ไม่เอาคนนั้น ทำไมเอาคนนี้... มอยเซส ไกเซโด้

เราไม่รู้หรอกว่าน้ำทะเลที่เห็นนิ่ง ๆ บางทีมันอาจมีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น

และเราก็ไม่ทราบอีกเช่นกันว่า ฟ้าที่สว่างไสว แต่จู่ ๆ ฝนก็ตกดังโครม

สำหรับ ตลาดซื้อขายของ ลิเวอร์พูล ซัมเมอร์นี้ ก็คงไม่ต่างอะไรกับสองเหตุการณ์ดังกล่าว

เริ่มด้วยปิดจ็อบเร็วกับสองนักเตะใหม่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โดนิมิค โซโบซไล 

เสียนักเตะสำคัญไปพร้อม ๆ กันสองคนคือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ ฟาบินโญ่

มีข่าวพัวพันกองกลางตัวรับคนใหม่อย่าง โรเมโอ ลาเวีย แต่ข้อเสนอแล้วข้อเสนอเล่าก็ถูก เซาธ์แฮมป์ตัน ปฏิเสธ

จนกระทั่ง เชลซี ยื่นตัวเลขที่มากกว่าหวังปาดหน้า แต่กลายเป็นว่าชื่อของ มอยเซส ไกเซโด้ โผล่ขึ้นมาใกล้เป็นผู้เล่นใหม่ ลิเวอร์พูล

.

.

.

เบื้อต้นสรุปได้ว่าดีล ไกเซโด้ คือ ไบรท์ตัน ขีดเส้นตายไว้ว่าทีมใดที่อยากได้แข้งทีมชาติเอกวาดอร์ จำเป็นต้องยื่นข้อเสนอเข้ามาตอนเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม (ตามเวลาที่อังกฤษ หรือเช้าวันศุกร์บ้านเรา) 

โดยทีมที่ให้ข้อเสนอสูงสุดก็จะคว้า ไกเซโด้ ไปครอง 

เรื่องมันพีกตรงที่ว่า ลิเวอร์พูล ยื่นซอง 110 ล้านปอนด์ ขณะที่ เชลซี เขียนไป 100 ล้านปอนด์ ซึ่งนั่นทำให้ฝ่ายแรกเอาชนะในการบิดประมูล ไกเซโด้

คำถามมันเกิดต่อว่า หาก ไกเซโด้ มีใจอยากไป เชลซี แล้วฝ่ายชนะประมูลจะทำอย่างไร?

ลิเวอร์พูล มั่นใจครับว่าจะโน้มน้าว ไกเซโด้ สำเร็จ และเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน พวกเขาจึงเตรียมเอกสารทุกอย่างให้พร้อมสรรพตอนเวลา 02.29 น. คืนวันศุกร์ที่ อังกฤษ (ตามคำบอกของ ฟาบริซิโอ โรมาโน่)

ซึ่งหากไม่มีอะไรผิดพลาด ไกเซโด้ จะเข้าตรวจร่างกายกับ ลิเวอร์พูล และ เจอร์เก้น คล็อปป์ วางแผนที่จะคุยกับว่าที่ลูกทีมคนใหม่เป็นการส่วนตัวด้วย

แล้วหลังจากนั้น มอยเซส ไกเซโด้ ก็จะเป็นนักเตะที่แพงสุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ด้วยค่าตัว 110 ล้านปอนด์

.

.

.

ถึงกระนั้น ความติดใจ แคลงสงสัยของ เดอะ ค็อป ยังมีอยู่ นั่นคือทุ่มเงินได้ขนาดนี้ แต่ทำไมตอน จู๊ด เบลลิงแฮม ถึงไม่ทำ?!

ผู้เล่นทีมชาติอังกฤษวัย 20 ปีสนนค่าตัวรวมแอด-ออนส์อยู่ที่ราว ๆ 114 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นตัวเลขแทบไม่ต่างกับราคา ไกเซโด้

ถามว่า ลิเวอร์พูล เตรียมเงินเพื่อซื้อ เบลลิงแฮม ไหม? ตอบได้เลยว่า "เตรียม"

กอปรกับข่าวที่ออกมาว่าสโมสรมีงบประมาณให้ช็อปในซัมเมอร์นี้ที่ราว ๆ 150 ล้านปอนด์

แต่ค่าตัวของ เบลลิงแฮม คนเดียวมันก็กินไปเกิน 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว ที่เหลืออีก 30-40 ล้านปอนด์มันจะหาผู้เล่นใหม่ดี ๆ ได้มากแค่ไหน

สำคัญอีกคือ ค่าตัว 114 ล้านปอนด์ของ เบลลิงแฮม นั้น มันไม่ได้จบแค่ตรงนี้

ค่าเหนื่อยที่ เรอัล มาดริด พร้อยจ่ายให้ต่อสัปดาห์คือ 220,000 ปอนด์ สัญญา 6 ปีรวมแล้วมูลค่าเหนาะ ๆ 70 ล้านปอนด์

70 ล้านปอนด์ไม่รวมค่าตัวเลยนะครับ เมื่อรวมแล้วตัวเลขกลม ๆ ก็ประมาณ 180 ล้านปอนด์

ส่วนที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินเลยคือ เบลลิงแฮม ใจอยากไปสวมชุดสีขาวมากกว่า

ขณะเดียวกัน ไกเซโด้ ที่เพิ่งต่อสัญญาไปเมื่อต้นปี 2023 นั้น เขารับตอนนี้กับ ไบรท์ตัน ราว ๆ 60,000 ต่อสัปดาห์

แล้วหาก ลิเวอร์พูล ได้ตัวมา ค่าแรงที่จะเพิ่มให้ ไกเซโด้ น่าจะเบิ้ลไปอีกเท่าตัวเป็นอย่างน้อย (120,000 ปอนด์) หรือเต็มที่ก็จะประมาณ 150,000 ปอนด์

เท่ากับว่าเมื่อเทียบตัวเลขภายในระยะสัญญาเท่ากัน 6 ปี ลิเวอร์พูล เซฟเงินที่ได้จากการจ่าย ไกเซโด้ น้อยกว่า เบลลิงแฮม ราว ๆ 33 ล้านปอนด์ (ตีว่า ไกเซโด้ ได้ค่าเหนื่อย 120,000 ต่อสัปดาห์)

.

.

.

เมื่อแผนมันเปลี่ยนจาก เบลลิงแฮม เป็นคนอื่น ฉะนั้น กลยุทธ์ตามความถนัดของ ลิเวอร์พูล คือการเล่นแร่แปรธาตุจากงบประมาณ 150 ล้านปอนด์ ทำอย่างไรให้ได้ใช้เงินภายใต้ข้อจำกัดให้เกิดประโยชน์ที่สุด

แม็ค อัลลิสเตอร์ 35 ล้านปอนด์

โดนิมิค โซโบซไล 60 ล้านปอนด์

สองคนเท่ากับ 95 ล้านปอนด์ 

แต่นั่นแหละครับ อย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้น ในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน

ลิเวอร์พูล ได้เงินเข้าคลังเพิ่มขึ้นจากการปล่อย เฮนเดอร์สัน และ ฟาบินโญ่ อีก 52 ล้านปอนด์

และเมื่อนำไปรวมกับงบทุนเดิมที่เหลือ 55 ล้านปอนด์ ตัวเลขจึงกระโดดไปที่ 107 ล้านปอนด์

.

.

.

แล้ว ลาเวีย ล่ะ จะไปเสียเวลาทำไมตั้งนาน ?!

ลิเวอร์พูล อยากได้ดาวรุ่งเบลเจี้ยนรายนี้จริง ๆ นะครับ

แต่การที่ เซาธ์แฮมป์ตัน ตั้งราคาไว้ถึง 50 ล้านปอนด์ มันดูมากเกินจริงกับนักเตะที่อายุมากกว่า สเตฟาน บายเซติช แค่ปีเดียว

และในเมื่อสโมสรมีงบถึง 107 ล้านปอนด์ (คาดการณ์) มันจึงทำให้ ลิเวอร์พูล มีกำลังมากพอที่จะบิดประมูลให้มากกว่า เชลซี ทันเส้นตายที่ ไบรท์ตัน ขีดไว้

.

.

.

ไกเซโด้ 110 ล้านปอนด์ มันแพงเกินเหตุเปล่า ?!

แพงน่ะแพง แต่นี่คือนักเตะแบบที่ ลิเวอร์พูล ต้องการมิใช่หรือ..?

กองกลางตัวรับเกิดรูโหว่ เมื่อ ฟาบินโญ่ ออกไป บายเซติช กับประสบการณ์ 1 ปีบนเวที พรีเมียร์ลีก แบบยังไม่ใช่ตัวหลัก ดูยังมีช่องว่างตรงนั้น

แต่สำหรับ ไกเซโด้ แม้มีผ่านการลงเล่นลีกสูงสุด อังกฤษ มากกว่าหนุ่มสแปนิช 1 ปี แต่เขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วกับ ไบรท์ตัน การได้เป็นขุนพล 11 คนแรก บวกกับผลงาน "ทีมนกนางนวล" รับประกันได้ว่าเขาดีแค่ไหน

.

.

.

สุดท้าย FSG หรือกระทั่ง ยอร์ก ชมัดท์เค่อ ต้องให้โดนด่าก่อนถึงจะทำแบบนี้ไหม?!

ไม่หรอก... เราไม่รู้เลยว่าพวกเขาคิดอะไร วางแผนแบบไหนถึงได้จบลงแบบนี้ 

หลายครั้ง พวกเขาทำอะไรที่เราคาดไม่ถูกเยอะเหมือนกัน ไม่ว่าจะทั้งดีหรือแย่

พวกเขาอาจทำงานไม่ตรงกับใจ หรือไม่เป็นไปแบบนี้เราคิดไว้ 

เราทุกคนสามารถตั้งคำถามได้ หากแต่อย่าปรักปรำหรือตราหน้าว่าเขาคนนั้นจะเป็นแบบที่ตัวเราคิด

เราไม่มีวันรู้อะไรได้แน่ชัดเลยจนกว่าความจริงปรากฏต่อหน้า

HOSSALONSO


ที่มาของภาพ : GETTY IMAGE
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport