น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ได้นายด่านมากประสบการณ์ช่วยพาทีมเก็บคลีนชีต และคว้าชัยได้สำเร็จ ขณะที่ แข้งญี่ปุ่นฟอร์มฮอตยังร้อนแรงต่อเนื่อง ล่าสุดกดประตูชัยให้ ไบรท์ตัน เก็บสามแต้ม
ผู้รักษาประตู : เกย์ลอร์ นาบาส (ฟอเรสต์)
นายด่านวัย 36 ปีถูกดึงเข้ามาเพื่อยกระดับเกมรับของ ฟอเรสต์ และเพียงแค่เกมแรกเจ้าตัวก็แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมด้วยการป้องกันช็อตสำคัญ ๆ ได้หลายจังหวะ ยืนถูกที่ถูกตำแหน่ง และมีความนิ่งที่ประคองให้ "เจ้าป่า" ไม่เสียเปรียบ
กองหลัง : เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ (เอฟเวอร์ตัน)
ทาร์คอฟสี้ พังประตูแรกในสีเสื้อ เอฟเวอร์ตัน และเป็นประตูชัยปลดล็อกพาทีมเอาชนะ อาร์เซน่อล ได้สำเร็จ ไม่เพียงแค่นั้น อดีตแนวรับ เบิร์นลี่ย์ ยังช่วยเคลียร์บอลได้ถึง 5 ครั้ง และตัดบอลอีก 2 หน
กองหลัง : เคร็ก ดอว์สัน (วูล์ฟส์)
กระทุ้งประตูแรกได้ตั้งแต่เกมประเดิมสนามให้กับ วูล์ฟส์ คุมเกมรับได้ยอดเยี่ยม ช่วยเคลียร์บอลมากถึง 7 ครั้ง
กองหลัง : เอริค ดายเออร์ (สเปอร์ส)
เป็นหนึ่งในเกมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในระยะหลังที่ ดายเออร์ ลงสนามให้กับ สเปอร์ส ไม่ปล่อยให้ เออร์ลิง ฮาลันด์ สับไกได้เลยในช่วงครึ่งเวลาแรก และจบเกมด้วยสถิติเคลียร์บอล 4 ครั้ง และบล็อกอีก 2 หน
กองกลาง : เอแมร์ซอน โรยัล (สเปอร์ส)
นี่อาจเป็นเกมที่ดีที่สุดที่เจ้าตัวลงเล่นภายใต้สีเสื้อ "ไก่เดือยทอง" เลยก็ได้ รับมือ แจ็ค กรีลิช ได้แบบอยู่หมัด ไม่มีที่ติเลยสักนิด
กองกลาง : รูเบน เนเวส (วูล์ฟส์)
อีกหนึ่งเกมที่ เนเวส ทำได้ยอดเยี่ยมยามที่เจอกับ ลิเวอร์พูล นอกจากจะทำประตูได้แล้ว เนเวส ยังพกสถิติเกมรับชั้นยอดด้วยการเคลียร์บอล 7 ครั้ง และยังเข้าปะทะสำเร็จอีก 3 หน
กองกลาง : อามาดู โอนาน่า (เอฟเวอร์ตัน)
มิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยี่ยม ชัดให้แดนกลาง เอฟเวอร์ตัน แกร่งขึ้นชัดเจน ปะทะบอลสำเร็จ 4 ครั้งอีกทั้งยังตัดบอลได้อีก 2 หน
กองกลาง : เตเต้ (เลสเตอร์)
ปีกตัวจี๊ดพันธุ์แซมบ้า โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม มีช็อตเลี้ยงกระชากหนีแนวรับ วิลล่า ได้หลายหน และพังประตูแรกให้กับ เลสเตอร์ ได้สำเร็จ
กองหน้า : คาโอรุ มิโตมะ (ไบรท์ตัน)
กระชากลากเลื้อยได้สุดสะเด่า ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของ ไบรท์ตัน เต็มตัว นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อเขาอีกแล้ว
กองหน้า : แฮร์รี่ เคน (สเปอร์ส)
นอกเหนือจากประตูชัยที่ทำได้แล้ว เคน ยังก้าวขึ้นไปเป็นผู้เล่นคนที่ 3 ของ พรีเมียร์ลีก ที่กระทุ้งสกอร์ครบ 200 ลูกต่อจาก อลัน เชียเรอร์ และ เวย์น รูนี่ย์
กองหน้า : มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนฯ ยูไนเต็ด)
มีส่วนกับจังหวะสำคัญ ทั้งเรียกจุดโทษ และเข้าชาร์จจน แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูที่สอง