ถ้าเจอ เซอร์อเล็กซ์ ไม่รอดแน่!เบอร์บาตอฟ ติง ซานโช่ ทำผิดมหันต์

ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ อดีตยอดกองหน้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตำหนิ เจดอน ซานโช่ ว่าทำไม่ถูกต้องที่ตอบโต้ เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" ในที่สาธารณะ แทนที่จะไปคุยกับ เทน ฮาก แบบตรงๆ เป็นการภายใน

เรื่องราวระหว่าง ซานโช่ กับ เทน ฮาก กลายเป็นหนึ่งในประเด็นร้อนในช่วงที่ผ่านมา หลังจากกุนซือชาวดัตช์เคยบอกว่าสาเหตุที่ ซานโช่ ไม่มีชื่อในเกมกับ อาร์เซน่อล เป็นเพราะอีกฝ่ายซ้อมได้ไม่ดี ขณะที่ดาวเตะชาวอังกฤษโพสต์ตอบโต้อย่างหนักบน ทวิตเตอร์ โดยที่ล่าสุดเป็นที่เชื่อกันว่าความบาดหมางระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่ดีขึ้นเลย

เบอร์บาตอฟ เผยว่า "ผมจะไม่แปลกใจเลยสักนิดถ้าหากหลังจากนี้ ซานโช่ จะไม่ค่อยได้ลงเล่นให้กับ ยูไนเต็ด บางครั้งคนเป็นนักเตะจะคิดว่าพวกเขาเป็นคนที่สำคัญสุดขีด และการออกมาพูดในที่สาธารณะจะช่วยเปลี่ยนแปลงบางอย่างได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันมีแต่จะทำให้สถานการณ์แย่ลง"

"ผมไม่ชอบสิ่งที่เกิดขึ้่นในกรณีนี้ ซานโช่ ควรจะเข้าไปหา เทน ฮาก โดยตรง แล้วพูดกับเขาแบบซึ่งๆ หน้าถึงจะถูก ตอนนี้มันกลายเป็นว่าสถานการณ์มันออกได้ทุกหน้า ถ้าเกิดผู้จัดการทีมชอบนักเตะคนไหนก็ตามแล้วน่ะ ต่อให้คุณทำพลาดไปบ้างแต่ผู้จัดการทีมก็มีโอกาสที่จะยกโทษให้คุณได้ง่ายกว่า, เก็บคุณเอาไว้กับทีมง่ายกว่า และให้โอกาสคุณอีกครั้งง่ายกว่า (เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้เป็นนักเตะคนโปรด)"

"ในทางกลับกัน ถ้าเขาไม่ชอบคุณแล้วน่ะสถานการณ์มันก็จะยากลำบากทันที คุณต้องทำงานหนักกว่าเดิมเพื่อที่จะกลับไปติดทีมให้ได้ ผมบอกเลยว่าถ้า เจดอน ซานโช่ ทำอะไรแบบนี้ในตอนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังเป็นผู้จัดการทีมอยู่แล้วล่ะก็ เขาก็คงจะโดนขับออกจากสโมสรไปแล้ว เพราะไม่มีใครใหญ่กว่าทีม"

"เทน ฮาก แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถหนักแน่นกับจุดยืนของตัวเองได้เมื่อถึงตอนที่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น เหมือนอย่างกรณีของ (คริสเตียโน่) โรนัลโด้ ผู้จัดการทีมคนนี้หนักแน่นกับจุดยืนของเขา เขารู้ว่าเขาต้องการอะไร และสามารถตัดความสัมพันธ์กับนักเตะระดับสตาร์ดังได้สบายๆ เขาไม่กลัวที่จะทำให้มือของตัวเองต้องสกปรกอย่างในกรณีนี้ เพราะเขาคือคนที่เป็นผู้จัดการทีม, เป็นคนคุมทีม และมีอำนาจตัดสินใจ"

"เทน ฮาก มีสิทธิ์ทุกประการที่จะพูดว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจทำเรื่องนั้นๆ ถ้าเกิด ซานโช่ ซ้อมได้ไม่ดี นั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่ติดทีม ซานโช่ ไม่ควรจะออกมาพูดบนโซเชียลมีเดีย เขาควรจะเข้าไปหาผู้จัดการทีมในห้องทำงานของอีกฝ่ายแล้วบอกว่าเขาทุ่มสุดตัวแล้ว พร้อมกับบอกว่าครั้งหน้าจะทำให้ดีขึ้น เขาควรจะเก็บให้มันเป็นเรื่องภายใน ไม่ใช่ออกมาป่าวประกาศในที่สาธารณะ เพราะมันกลายเป็นว่าตอนนี้เราเอาแต่พูดถึงประเด็นนี้มากกว่าเรื่องฟุตบอลแล้ว"