"เทรนต์" กับแผนงานของ คล็อปป์ และ ลิเวอร์พูล

ผลงานของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับลิเวอร์พูลในช่วงปลายฤดูกาลที่ผ่านมาทำให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ตัดสินใจใช้เขาในบทบาทกองกลางอีกครั้ง

ที่ต้องบอกว่าอีกครั้งก็เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยทดลองใช้แบ๊กขวาหงส์แดงเล่นเป็นกองกลางมาแล้วหนหนึ่งในเกมกับอันดอร์ร่าเมื่อสองปีก่อน ซึ่งผลลงเอยไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่

แต่การเติบโตขึ้นอีกสองปีและการเล่นเป็นอินเวิร์ตฟูลแบ๊กให้ลิเวอร์พูลในช่วงท้ายฤดูกาล 2022/23 ประกอบกับคู่ต่อสู้อย่างมอลตาไม่ได้มีมาตรฐานที่น่าหวั่นใจอะไรนัก การทดลองที่อยากเห็นอีกสักครั้งจึงเกิดขึ้น เพราะมันเป็นทางออกที่เซาธ์เกตมองหาเช่นกันสำหรับการปรับสมดุลในทีมชาติอังกฤษ

เหตุผลไม่ยากที่จะทำความเข้าใจมากนักนะครับ ก็เพราะทีมชาติอังกฤษมีแบ๊กขวาดีๆ มากมาย จะตัดใครออกจากทีมก็น่าเสียดายทั้งนั้น อย่างที่เราได้เห็นว่าศึกยูโร 2020 เซาธ์เกตใส่ชื่อแบ๊กขวาในทีมของเขาถึง 4 คน

อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, คีแรน ทริปเปียร์, ไคล์ วอล์คเกอร์ และ รีซ เจมส์

แม้เซาธ์เกตจะมีทางออกในการจัดทีมคราวนั้น คือโยกทริปเปียร์ไปเล่นแบ๊กซ้ายอย่างในเกมแรกกับโครเอเชีย หรือในบางเกมที่ใช้วอล์คเกอร์เป็นเซนเตอร์แบ๊กฝั่งขวาในระบบเซนเตอร์แบ๊กสามคน แต่มันก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีเท่าใดนัก

เพราะฉะนั้นบทบาทของเทรนต์ที่น่าจะเป็นกองกลางได้จึงน่าจะอยู่ในความคิดของเขาเสมอมา เนื่องจากไม่เพียงทำให้ทีมมีตัวเลือกในแดนกลางมากขึ้น แต่ยังจะเป็นการแก้ปัญหาปวดหัวที่มีแบ๊กขวาล้นทีมไปในตัว

แล้วผลที่ออกมาในเกมกับมอลตาก็จัดว่าสมใจอยาก เทรนต์ที่เติบโตขึ้นในเหลี่ยมมุมของการเป็นมิดฟิลด์ทำผลงานสวยงามในระดับแมนออฟเดอะแมตช์ สร้างจังหวะในประตูแรก ยิงเองในประตูที่สอง และเดินเครื่องร่วมกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ดีแคลน ไรซ์ คุมแดนกลางเบ็ดเสร็จ

แน่นอนครับคู่ต่อสู้อย่างมอลตาคงนำมาวัดผลอะไรมากไม่ได้ แต่แนวโน้มที่เกิดขึ้นตลอดหลายเดือนที่ผ่านมากับตำแหน่งกองกลางของเทรนต์ไม่ว่าจะเป็นอินเวิร์ตฟูลแบ๊กคือขยับมาเล่นกองกลางเวลาทีมทำเกมรุกที่ลิเวอร์พูลหรือยืนมิดฟิลด์เป็นหลักอย่างในเกมกับทีมชาติอังกฤษนัดล่าสุดนี้ก็ทำให้มีความมั่นใจขึ้นมาก


เซาธ์เกตเองยังพูดถึงการเล่นกองกลางอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นของ เทรนต์ ว่า เทรนต์ เริ่มคุ้นเคยกับการหันหลังให้ประตูคู่ต่อสู้เพื่อรับบอลจากเพื่อนโดยที่มีนักเตะฝ่ายตรงข้ามอยู่ข้างหลังแล้ว และก็รับมือกับมันได้ดีมาก

สิ่งที่เซาธ์เกตพูดคือความแตกต่างสำคัญระหว่างการเล่นมิดฟิลด์กับฟูลแบ๊ก เพราะการเล่นแบ๊กคุณจะหันหน้าเข้าหาประตูคู่ต่อสู้ มีพื้นที่ให้เล่น และไม่ถูกประกบ การเล่นกองกลางจึงต้องมีความระแวดระวังสิ่งต่างๆ รอบตัวมากกว่า

ก่อนหน้านี้เขาอาจจะยังทำได้ไม่ดีในการทดลองในสนามซ้อมจึงแทบไม่เคยถูกจับมาเล่นกองกลางในสนามจริง จะด้วยประสบการณ์หรือความไม่คุ้นเคยกับตำแหน่งมิดฟิลด์ก็ตาม ทว่าในเวลานี้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของเขาว่าสามารถเป็นกองกลางที่ดีคนหนึ่งได้

การเล่นกองกลางในเกมกับมอลตาไม่ใช่จับพลัดจับผลู เซาธ์เกตคุยกับเทรนต์ทางโทรศัพท์ในเรื่องนี้มาตั้งแต่สี่สัปดาห์ก่อนแล้ว และตัวเทรนต์เองก็มีการตอบสนองที่ดี เขาตื่นเต้นอยากจะลองดูอีกครั้ง

ที่สำคัญคือประโยคที่เซาธ์เกตพูดถึงเทรนต์ว่าเทรนต์สามารถนำเสนออะไรบางอย่างที่แตกต่างไปจากกองกลางคนอื่นๆ ในทีมสิงโตคำรามได้

การตวัดบอลให้ บูกาโย่ ซาก้า หลุดเข้าไปทำแอสซิสต์ในลูกแรกกับการยิงไกลสุดสวยในประตูที่สอง พละกำลังวิ่งได้ไม่มีหมดรวมทั้งการสร้างสรรค์เกมด้วยพรสวรรค์เรื่องการผ่านบอลอาจเป็นความหมายในประโยคที่เซาธ์เกตพูดถึง

มันไม่ได้หมายความว่าเทรนต์เก่งกว่ากองกลางคนอื่นๆ ในทีม เพียงแต่เขามีจุดเด่นที่สามารถสร้างประโยชน์ให้ทีมได้ เช่นเดียวกับมิดฟิลด์คนอื่นที่ก็มีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป

พัฒนาการล่าสุดของเทรนต์เชื่อมโยงมายังลิเวอร์พูลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การที่เทรนต์ถูกจับเล่นมิดฟิลด์ตั้งแต่ต้นเกมกับมอลตาโดยไม่ใช่บทบาทอินเวิร์ตฟูลแบ๊กและสามารถโชว์ผลงานที่ยอดเยี่ยมออกมาให้เห็น ย่อมเป็นเรื่องดีต่อทีมหงส์แดง

การเปลี่ยนบทบาทเทรนต์จากอินเวิร์ตฟูลแบ๊กหรือแบ๊กขวาครึ่งหนึ่ง-กองกลางครึ่งหนึ่งไปเป็นกองกลางเต็มตัวอาจจะผุดขึ้นมาในหัวของเจอร์เก้น คล็อปป์ หรือถ้าหากมันมีอยู่ก่อนแล้วก็อาจจะเป็นการตอกย้ำว่าแนวทางนี้มีโอกาสได้ผลลัพธ์ที่ดี

การลงตลาดของลิเวอร์พูลในช่วงซัมเมอร์นี้จึงอาจจะพลิกความตื่นเต้นในแดนกลางไปอยู่ที่แบ๊กขวาก็ได้ ถ้าเทรนต์จะถูกวางเป็นกองกลางแบบเต็มตัวขึ้นมาจริงๆ เนื่องจากเท่ากับว่าลิเวอร์พูลมีกองกลางคนใหม่เพิ่มขึ้นมา 2 คนแล้ว หนึ่งคือ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และสองคือ เทรนต์

เมื่อรวมกับคนที่มีอยู่อย่าง เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, เคอร์ติส โจนส์, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ และ สเตฟาน บายเซติช บางทีเป้าหมายหลักที่ ยอร์ก ชมัดท์เค่อ ผู้อำนวยการกีฬากำลังเจรจาอยู่อาจจะเป็นแบ๊กขวาคนใดคนหนึ่งก็เป็นไปได้เหมือนกัน

เทรนต์ จะมีลักษณะทู-อิน-วัน คือไม่เพียงเป็นกองกลางตัวใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพการสร้างสรรค์เกมบุกให้ทีมเท่านั้นแต่ยังไม่ต้องปรับตัวใดๆ ทั้งสิ้นกับสภาพแวดล้อมของสโมสรอีกด้วย

หากแผงมิดฟิลด์ตัวจริงของคล็อปป์ในฤดูกาล 2023/24 จะเป็น แม็ค อัลลิสเตอร์ - ฟาบินโญ่ - เทรนต์ โดยมี เฮนโด้, ติอาโก้, โจนส์, เอลเลียตต์ และ บายเซติช เป็นตัวสำรองจริงๆ ก็ทำให้กองกลางของทีมกลายเป็นเพียงพอและน่าสนใจขึ้นมาอย่างน่าทึ่งทีเดียว

ตรงนี้ต้องเดาใจ เจอร์เก้น คล็อปป์ ว่าเขามีแผนใช้งาน เทรนต์ ในฤดูกาลใหม่อย่างไร จะให้กลับไปเป็นแบ๊กขวาเหมือนเดิม หรือวางระบบเล่นแบ๊กขวาแบบอินเวิร์ตฟูลแบ๊กอย่างช่วงปลายซีซั่นก่อน หรือปรับขึ้นมาเป็นกองกลางเต็มตัวไปเลย

มันยังเป็นไปได้ทั้งหมด ทุกรูปแบบต่างก็มีข้อดี-ข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือแนวทางการซื้อนักเตะใหม่ของทีมในตลาดซัมเมอร์ย่อมต้องอิงกับแผนงานการใช้เทรนต์อย่างไม่ต้องสงสัย

ผมเชื่อว่าคล็อปป์มีแผนใช้เทรนต์ที่แน่นอนเอาไว้แล้ว ผลงานการเล่นกองกลางของเทรนต์ในเกมกับมอลตาจะไม่ทำให้แผนนั้นเปลี่ยนแปลงอะไร หากมันแค่ยิ่งยืนยันให้ชัดขึ้นเท่านั้นว่าแบ๊กขวาสเก๊าเซอร์คนนี้สามารถเป็นทางเลือกในแดนกลางได้ถ้าทีมต้องการ

ตังกุย


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport