อุทธรณ์ไม่ผ่าน!เจอร์เก้น คล็อปป์ ยัน เคอร์ติส โจนส์ ไม่ควรโดนไล่ออก

อุทธรณ์ไม่ผ่าน!เจอร์เก้น คล็อปป์ ยัน เคอร์ติส โจนส์ ไม่ควรโดนไล่ออก
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ยืนยันว่า เคอร์ติส โจนส์ ไม่ควรถูกไล่ออกในเกมกับ สเปอร์ส โดยบอกว่ากรรมการตัดสินแบบนั้นเพราะไปดูภาพที่ถูกแช่และภาพรีเพลย์แบบสโลว์โมชั่น ทั้งที่ถ้าดูตามสถานการณ์จริงแล้วมันไม่ใช่การเข้าสกัดที่รุนแรงเลย

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยืนกรานว่า เคอร์ติส โจนส์ มิดฟิลด์ชาวอังกฤษไม่ควรโดนใบแดงในเกมที่พวกเขาแพ้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-2 แต่อย่างใด

ในนัดดังกล่าวนั้นมีจังหวะหนึ่งที่ โจนส์ เข้าสกัดใส่ อีฟส์ บิสซูม่า ซึ่งตอนแรกกรรมการ ไซม่อน ฮูเปอร์ แจกแค่ใบเหลือง แต่พอทีมงาน วีเออาร์ แนะให้เขาไปดูภาพช้าที่ขอข้างสนาม ฮูเปอร์ ก็กลับคำตัดสินเป็นใบแดง โดยในเวลาต่อมา ลิเวอร์พูล ยื่นอุทธรณ์กับคำตัดสินนี้ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จจนทำให้ โจนส์ จะอดช่วยทีม 3 เกม ประกอบด้วยนัดเจอกับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน, เอฟเวอร์ตัน และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

"เคอร์ติส โจนส์ ได้รับใบแดง และผมก็ยืนกรานกับความเห็นที่ว่ามันไม่สมควรเป็นใบแดงเลย กรรมการโดนเรียกให้ไปดูหน้าจอและเห็นภาพที่โดนแช่เอาไว้ 3 วินาที ถ้าดูแค่ภาพแบบนั้นน่ะผมเองก็คงให้ใบแดงเหมือนกัน จากนั้นเขาได้ดูภาพช้าแบบสโลว์โมชั่น และถ้าเป็นผมเองก็คงจะให้ใบแดงหลังจากเห็นภาพสโลว์โมชั่นเหมือนกัน แต่ถ้าดูตามจังหวะที่เกิดขึ้นจริงๆ แล้วน่ะมันไม่ควรเป็นใบแดงเลย"

"คุณทำการอุทธรณ์กับใบแดงนั้น แล้วคณะกรรมการของ เอฟเอ ก็บอกว่ามัน (การตัดสินของกรรมการ) ไม่ใช่การตัดสินที่ผิดพลาดแบบร้ายแรงอย่างชัดเจน แต่ผมคิดว่าพวกเขาทำพลาด ตอนแรกกรรมการตัดสินว่าเป็นใบเหลืองเท่านั้น ดังนั้นสิ่งที่ถือเป็นความผิดพลาดแบบชัดเจนก็คือการที่มีการใช้ภาพที่ถูกแช่และภาพช้าแบบสโลว์โมชั่น"

"มันมีหลายอย่างเกิดขึ้นและเราจะอดใช้งาน เคอร์ติส แถม ดีโอโก้ โชต้า ก็มาโดนใบเหลือง 2 ใบ ทั้งที่หนึ่งในจังหวะนั้นเขาไม่ได้โดนตัวนักเตะของอีกฝ่ายเลย มันไม่เคยเกิดอะไรแบบนี้มาก่อน แต่โอเค ทุกอย่างจบแล้ว เราสามารถเอาเรื่องดีๆ หลายอย่างมาจากเกมนี้ได้ ซึ่งเราก็ทำอย่างนั้นจริงๆ เพราะผมได้เห็นทีมที่สู้ได้ดีแม้จะเจอกับอุปสรรคมากมายก็ตาม"

"จริงอยู่ว่าเราไม่ได้คะแนนจากเกมนี้ แต่เราสามารถใช้ประโยชน์จากเรื่องอื่นๆ ที่เหลือได้ ซึ่งเราจะทำอย่างนั้น และเราจะไม่ทำด้วยความโกรธด้วย ตอนนี้เราไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแล้ว"


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport