เทรนท์ จ่อหลุดโผบอลโลก,ทรอสซาร์ เรียกรอยยิ้มนายใหม่! 5 ข้อ ลิเวอร์พูล โดน ไบรท์ตัน บุกแบ่งแต้ม

ลิเวอร์พูล กลับมาทำศึก พรีเมียร์ลีก อีกรอบหลังมีเกมทีมชาติเข้ามาแทรก และแม้จะได้บู๊ใน แอนฟิลด์ รังของตัวเอง แต่ยังกู้ฟอร์มเก่งกลับคืนมาไม่สำเร็จโดยทำได้แค่เสมอกับ ไบรท์ตัน 3-3 เมื่อวันเสาร์ที่ 1 ต.ค.

ในทางกลับกัน ทีม นกนางนวล หลังพ้นยุคของ แกรม พ็อตเตอร์ โดยมี โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลี่ยนย้ายมารับภาระแทน แต่ถือได้ว่าอดีตโค้ชทีม ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค เปิดตัวได้อย่างน่าจดจำไม่น้อยเลยกับการสร้างความหนักใจให้กับ เจอร์เก้น คล็อปป์

1.ฟีร์มิโน่ อยู่หรือไป?


โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ คือนักเตะ ลิเวอร์พูล อีกรายที่กำลังจะหมดสัญญากับสโมสรหลังจบซีซั่นนี้

มีการตั้งข้อสังเกตกันว่าศูนย์หน้าทีมชาติ บราซิล อาจรับใช้ หงส์แดง เป็นปีสุดท้ายเนื่องจากยังไม่ได้ต่อสัญญาใหม่ อีกทั้งมีอายุเข้าหลักเลขสามแล้ว

ขณะเดียวกัน คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันจัดแจงคว้าบรรดาพ่อค้าแข้งตัวรุกเข้ามาเป็นอนาคตของทีมเรียบร้อยแล้วหลายรายโดยล่าสุดได้แก่ ดาร์วิน นูนเญซ หัวหอกทีมชาติ อุรุกวัย

อย่างไรก็ดี จากฟอร์มในเกมบู๊กับ นกนางนวล ซึ่ง ฟีร์มิโน่ ได้ออกสตาร์ตก่อนหน้าทั้ง นูนเญซ และ ดีโอโก้ โชต้า ปรากฏว่าดาวเตะแซมบ้าโชว์ลูกเก๋ากระทุ้งคนเดียวสองประตูพาทีมตีเสมอได้ก่อนแซงนำ 3-2 จากการสกัดบอลเข้าประตูตัวเองของ อดัม เว็บสเตอร์

ยิ่งไปกว่านั้น ฟีร์มิโน่ แสดงให้เห็นถึงความเยือกเย็น ความนิ่ง และการหาพื้นที่ในการเบิกสกอร์ได้อย่างร้ายกาจอีกด้วยซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าเขายังเป็นนักเตะที่สามารถสร้างประโยชน์ให้ทีมได้อย่างมหาศาล

มองดูแล้ว ลิเวอร์พูล จึงน่าจะรั้งตัว ฟีร์มิโน่ เอาไว้กับทีมต่อไปอีกสักระยะ หาไม่แล้วมันอาจเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดเหมือนการขาย ซาดิโอ มาเน่ หัวหอกตัวฉกาจอีกรายให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ก็เป็นได้

2.เทรนท์ เป้าโจมตีของคู่แข่ง


กลายเป็นเป้าสำคัญของฝ่ายตรงข้ามที่ใช้โจมตี ลิเวอร์พูล เป็นหลักไปซะแล้วสำหรับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แบ็คขวาจอมบุกของ เร้ด แมชีน ซึ่งถูกวิจารณ์ว่ามีเกมรับที่ย่ำแย่

ไม่เพียงจะถูก แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติ อังกฤษ เมินใช้งานในสองเกมหลังด้วยการยืนยันว่า คีแรน ทริปเปียร์ มีความสามารถรอบด้านที่ดีกว่าเท่านั้น แต่ ไบรท์ตัน ยังร่วมจี้ให้เห็นเช่นกันว่าปราการหลังวัย 23 ปีมีจุดอ่อนในเรื่องการเล่นเกมรับจริงอย่างที่โดนตำหนิ

นอกจากจะมีส่วนทำพลาดจนเสียสองประตูแรกให้กับ นกนางนวล แล้ว ส่วนใหญ่ทีมของ เด แซร์บี้ แสดงเจตนาเน้นขึ้นเกมรุกทางฝั่งซ้ายเล่นงาน อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เป็นหลักด้วย และได้ผลดีเป็นส่วนใหญ่

ลองเป็นอย่างนี้ก็ต้องวัดใจ คล็อปป์ ดูแล้วล่ะว่าจะคิดดร็อป อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เป็นตัวสำรองสักพักหรือเปล่าหลังจากก่อนหน้านี้สโมสรเคยมี โจ โกเมซ เป็นบ่อน้ำมัน และจะมีใครดีพอที่จะทดแทนเขาได้หรือไม่เนื่องจากเห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวกำลังมีผลงานที่ย่ำแย่ลงเป็นลำดับ แถมความเชื่อมั่นยังตกลงไปอีกด้วยหลังถูก เซาธ์เกต มองข้าม

ขณะเดียวกัน หากยังเล่นได้อย่างเลวร้ายแบบนี้ต่อไปก็อาจฟันธงล่วงหน้าได้เลยว่า อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เสี่ยงที่จะหลุดโผทีม สิงโตคำราม ชุด ฟุตบอลโลก สูงเนื่องจากเขาไม่อยู่ในสายตาของ กุนซือ ทรี ไลอ้อนส์

3. แฮตทริคที่ แอนฟิลด์


อันที่จริง เลอันโดร ทรอสซาร์ น่าจะเป็นฮีโร่ของ ไบรท์ตัน ได้แบบเต็มตัวด้วยซ้ำเนื่องจากคายพิษสงได้อย่างเหลือร้ายด้วยการบุกมากระหน่ำยิงให้ นกนางนวล นำหน้า ลิเวอร์พูล ก่อนถึง 2-0 ในเวลาแค่ 17 นาทีแรก

อย่างไรก็ดี เกมที่ แอนฟิลด์ พลิกผันถึงขนาดที่ว่า หงส์แดง หวิดคว้าสามแต้มได้เมื่อเป็นฝ่ายซัดประตูแซงนำได้อย่างเหลือเชื่อ 3-2 

แต่สุดท้าย มิดฟิลด์ทีมชาติ เบลเยี่ยม ทำให้กองเชียร์ เร้ด แมชีน คอตกจนได้เมื่อกดแฮตทริคกู้ชีพทีมเยือนได้สำเร็จในช่วงเจ็ดนาทีสุดท้ายแม้จะไม่ถึงกับเป็นวีรบุรุษของทีมในเกมนี้อย่างเต็มร้อยก็ตาม

ขณะเดียวกัน ทรอสซาร์ นับเป็นนักเตะคนแรกที่ทำแฮตทริค ในถิ่นของ ลิเวอร์พูล ได้ต่อจาก อังเดร อาร์ชาวิน อดีตขุนพลทีม อาร์เซน่อล ซึ่งเคยสร้างชื่อเอาไว้ในเดือนเม.ย. 2009

และก่อนจะถึงคิวของ อาร์ชาวิน อดีตกองหน้าทีมชาติ รัสเซีย ปีเตอร์ เอ็นเลิฟ อดีตดาวเตะทีมชาติ ซิมบับเว ก็ทำแฮตทริคใส่ ลิเวอร์พูล ที่สนามแห่งนี้ได้ในเกมเมื่อเดือนมี.ค.1995

4.ตุลาเดือนมหาโหด

อย่างที่ทราบกันว่า ลิเวอร์พูล ลงเล่นเกมแรกของเดือนต.ค.ปะทะกับ ไบรท์ตัน เป็นนัดแรกในรอบสองสัปดาห์เช่นเดียวกับทุกทีมซึ่งถูกโปรแกรมทีมชาติเข้ามาแทรก

และหลังจบเกมเปิดบ้านเสมอกับ นกนางนวล 3-3  หงส์แดง จะลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก ในเดือนนี้ซึ่งไม่นับเกมในถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก อีกห้านัด บวกกับอีกนัดในเดือนพ.ย.ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกมที่น่าเหนื่อยใจแทน คล็อปป์ แทบทั้งนั้น และอาจเป็นการบ่งชี้ได้เลยว่าซีซั่นนี้ทีมจาก แอนฟิลด์ จะหลุดวงโคจรได้ร่วมลุ้นคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้อย่างแน่นอนเลยหรือเปล่าเนื่องจากล่าสุดพวกเขาถูก อาร์เซน่อล ทีมจ่าฝูงโกยแต้มหนีไปไกลถึง 11 แต้มแล้ว

เยือน อาร์เซน่อล 9 ต.ค.

ต้อนรับ แมนฯ ซิตี้ 16 ต.ค.

ต้อนรับ เวสต์แฮม 19 ต.ค.

เยือน ฟอเรสต์ 22 ต.ค.

ต้อนรับ ลีดส์ 29 ต.ค.

เยือน สเปอร์ส 6 พ.ย.

5.เด แซร์บี้ เปิดตัวอย่างหรู


แม้ลงเอยแล้ว ไบรท์ตัน จะบุกมาเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไม่ได้ทั้งๆที่นำหน้าก่อนถึง 2-0 แต่การรอดพ้นจากความปราชัยหลังโดนยิงแซง 3-2 ย่อมต้องถือเป็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจสำหรับ เด แซร์บี้ ผู้จัดการทีมคนใหม่ของถิ่น เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม

ในฐานะตัวแทนของ แกรม พ็อตเตอร์ บอกได้เลยว่ากุนซือชาวอิตาเลี่ยนถือเป็นมือใหม่ที่โนเนมอย่างยิ่งสำหรับสมรภูมิ พรีเมียร์ลีก และยิ่งต้องประเดิมคุมทีมนัดแรกบุกมาเยือนสังเวียนแข้ง แอนฟิลด์ ก็ถือเป็นโจทย์ที่ยากมหันต์สำหรับอดีตนายใหญ่ทีม ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค

อย่างไรก็ดี หนึ่งแต้มที่คว้าไปจาก ลิเวอร์พูล ได้ต้องยกเครดิตให้ เด แซร์บี้ ว่าคุมทีมออกสตาร์ตได้อย่างน่าประทับใจแม้อันที่จริงต้องให้ความดีความชอบ พ็อตเตอร์ อดีตผู้จัดการทีมคนก่อนด้วยเช่นกันที่วางรากฐานให้กับ ไบรท์ตัน ได้อย่างยอดเยี่ยมซึ่งช่วยให้คนที่มานั่งเก้าอี้แทนสามารถสานงานต่อได้อย่างมีอนาคต

นอกจากนี้ ยังมีสถิติที่น่าทึ่งในการทำงานนัดแรกของ เด แซร์บี้ ด้วยเนื่องจาก ไบรท์ตัน มีโอกาสส่องยิง ลิเวอร์พูล ทั้งหมดหกครั้งตลอด 90 นาทีซึ่งปรากฏว่าเข้ากรอบทั้งหกครั้งบีบให้ อลิสซง ต้องโชว์ความเหนียวออกแรงเซฟช่วย หงส์แดง สามครั้งป้องกันไม่ให้ทีมดังของเมอร์ซีย์ไซด์เสียหน้าคารัง


ที่มาของภาพ : gettyimages.ae
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport