ไม่เสริมกลางรับแล้ว = วาตารุ เอ็นโด คือตัวจริง?!

เจมส์ เพียร์ซ เหยี่ยวข่าวจาก ดิ แอธเลติก บอกว่า สถานการณ์ในตอนนี้ ลิเวอร์พูล ไม่มีความคิดที่จะซื้อนักเตะประเภทหมายเลข 6 มาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้เพิ่มแล้ว

ซึ่งหากมันเป็นแบบนั้นจริง ถือการแสดงให้เห็นว่า คล็อปป์ เชื่อมั่นในตัว วาตารุ เอ็นโด อย่างมาก 

ดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่น ถูกดึงเข้ามาเพื่อให้เป็นตัวจริง

ถามว่าเพราะอะไร ถึงเป็นเช่นนั้น แค่ เอ็นโด คนเดียวจะพอเหรอ?!

อดีตคนข่าวแห่ง ลิเวอร์พูลเอ็คโค่ บอกว่า ด้วยความที่ สเตฟาน บายเซติช กลับมาสู่ทีมได้ในวันเสาร์ หลังเจ็บจนต้องพักไป 5 เดือน 

แข้งดาวรุ่งสแปนิชจะเป็นตัวเลือกสำรองที่เหมาะสมในตำแหน่งนี้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ ลิเวอร์พูล ยังคงมองหาอยู่คือกองกลางแบบสารพัดประโยชน์ 

พวกเขาสนใจในตัว ไรอัน กราเฟนแบร์ก มานานแล้ว แต่ บาเยิร์น มิวนิค มีจุดยืนมาตลอดช่วงซัมเมอร์ว่าไม่คิดที่จะขาย

นับตั้งแต่ที่ย้ายมาจาก อาแจ็กซ์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน ด้วยค่าตัว 21 ล้านปอนด์ ดาวเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ไม่มีโอกาสได้ลงเล่นมากนักใน เยอรมนี 

อย่างเกมกับ แวร์เดอร์ เบรเมน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเขาก็เป็นตัวสำรองที่ไม่ถูกใช้งาน 

ถ้าหาก บาเยิร์น เปลี่ยนจุดยืนของตัวเอง และพร้อมจะรับฟังข้อเสนอจากทุกทีมแล้วล่ะก็ ลิเวอร์พูล จะร่วมวงล่าตัวเขาด้วย

ขุมกำลังของ คล็อปป์ ยังดูไม่พร้อมเท่าไหร่ มิดฟิลด์อีก 1 คนจะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญเพื่อเติมเต็มสิ่งที่พวกเขามีอยู่ในตอนนี้ 

และถ้าเป็นไปได้ ลิเวอร์พูล ก็อยากจะเสริมแกร่งในแนวรับเช่นกัน

ในการให้สัมภาษณ์กับ เพียร์ซ ของ เอ็นโด 

เขาเล่าถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้ที่ ลิเวอร์พูล พัวพันกับ มอยเซส ไกเซโด้

"บอกตรง ๆ เลยนะ ผมเองก็ตามข่าว ลิเวอร์พูล อยู่ ซึ่งพวกเขาอยากได้มิดฟิลด์ พวกเขาต้องการผู้เล่นตำแหน่งหมายเลข 6" เขาเผย

"ผมคิดไปแล้วว่า ไกเซโด้ ย้ายไปอยู่ ลิเวอร์พูล!(หัวเราะ) แล้วตอนที่ผมได้ยินว่าเขาไป เชลซี ผมก็คิดว่าคงแค่ 'อาจจะ'"

"ผมว่าบางทีพวกเขาต้องการกองกลางที่มีประสบการณ์ หรืออะไรประมาณนั้น เพราะ (จอร์แดน) เฮนเดอร์สัน และ ฟาบินโญ่ ต่างย้ายออกไป ผมคิดว่านั่นอาจจะเป็นโอกาส"

"ผมเข้าใจว่าสโมสรระดับท็อปอยากได้ตัวดาวรุ่ง แต่อย่างที่คุณทราบ ผมบอกกับตัวเองว่า -นี่คือโอกาสเดียวที่คุณสามารถไปอยู่ ลิเวอร์พูล เพราะพวกเขามักจะพยายามคว้าผู้เล่นอายุน้อย ๆ- แล้วผมก็ได้โอกาสนั้น และคว้ามันเอาไว้"

ความจริงเมื่อตอนต้นสัปดาห์ก่อน เอ็นโด เตรียมตัวเพื่อลงเล่นให้ สตุ๊ดการ์ท ในเกมนัดเปิดฤดูกาล บุนเดสลีกา ที่จะเจอกับ โบคุ่ม 

แต่ชีวิตเขาก็พลิกผัน เมื่อได้รับสายจากเอเยนต์ส่วนตัว

"แค่ 3-4 วันก่อนหน้านี้เอง มันเกิดขึ้นเร็วมาก" ดาวเตะซามูไรวัย 30 ปีเผยถึงครั้งแรกที่รับรู้ว่าเป็นที่ต้องการของ ลิเวอร์พูล

"เอเยนต์ของผมโทรมา และผมต้องตัดสินใจให้ไว ผมไม่สามารถปฏิเสธได้เลย เพราะการได้เล่น พรีเมียร์ลีก คือความฝันของผมมาตลอด"

"ผมบอกกับเอเยนต์เสมอว่าผมต้องการเล่นใน พรีเมียร์ลีก กับทีมระดับท็อป ซึ่งผมก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว!"

"ผมเตรียมพร้อมที่จะเล่นในศึก บุนเดสลีกา แล้วตอนนี้ผมได้มาเล่นต่อหน้าแฟน ๆ เหล่านี้ที่นี่ที่ แอนฟิลด์ ในเกม พรีเมียร์ลีก มันบ้ามาก ๆ เลยล่ะ"

"ผมมีเวลาซ้อมแค่เซสชั่นเดียว ดังนั้นผมจึงต้องพยายามทำตัวให้พร้อมมากที่สุดเท่าที่ผมทำได้ ผมเป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์ ดังนั้นผมจำเป็นต้องยอมรับ และจัดการกับสถานการณ์แบบนี้"

การมาเล่นที่ ลิเวอร์พูล นั้น เอ็นโด ยอมรับว่าได้ขอคำแนะนำจาก ทาคูมิ มินามิโนะ อดีตผู้เล่น ลิเวอร์พูล และ ทาเคฮิโร่ โทมิยาสึ แนวรับ อาร์เซน่อล ซึ่งเป็นสองนักเตะเพื่อนร่วมทีมชาติ

"เมื่อวานนี้ ผมคุยกับ ทาคิ ว่าทีมนี้เป็นอย่างไรบ้าง รวมถึงถาม โทมิยาสึ ว่า พรีเมียร์ลีก เป็นอย่างไร"

.

.

.

เกมกับ บอร์นมัธ ที่ แอนฟิลด์ เอ็นโด มีชื่อเป็นตัวสำรอง และได้ลงสนามตอนนาที 60 ในสถานการณ์ที่ ลิเวอร์พูล นำอยู่ 2-1 แต่เป็นรองเรื่องตัวผู้เล่น

"มันมหัศจรรย์มากเลยที่ได้เล่นที่นี่ ทั้งความรู้สึก, บรรยากาศ อันยอดเยี่ยม ตอนวอร์มอัปแล้วได้ยินแฟน ๆ ตะโกนชื่อของผม พวกเขาสร้างบรรยากาศที่พิเศษ และผมมีความสุขจริง ๆ ที่ได้เล่นที่ แอนฟิลด์"

"ผู้จัดการทีมบอกกับผมว่าให้เล่นเหมือนอย่างที่ทำใน บุนเดสลีกา และพยายามทำแบบที่ผมเคยทำมาตลอด"

"เรื่องแรงปะทะมันมีมากกว่าที่ บุนเดสลีกา ทีมพรีเมียร์ลีกต่างมีผู้เล่นที่แข็งแรง ดังนั้นมันแตกต่างมากเลย"

"จังหวะการเล่นก็เร็วกว่าด้วย ยกตัวอย่าง ที่นี่ผมจะต้องเล่นบอลจังหวะเดียวมากกว่าเดิม ผมจำเป็นต้องเปลี่ยนมายด์เซ็ต และปรับตัวเพื่อรับบทบาทหมายเลข 6 กับที่นี่"

"ผมยังจำเป็นต้องทำงานให้หนัก ผมต้องการเวลาเพื่อทำให้ดีขึ้น และปรับตัวให้เข้ากับเรื่องการใช้พละกำลังทางร่างกายได้"

"แต่ผมคิดว่านี่เป็นก้าวย่างที่ยอดเยี่ยมเลย"

-HOSSALONSO-


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport