์ก่อนเกมเข้าไปให้แฟนเว็บไซต์ SIAMSPORT ได้ชมกัน

สรุปประเด็นที่คุยกับคนที่ คอลูกหนังบ้านเราคิดถึงเสมอ มาเล็กน้อยตรงนี้นะครับ ;

ในฐานะที่เล่นตำแหน่งศูนย์หน้าเหมือนกัน เห็น ดาร์วิน นูนเญซ พลาด แล้วรู้สึกยังงัย?   “เราดูตั้งแต่เกมตูลูส ใช่ไหม ที่หลุดไปยิงชนเสา แล้วมายิงเผาขนออกเกมลูตัน  ศูนย์หน้านี่นะ บางทีก็พูดยาก ลูกยากบางทีเป็นลูกง่าย ลูกง่ายกลายเป็นลูกยาก

ผมว่าจังหวะเขาค่อมไปหน่อย ค่อมจังหวะหมายถึงเร่งเกินไป หลายๆ คนที่พูดคุยกัน เห็นเหมือนกัน คือลดจังหวะลงมา อย่างลูกหลุดเดี่ยวไม่ต้องรีบยิงก็ได้”

แล้วให้เลือกแบ๊คซ้ายระหว่าง โจ โกเมซ กับ ซิมิกาส ?  “ถ้าเป็นธรรมชาติจริงๆ ก็ต้องใช้คนที่เล่นเท้าซ้ายเนอะ แต่ว่าความมั่นใจตรงนั้นจะหายหรือเปล่า ส่วนโกเมซ ตำแหน่งของเขาไม่ใช่แบ๊คซ้ายงัย ตรงนี้ต้องอยู่ที่คล็อปป์ เลือกแล้วหล่ะ

ส่วน เอ็นโด้ ก็อาจจะเป็นจังหวะของเขาก็ได้ เพราะญี่ปุ่น ก็เป็นกัปตันทีมชาติ เพียงแต่ยังไม่ได้เล่นเต็ม 90 นาที นัดนี้อาจจะเป็นโอกาสของเขาก็ได้ที่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ โดนแบน”

หลังจากเห็นรายชื่อตัวจริงที่เปลี่ยน 4 ตัว ถ้าเทียบกับชุดที่ลงไปใกล้เมืองหลวง เสมอกับ ลูตัน ทาวน์ สุดสัปดาห์ก่อน   ได้เห็น เอ็นโด้ ลงมาเล่นในแดนกลางจริงๆ ด้วย สำหรับผม ใจหนึ่งก็ดีใจนะครับ อยากเห็นโอกาสของนักเตะเอเชียในเกมพรีเมียร์ลีกที่เข้มข้น,  อีกใจก็ป๊อดแทน หลังจากเห็นฟอร์มนัดมิดวีค

และดันไปอ่านคอมเมนต์จากเกรียนฝรั่ง

-คนหนึ่งบอก สโตนส์, โรดรี้, ไรซ์, ปาร์เตย์, บิสซูม่า, ซาร์, ไกเซโด้, พาลินญ่า, ดูกูเร่, ดักลาส ลุยซ์, เลมิน่า  มิดฟิลด์ตัวรับทุกคนดีกว่าเรา ที่มี DM เพียง เอ็นโด้ !

มีคนมาโต้ตอบว่า ;

-บิสซูม่า ใช้เวลาเป็นปี ถึงจะทำอะไรดีดีที่สเปอร์ส .. สโตนส์ ไม่ได้เล่นมิดฟิลด์ตัวรับ และใช้เวลา 7 ปี .. เอ็นโด้ อยู่นี่เพียงแค่สองเดือนนะ    (แหม่ อยากหอมแก้มสักฟอด มองอะไรบวกบวกแบบนี้ มันถึงคุยกับพี่พอได้หน่อย

แต่เกรียนอีกคน ก็สะกิดเราให้ต้องไล่สายตาบนทีมชีท ที่หยิบได้จาก 1 ชั่วโมงก่อนแข่ง ในห้องพักนักข่าวที่แอนฟิลด์อีกครั้ง

-เห็นตัวสำรองแล้ว นี่มันเกมยู-21 หรือเปล่า ? ลองคิดดู ถ้า เทรย์ โยนี่ (Trey Nyoni) มิดฟิลด์วัยเพียงสิบหกปีเศษ ได้ลงเล่นให้ลิเวอร์พูลนัดแรก

อันนี้ถึงเวลารำพึงกับตัวเอง  “โกเมซ มันหายไปไหนฟะ แต่ตัวสำรองนอกจากหลุยส์ ดิอาซ, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต และประตู ควีวิน เคลเลเฮอร์ ก็สมควรโดนกล่าวหาแบบนั้นได้เนอะ”

ลุค แชมเบอร์ส, คาลั่ม สแกนลอน ที่ต่างรอโอกาสเติบโตในตำแหน่งแบ๊คซ้าย, เบน โด๊ค ปีกขวามีแวว, ยักษ์ใหญ่ จาเรลล์ ควอนซาห์ ที่ได้ลงสัมผัสเกมเรื่อยๆ

ปรากฎยังไม่ถึงเวลาของ ไอ้หนูเทรย์ ,  แต่ปลายเกม เจมส์ แม็คคอนเนลล์ มิดฟิลด์วัย 19 ปี ได้โอกาสประเดิมเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรก

ตัวสำรองอาจจะดูอ่อนไป แต่นัดนี้ ลิเวอร์พูล ไม่จำเป็นต้องใช้แผน 2 แผนสาม ขอรับ

หลังเกม ออกมาเจอกับ คุณซิโก้ ก็คุยทัศนะกันต่อ เกี่ยวกับประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในเกมชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-0 ที่ทำให้ยืดสถิติ 48 เกมหลังสุดพรีเมียร์ลีกที่นี่ … แอนฟิลด์  ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ แพ้แค่นัดเดียว, และไม่ใช่สิบแปดนัดหลัง

ตำนานหมายเลขสิบสาม เอ่ยกับสยามปอร์ต “เราคุยกันก่อนเกมว่า วันนี้ จะมาดูเรื่อง เค้าน์เตอร์ เพรสซิ่ง ซึ่งวันนี้ ลิเวอร์พูลทำได้ดี รูปแบบ 4-3-3 บล๊อค 3-5-2 ยังงัยนะ ช่วงแรก จริงๆ น่าจะไหลแล้วหล่ะ  ถ้าไม่โดนวีเออาร์ จับล้ำหน้า ประตูแรกของ นูนเญซ ล้ำแบบมิลลิเมตร  จังหวะการเล่นของ นูนเญซ นัดนี้ ก็ไม่ค่อมนัก เป็นตัวแอสซิสต์ได้”

แล้ว เอ็นโด้ หล่ะ ? “ก็ถึงเวลาต้องใช้เขาแล้วหล่ะ มีเสียวๆ บ้างช่วงต้นเกม และจังหวะว่าจะเป็นใบแดงหรือเปล่า แต่ก็ได้ความมั่นใจมากขึ้นแล้วหล่ะ อาจจะคะแนน 8 หรือ 9 อยู่นะ”

และแน่นอน เมื่อเป็นนัดที่ 15 เกมหลังสุดเกมพรีเมียร์ลีกในบ้าน โม ซาล่าห์ ไม่ยิงก็แอสซิสต์ , นัดนี้ ทั้งยิง ทั้งโหม่ง  (โหม่งลูกที่ต้องเช็ควีเออาร์ว่า ก่อน ซิมิกาส วิ่งไปตักบอลย้อยมาให้นั้น ออกหลังเต็มใบไปก่อนหรือยัง * ซึ่งตอนเช็คแล้ว แฟนหงส์ถ้านึกถึงเกม นิวคาสเซิ่ล - อาร์เซน่อล แล้วคงสบายใจก่อนเลย ยังงัยก็ได้)   ก็ต้องให้ คุณซิโก้ พูดถึงคนที่ยิงประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีกเข้าให้แล้ว  สรรเสริญ ฮาลันด์ กันจัง แต่หัวหอกนอร์วีเจี้ยนก็นำหน้าโม อยู่เพียงสามลูก ฮ่าๆ

โค้ชซิโก้ ตบท้ายว่า “ลูกแรก คิดว่าเหลี่ยมบอล เข้าทางพอดี ลูกที่สองก็คิดว่า กองหลังเบรนท์ฟอร์ดหยุดเล่น คิดว่าบอลออกไปแล้ว แต่เรื่องแบบนี้เราตัดสินด้วยตัวเองไม่ได้งัย พอวีเออาร์เช็ค ก็ชัดเจน”

ลูกเคาน์เตอร์ เพรสซิ่ง ที่ทำงานได้ผลนี่ ดูได้ตั้งแต่ประตูแรกบีบแดนบนจากจังหวะเบรนท์ฟอร์ดได้ทุ่ม

ผึ้งน้อยจากเวสต์ ลอนดอน กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มดีนะครับ และตอนดาวซัลโวของเค้า ไบรอัน เอ็มโบโม่ หลุดไปนี่ นึกว่าหายแล้ว แต่ถ้าจะมีผู้รักษาประตูสักคนที่ไม่กลัว จังหวะหนึ่งหนึ่ง นั่นก็คือ อลีสซง เบ๊คเกอร์

เอ็นโด้ ในความเห็นของผม ไม่ควรจะเป็นใบแดง และไม่ควรจะเสียเวลาเช็ควีเออาร์เนิ่นนานขนาดนั้น ในเมื่อผู้ตัดสิน พอล เทียร์นี่ย์ ยืนอยู่ใกล้ เห็นจังหวะชัดแจ้ง ปล่อยให้เกมดำเนินไป … หรือตาถั่ว เพื่อนในห้องวีเออาร์ เลยอยากช่วย  ก็ที่ โฌแอล มาติป ทำท่าไม่เข้าใจโลกได้น่ารักเหลือเกิน จนได้ใบเหลือง นั่นก็เข้าสกัดบอลธรรมดาเลย ผู้ตัดสินมั่วจริงๆ !

ลิเวอร์พูลชนะเกมในบ้านเก้านัดติดต่อกัน ที่ยิงห่าง 2 ประตูขึ้นไป, เคยทำไว้ พฤษภาคม ถึง ตุลาคม ค.ศ.1980   ฟอร์มในบ้านช่วงนี้ มาเหอะ … ใครก็ได้   (คุยไว้ก่อน)

หากเกมเยือนนี่ ซีซั่นนี้น่าเป็นห่วงชะมัด และนัดหน้า, หลังเบรกทีมชาติ ต้องไปเยือนจ่าฝูง แมนฯ ซิตี้ ซูปเปอร์บิ๊กแม็ตช์เสียด้วยสิ

ลิตเติ้ลโจ


ที่มาของภาพ : siamsport
BY : ลิตเติ้ลโจ
สุรศักดิ์ มากทวี
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport