ถือเป็นเกมที่สุดมันอย่างแท้จริงสำหรับการฟาดแข้งฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ที่สนาม แอนฟิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 เม.ย. ซึ่ง ลิเวอร์พูล เปิดบ้านทำสงครามสัตว์ปีกกับ สเปอร์ส ได้อย่างน่าดูชมก่อนที่เจ้าถิ่นจะเอาชนะไปแบบเสียวหัวใจ 4-3 โดยมี ดีโอโก้ โชต้า สวมบทซูเปอร์ซับจอมแสบยิงประตูชัยกลบลูกตีเสมอของ ริชาร์ลิซอน ตัวสำรองของทีมเยือนที่เช็กบิลได้ในช่วงทดเวลาเช่นกัน
ถึงขณะนี้ หงส์แดง สยายปีกคว้าชัยในเกมลีกได้สี่นัดติดต่อกันแล้วพร้อมทั้งทะยานขึ้นสู่อันดับห้าของตารางคะแนนเพิ่มโอกาสได้ลุ้นตีตั๋วเล่นถ้วยใบเล็กของยุโรปมากขึ้นทุกที แต่จะถึงขั้นได้อันดับท็อปโฟร์หรือเปล่าคงต้องถามใจ แมนฯ ยูไนเต็ด ดูก่อน
1. ดิอาซ ตัวจริงเกมแรกรอบครึ่งปี
หลุยส์ ดิอาซ ปีกทีม ลิเวอร์พูล มีชื่อลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรกในรอบหกเดือนนับตั้งแต่เจ็บเข่าไปตั้งแต่เดือน ต.ค.
รวมแล้ว หงส์แดง เปลี่ยนทีมตัวจริงสามรายจากเกมชนะ เวสต์แฮม 2-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมาโดยนอกจากดาวเตะทีมชาติ โคลอมเบีย ที่เขี่ย ดีโอโก้ โชต้า หล่นไปนั่งสำรองแล้ว อิบราฮิม่า โกนาเต้ ก็หายเจ็บแย่งตำแหน่งคืนจาก โฌแอล มาติป ได้ รวมถึง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่เสียตำแหน่งให้กับ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ขณะที่ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
2. ไก่ปรับทัพสองตำแหน่ง
สเปอร์ส ซึ่งนัดก่อนไล่ตีเสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างเหลือเชื่อ 2-2 เมื่อวันพฤหัสบดีทั้งๆที่เสียประตูก่อนสองเม็ดในการคุมทีมเกมแรกวาระสองของ ไรอัน เมสัน นายใหญ่ขัดตาทัพสลับโผตัวจริงสองรายบุกมาเยือน แอนฟิลด์
สำหรับสองรายที่ว่า เบน เดวิส กับ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ถูกเลือกให้ลงบู๊แทนที่ เกลม็องต์ ล็องเลต์ กับ ริชาร์ลิซอน ซึ่งหล่นไปนั่งเป็นตัวสำรอง
3. เทรนต์ ยืนหนึ่งเจ้าพ่อแอสซิสต์
ผ่านไปแค่ 3 นาที เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ฟูลแบ็คเจ้าถิ่นก็แผลงฤทธิ์ตั้งแต่ไก่โห่เมื่อผ่านบอลให้ เคอร์ติส โจนส์ ซัดพา ลิเวอร์พูล นำเร็วซึ่งทำให้แบ็คขวาอิงลิชสร้างชื่อแอสซิสต์ในเกม พรีเมียร์ลีก ได้ห้านัดติดต่อกันเป็นครั้งที่สองหลังจากเขาเคยทำได้มาก่อนในเดือนส.ค.2019 จนกลายเป็นนักเตะคนเดียวใน พรีเมียร์ลีก ที่มีผลงานในระดับนี้ถึงสองหน
และหากจะนับเฉพาะเดือนนี้ ก็แน่นอนว่า อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แอสซิสต์มากกว่านักเตะทุกรายใน พรีเมียร์ลีก เนื่องจากมันเป็นแอสซิสต์ที่หกของเขาแล้วในเดือนเม.ย.
ขณะเดียวกัน ดิอาซ ซึ่งบวกเม็ดสองให้ เร้ด แมชีน ได้ในนาทีที่ 5 กลับมามีชื่อติดสกอร์บอร์ดเป็นหนแรกด้วยนับตั้งแต่เขาทำประตูสุดท้ายนานเกินกว่า 230 วันเลยทีเดียว
4. ซาลาห์ ได้ฉลองนัดที่ 300
ขยับมานาทีที่ 15 ลิเวอร์พูล ฉีกหนี สเปอร์ส เป็น 3-0 เนื่องจาก คริสเตียน โรเมโร่ กองหลังจอมโฉ่งฉ่างทำฟาวล์ โคดี้ กัคโป โม ซาลาห์ จึงสังหารไม่พลาดซ้ำอีกในการลงเล่นนัดที่ 300 ของเขากับสโมสรซึ่งถือเป็นสถิติที่มากที่สุดในทีมชุดนี้รองจากสามพ่อค้าแข้งอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , เจมส์ มิลเนอร์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เท่านั้น
ไม่เพียงเท่านั้น คิง ออฟ อียิปต์ ยังพังประตูในการลงเล่นที่ แอนฟิลด์ ได้เจ็ดนัดติดต่อกันในทุกรายการได้เป็นครั้งแรกของเขากับสโมสรอีกด้วย และเมื่อรวมประตูในเกมหักคอไก่ บังโม คลำเป้าให้ หงส์แดง ในทุกรายการเพิ่มเป็น 184 ประตูแล้วโดยรั้งอันดับสี่ในทำเนียบดาวยิงของสโมสรที่ลงเล่นครบ 300 นัด
200 โรเจอร์ ฮันท์
188 เอียน รัช
185 กอร์ดอน ฮ็อดจ์สัน
184 โม ซาลาห์
5. แผงหลังอย่างรั่วแย่งซีน เคน
อันที่จริง แฮร์รี่ เคน กองหน้า สเปอร์ส น่าจะถูกพูดถึงมากกว่านี้หากเกมรับที่เลวร้ายของ ไก่เดือยทอง จะไม่กลบเกลื่อนผลงานที่ยอดเยี่ยมของเขาไปซะหมด
หลังโดน ลิเวอร์พูล กระซวกไปอีกสี่เม็ด ทีมเมืองหลวงเสียประตูในเกม พรีเมียร์ลีก เดือนนี้รวม 17 ลูกแล้วซึ่งเป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดของพวกเขาในรายการนี้สำหรับการทำศึกในรอบหนึ่งเดือน
เท่านั้นไม่พอ ไก่เดือยทอง ยังเสียประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ช่วง 15 นาทีแรกของซีซั่นนี้มากถึง 13 ประตูอีกต่างหากแม้มันอาจไม่ถึงกับเป็นสถิติก็ตามเนื่องจากมีสามทีมที่แย่กว่าพวกเขากับการโดนเช็กบิลในเกม พรีเมียร์ลีก ช่วง 15 นาทีแรกโดย วูล์ฟส์ เคยเสียไปทั้งสิ้น 16 ประตูในซีซั่น 2011/12 ตามด้วย อิปสวิช 15 ประตูในซีซั่น 1994/95 และ เชฟฯ ยูไนเต็ด 14 ประตูในซีซั่น 1993/94
สำหรับ เคน ประตูตีไข่แตกที่ แอนฟิลด์ ทำให้เขาเพิ่มสถิติยิงประตูใน พรีเมียร์ลีก ให้ตัวเองเพิ่มเป็น 208 ประตูแล้ว และรั้งอันดับสองของทำเนียบร่วมกับ เวย์น รูนีย์ โดยเป็นรองแค่ อลัน เชียเรอร์ คนเดียวซึ่งตะบันได้ 260 ประตู
และหากจะนับเฉพาะซีซั่นนี้ ดาวยิงทีมชาติ อังกฤษ สอยตาข่ายใน พรีเมียร์ลีก ได้เป็น 25 ประตูแล้วซึ่งถือเป็นซีซั่นที่สี่ที่เขาทำได้ถึงหลักนี้
ขณะเดียวกัน เคน มีผลงานที่ดีในการเผชิญหน้ากับ ลิเวอร์พูล ด้วยเนื่องจากเขายิงประตู หงส์แดง ในเกม พรีเมียร์ลีก เพิ่มได้เป็น 9 ประตู เป็นรองแค่ แอนดี้ โคล คนเดียวที่ฉีกตาข่าย เร้ด แมชีน ได้มากที่สุด 11 ประตู