ลิเวอร์พูล: ชะตา โดมินิค โซโบซไล > เมสัน เมาท์

ไม่รู้จะล้อยังงัยแล้ว ;

… แพ้แล้ว แพ้อีก แพ้ต่อไป

… #เซฟเทนฮาก

(ขำ ขำ นะครับ)

การพ่ายแพ้ต่อ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในถ้วยคาราบาว คัพ ความชอกช้ำล่าสุดของกองเชียร์อสูรแดง นั่นคือการแพ้นัดที่แปด ใน 15 เกม

ครั้งสุดท้ายที่ห่วยขนาดนี้ ต้องย้อนไปถึง ค.ศ. 1972  ซึ่งมีผลให้ผู้จัดการทีม แฟร้งค์ โอ’ฟาร์เรลล์ ชาวไอริช  (เพียงคนเดียวที่เคยคุมแมนฯยูฯ) โดนไล่ออก —- ไม่รู้จักใบหน้าเลยครับ ตอนเด็ก ใครคนนี้เริ่มต้นดูบอลก็ยุค รอน แอ๊ตกินสัน แล้ว ตอนมาประจำอังกฤษใหม่ๆ  เจอบิ๊กรอน ตามพื้นที่นักข่าวเรื่อยๆ  ผันตัวเองเป็นนักวิเคราะห์ให้กับช่องโทรทัศน์

เคยล้อเพื่อนสนิทแบบอมยิ้ม หลังเกม 7-0 ซีซั่นก่อนว่า “กูว่า ต้องให้เวลา เอริค SEVEN ฮาก อีกสัก 2-3 ปี ในการปั้นทีมของตัวเอง แล้วค่อยดูทิศทางอีกที”

ช่วงนี้ ถ้าได้แซวกัน ก็คงต้องเปลี่ยนเป็น นาย THREE ฮาก  เพราะแพ้คารัง สกอร์ 0-3  ต่อเนื่อง ทั้งเกมดาร์บี้แมนเชสเตอร์ และ ลีกคัพ

บางสถิติบอกว่า นี่เป็นการเริ่มต้นซีซั่นที่เลวร้ายที่สุดของยูไนเต็ดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1962-63, และนี่เป็นการแพ้ห้า จาก 10 เกมแรกในบ้าน นับตั้งแต่ 1930-31

เดี๋ยวต่อไป จะมีอะไรที่แย่กว่านี้อีกมั้ย ?

คำตอบในใจ น่าจะคล้ายๆ กัน นะขอรับ …

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เจ๋งแค่ไหน ก็ดูง่ายๆ เลยว่า พอป๋ารีไทร์ หลังคว้าถ้วยพรีเมียร์ลีกในปี 2013  แมนฯยูฯ เปลี่ยนผู้จัดการทีมถาวรมาแล้วห้าคน พวกเค้าไม่สามารถกลับคืนจุดสูงสุดได้

เท็น ฮาก มาโรงละคร ซีซั่นแรก ก็ทำดีทีเดียวนะ พาแมนฯยูฯ จบอันดับสาม และแม้จะเป็นถ้วยเล็ก แต่การชูถ้วยคาราบาว คัพ, หยิบถ้วยหลังจากรอคอยความสำเร็จสักรายการมาเป็นหกปี  มันก็ดูมีความหวังเชียว

แถมการกล้าดร็อป คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จนทำให้ผลงานทีมดีขึ้น มันก็ชวนศรัทธาอยู่ไม่น้อยนะ

ซีซั่นนี้ หันมามีปัญหากับ เจดอน ซานโซ่ ซึ่งความเห็นส่วนตัว อดีตสตาร์โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็ทำตัวเองด้วย ระดับเค้า น่าจะเจิดจรัสตั้งแต่ต้น เหมือนตอน บรูโน่ แฟร์น็องด์ส ย้ายมา

แพ้แมนฯ ซิตี้ ของเป๊ป มันแพ้กันได้อยู่แล้ว เพราะคลาสมันห่างกัน แต่แพ้แล้วพาล อย่างการไล่เตะ เจเรมี่ โดกู ของ อันโตนี่จอมหมุน หรือบ่นอยู่นั่นแบบ บรูโน่ ยิ่งรู้สึกน่าอดสู

แพ้นิวคาสเซิ่ล ที่เปลี่ยนทีมเยอะนี่ สะท้อนความตกต่ำยิ่งกว่า  รู้สึกว่าอ่อนไปหมด ทั้งผู้เล่น วิธีการเล่น การตัดสินเปลี่ยนตัวของโค้ช

ก็เลยไม่แน่ใจว่า ลึกๆ แล้ว จะเป็นอะไรอย่างที่ไม่ควรคิด, อะไรที่จะมีน้ำหนักมากกว่ากัน

ระหว่าง นักเตะเล่นไล่โค้ช  หรือโค้ช นั่นแหล่ะ อยากจะเป็นคนถูกไล่เสียเอง !  ถ้าเป็นเทน ฮาก โดนไล่ เห็นว่าจะได้มากกว่า 15 ล้านปอนด์  เชื่อว่าคนในโลกใบนี้ อยากตกงานแบบนี้บ้างจัง ฮ่า-ฮ่า ..

เห็น เมสัน เม้าต์ เปลี่ยนตัวลงมาเล่นครึ่งหลังกับเรือใบ และเล่นเต็มเกมกับสาลิกาดง แล้วอดเทียบกับ โดมินิค โซบอสไล ไม่ได้

จริงๆ แล้ว การเสริมทีมช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูลคิดผ่าแผงมิดฟิลด์ ด้วยการมีเป้าหมายคว้า อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ เมสัน เม้าต์ , คนหลังดูเล่นได้หลากหลายบทบาทในแนวรุก เป็นสิ่งที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องการ

แต่พอเป็นทั้ง เม้าต์ ที่อยากมาแมนฯ ยูไนเต็ด มากกว่า และค่าตัว ค่าจ้าง (สัปดาห์ละ 2 แสนปอนด์, และถ้ารวมโบนัสก็จะได้มากกว่า 2.5 แสนปอนด์) ลิเวอร์พูลจึงเปลี่ยนไปคว้า โซบอสไล ที่จ่ายค่าจ้างราวสัปดาห์ละ 120,000 ปอนด์ แทน

การซื้อผู้เล่นของลิเวอร์พูล อาจสนใจคุณภาพนักเตะ วัย คิดว่าเหมาะกับสไตล์การเล่นของคล็อปป์ หากมันก็เป็นที่การปรับตัวของนักเตะอีกที ว่าจะยกระดับตัวเองได้แค่ไหน

ถึงตอนนี้ ถ้า เม้าต์ เลือกเงิน เขาคิดไม่ผิดหรอก

หากถ้าเป็นเหตุผลด้านฟุตบอล มันก็คล้ายกับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่มีโอกาสจะไปอยู่แอนฟิลด์เหมือนกัน

จากย้ายเข้าโรงละคร ที่มีคนส่งเสียงเชียร์กึกก้อง มันกำลังกลายเป็น สุสานฝัง ซะมากกว่า

ไม่กี่เดือนก่อน แกรี่ เนวิลล์ เด็กปั้นของ สกาย สปอร์ต (เลยได้ออกสื่ออยู่เรื่อย) เคยเอ่ยปาก ทำนอง คล็อปป์ อาจรู้สึกว่า แผงกองกลางยูไนเต็ด ทำไมถึงแข็งแกร่งกว่าหงส์แดง เมื่อได้ เม้าต์ มาเล่นเคียงข้าง กาเซมีโร่, บรูโน่ และ คริสเตียน อีริคเซ่น

ผ่านสิบเกมแรกของพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ โซโบซไล ลงเล่นทุกนาทีให้หงส์แดง ขณะที่ เม้าต์ ได้ลงตัวจริงเพียงสี่นัด และยังไม่ยิงประตู หรือแอสซิสต์เลย

ประตูแรกที่โดนสาลิกาดง  เป้าใหญ่อาจจะเป็น ดีโอโก้ ดาโลต์ ที่วิ่งเหยาะๆ หรือเดิน ไม่แน่ใจ หาก เม้าต์ ก็มีส่วนผิดด้วย ที่ไม่ตัดเกมก่อน

การคว้า อเล็กซิส แชมป์โลก + โซบอสไล มาทำให้แผงมิดฟิลด์ลิเวอร์พูลไฉไลในทันที บางที อาจจะกลายเป็นแผงกลางที่เจ๋งสุด ทีมหนึ่งในยุโรป ไปแล้วก็ได้

ในขณะอริเก่าก่อน เดินผิดทาง ทั้งที่ได้เล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก น่าจะดึงดูดตัวเจ๋งๆ ได้ดีกว่า

เทน ฮาก ไม่ได้โดนไล่ออกในตอนเช้า อย่างแฟนคู่แข่ง ชอบร้องแซวกัน แต่ในสภาพแบบนี้ ถ้าได้คุมทีมจนถึงนัดแก้มือแดงเดือด ที่แอนฟิลด์ กลางธันวาคม

สำหรับผม … จะเซอร์ไพรส์ ขอรับ !

ลิตเติ้ลโจ


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport