หนักขนาดไหน?สื่ออัปเดตอาการเดี้ยงของ วาราน

สื่อเมืองแมนเชสเตอร์เผยความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของ ราฟาแอล วาราน ออกมาแล้วหลังจากสตาร์ทีมชาติ ฝรั่งเศส มีปัญหาที่ข้อเท้าจนโดนเปลี่ยนตัวออกในเกมดาร์บี้แมตช์นัดบุกไปแพ้ แมนฯ ซิตี้ 6-3 ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

วาราน มีปัญหาที่ข้อเท้าในช่วงท้ายครึ่งแรกแมตช์ปะทะกับทีมร่วมเมือง และเล่นต่อไม่ไหวโดยต้องเดินออกจากสนามให้ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติ สวีเดน ลงไปรับช่วงแทน

ต่อกรณีดังกล่าว เชื่อกันว่าอดีตกองหลังทีม เรอัล มาดริด ไม่น่าจะเจ็บหนัก กระทั่งล่าสุดเมื่อ 3 ต.ค.แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ ระบุว่าพ่อค้าแข้งเลือดน้ำหอมไม่น่าจะร้างสนามไปนานเช่นกัน

ทั้งนี้ สื่อสำนักดังกล่าวเผยว่ากองหลังวัย 29 ปีเดินทางมาที่สนามซ้อม แคร์ริงตัน ในวันจันทร์ด้วยโดยเขาขับรถมาเองได้ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเจ้าตัวลงซ้อมได้หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ คริสเตียน เอริคเซ่น กองกลางทีมชาติ เดนมาร์ค เผยกับสื่อหลังเกมแพ้ เรือใบสีฟ้า ว่า เอริค เทน ฮาก นัดลูกทีมให้มาประชุมทันทีหลังเสียท่าให้กับคู่อริอย่างน่าอับอายโดยกุนซือดัตช์เปิดปากกับสื่อว่าเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้เนื่องจากนักเตะ ผีแดง ไม่มีความมั่นใจ และไม่มีความกล้าหาญมากพอ

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าอาการบาดเจ็บของ วาราน จะมีความชัดเจนมากขึ้นในวันพุธนี้เนื่องจาก เทน ฮาก ต้องแถลงข่าวกับสื่อก่อนพาทีมบุกไปเยือน โอโมเนีย นิโคเซีย ทำศึก ยูโรปาลีก วันพฤหัสบดีนี้ซึ่งจะมีการเปิดเผยอย่างแน่นอนว่าสตาร์เฟรนช์แมนพร้อมลงเล่นหรือไม่ และจะต้องร้างสนามไปนานแค่ไหน

นอกจากจะตำหนิลูกทีมแล้ว เทน ฮาก เผยกับสื่อถึงการเปลี่ยน วาราน ออกเช่นกันว่า "ผมไม่คิดว่าเขาจะเล่นต่อได้ เขาต้องออกจากสนามเพราะเมื่อคุณตกเป็นรอง 4-0 คุณก็ไม่อยากเสี่ยงให้มีอาการบาดเจ็บที่ใหญ่โต"

ถึงขณะนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ปราศจากเซ็นเตอร์ฮาล์ฟไปในคราวเดียวกันแล้วถึงสามรายเนื่องจาก แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กองหลังทีมชาติ อังกฤษ ล้มเจ็บตาม อักเซล ตวนเซเบ้ ที่เดี้ยงยาวไปก่อนแล้ว จึงทำให้พวกเขาเหลือแค่ ลินเดอเลิฟ รายเดียวที่จะได้ประสานงานร่วมกับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ เนื่องจาก ฟิล โจนส์ ไม่ถูกส่งลงทะเบียนเล่นในศึก พรีเมียร์ลีก และ ยูโรปาลีก ซีซั่นนี้

กระนั้นก็ดี ปราการหลังจอมเดี้ยงมีชื่อถูกลงทะเบียนฟาดแข้งในศึก คาราบาวคัพ โดย ผีแดง มีคิวลงเล่นรอบสามต่อกรกับ แอสตัน วิลล่า ที่สนาม โอลด์ แทรฟอร์ด วันที่ 10 พ.ย.


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport