ศึกแดงเดือดเน้นทั้งคู่! ลิเวอร์พูล ลุ้นซิวท็อปโฟร์ ดวล แมนยู ต้องเฮแอบลุ้นแชมป์

"หงส์แดง" ทีมอันดับ 6 ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังมีลุ้นอันดับ 4 ต้องเน้นเต็มที่เพื่อซิวชัยแนวรุกไว้ใจ ดาร์วิน นูนเญซ นำทัพ ต้อนรับ "ปีศาจแดง" ทีมอันดับ 3 ที่นายใหญ่ เอริค เทน ฮาก พาทีมโชวฟอร์มสุดฮอตแถมยังมีลุ้นแชมป์ การจัดทัพวาง มาร์คัส แรชฟอร์ด ล่าสกอร์ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคมนี้

ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม 2566

ลิเวอร์พูล (6) - แมนฯ ยูไนเต็ด (3)

เวลา : 23.30 น. ถ่ายทอดสด : True Premier Football 1

สนาม : แอนฟิลด์, ลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูล ปลดล็อกคว้าชัยได้เป็นเกมแรกในรอบ 3 เกมรวมทุกรายการหลังเปิดบ้านเชือด วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 ในเกมลีกนัดล่าสุด ทำให้ หงส์แดง มี 39 แต้มจากการลงสนามไปแล้ว 24 เกมในฤดูกาลนี้ 

ความพร้อมในเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ยังคงไม่สามารถใช้งาน โจ โกเมซ, ติอาโก้ อัลคันตาร่า, คาลวิน แรมซี่ย์ และ หลุยส์ ดิอาซ ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน รวมทั้งยังต้องเช็กความฟิตของ อาร์ตูร์ เมโล่ ที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ และ นาบี เกอิต้า ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงานอีกด้วย 

ส่วนการจัดทัพคาดว่า คล็อปป์ จะมาในระบบ 4-3-3 โดยที่ โคดี้ กัคโป จะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า พร้อมกับมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ดาร์วิน นูนเญซ ขนาบข้างในพื้นที่ริมเส้นขวา-ซ้ายตามลำดับ

ขณะที่ในแดนกลางเป็นหน้าที่ของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่ และ สเตฟาน บายเซติช คอยเดินเกม ทางด้านตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กใช้งาน อิบราฮิม่า โกนาเต้ และ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ คุมหลังบ้านอยู่ด้านหน้าผู้รักษาประตูอย่าง อลีสซง เบ็คเกอร์ ที่ทำหน้าที่เฝ้าเสา

ทางฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะมา 4 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการหลังเปิดบ้านเชือด เวสต์แฮม 3-1 ในเกม เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 5 ส่วนเกมลีกนัดล่าสุดถล่มเอาชนะ เลสเตอร์ 3-0 ในเกมลีกนัดล่าสุด ทำให้ ปีศาจแดง มี 49 แต้มจากการลงสนามไปแล้ว 24 เกมในฤดูกาลนี้ 

สภาพทีมในเกมนี้ เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมชาวดัตช์ ยังคงไม่มี ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค, คริสเตียน เอริคเซ่น และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน รวมไปถึง เมสัน กรีนวู้ด ที่อยู่ในระหว่างการถูกสอบสวนเป็นการภายในก่อนตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตหลังจากที่หลุดพ้นจากคดีความแล้ว นอกจากนี้ยังต้องเช็กความฟิตของ เจดอน ซานโช่ ที่มีอาการป่วยจนพลาดการลงสนามในเกมกับ "ขุนค้อน" อีกด้วย แต่มีข่าวดีคือน่าจะได้ตัว ลุค ชอว์ ที่ชวดเกมกับ "เดอะ แฮมเมอร์ส" เพราะอาการบาดเจ็บกลับคืนสู่ทีมอีกครั้ง 

ส่วนการจัดทัพคาดว่า เทน ฮาก จะมาในระบบ 4-2-3-1 โดยที่ เวาท์ เว็กฮอร์สท์ จะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า พร้อมกับมี อันโตนี่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ปั้นเกมสนับสนุนอยู่ด้านหลัง

ขณะที่ในแดนกลางเป็นหน้าที่ของ คาเซมีโร่ และ เฟร็ด คอยเดินเกม ทางด้านตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กใช้งาน ราฟาแอล วาราน และ ลิซานโดร มาร์ติเนซ คุมหลังบ้านอยู่ด้านหน้าผู้รักษาประตูอย่าง ดาบิด เด เคอา ที่ทำหน้าที่เฝ้าเสา 

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม 

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, สเตฟาน บายเซติช - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี้ กัคโป, ดาร์วิน นูนเญซ

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - อารอน วาน-บิสซาก้า, ราฟาแอล วาราน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ลุค ชอว์ - คาเซมีโร่, เฟร็ด - อันโตนี่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด - เวาท์ เว็กฮอร์สท์

ผู้ตัดสิน : แอนดี้ แมดลี่ย์

ผลการพบกัน 5 นัดหลังสุด

วัน/เดือน/ปี รายการ    ผลการแข่งขัน

23/08/22    พรีเมียร์ลีกแมนฯ ยูไนเต็ด2 - 1ลิเวอร์พูล

12/07/22    กระชับมิตรแมนฯ ยูไนเต็ด4 - 0ลิเวอร์พูล

20/04/22 พรีเมียร์ลีกลิเวอร์พูล4 - 0แมนฯ ยูไนเต็ด

24/10/21    พรีเมียร์ลีกแมนฯ ยูไนเต็ด0 - 5ลิเวอร์พูล

14/05/21    พรีเมียร์ลีกแมนฯ ยูไนเต็ด2 - 4ลิเวอร์พูล

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

ลิเวอร์พูล 

01/03/23 ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

26/02/23 เสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

21/02/23 แพ้ เรอัล มาดริด 2-5 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ ลีก

18/02/23 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

13/02/23 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

แมนฯ ยูไนเต็ด

01/03/23 ชนะ เวสต์แฮม 3-1 (เหย้า) เอฟเอ คัพ

26/02/23 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 (สนามกลาง) ลีก คัพ 

23/02/23 ชนะ บาร์เซโลน่า 2-1 (เหย้า) ยูโรปา ลีก 

19/02/23 ชนะ เลสเตอร์ 3-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

16/02/23 เสมอ บาร์เซโลน่า 2-2 (เยือน) ยูโรปา ลีก 


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport