อาร์เซน่อล แชมป์, แมนยู ยังหลงทาง, แชมป์บอลโลกไม่ใช่ทุกอย่าง ! เปิดบทสัมภาษณ์ โรนัลโด้

อาร์เซน่อล แชมป์, แมนยู ยังหลงทาง, แชมป์บอลโลกไม่ใช่ทุกอย่าง ! เปิดบทสัมภาษณ์ โรนัลโด้
ทุกครั้งที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ให้สัมภาษณ์กับ เพียร์ส มอร์แกน พิธีกรชื่อดัง มักมีเรื่องน่าสนใจมากมาย และครั้งนี้ก็เช่นกันเมื่อเขาเปิดใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อนาคตการค้าแข้ง, การจากไปก่อนวัยอันควรของ ดีโอโก้ โชต้า และพาดพิง ลิโอเนล เมสซี่ รวมทั้งอีกหลายๆ ประเด็น

ซูเปอร์สตาร์สโมสรอัล นาสเซอร์ ปัจจุบันอายุ 40 ปี ยังคงโลดแล่นอยู่ในเกมลูกหนัง และผลงานก็น่าประทับใจ โดยความเป็นมืออาชีพของ "เฮียโด้" ทำให้เขาสามารถยืนระยะในวงการลูกหนังได้ยาวนาน

โรนัลโด้ มีโอกาสได้นั่งเปิดใจสัมภาษณ์กับ มอร์แกน ครั้งแรกในรอบ 3 ปีนับตั้งแต่ที่พูดคุยกันเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนกลายเป็นชนวนที่นำไปสู่การแตกหักกับ "ผีแดง"  

ตอนนั้นคำพูดของเขากลายเป็นข่าวพาดหัวใหญ่ และหลังจากนั้น "ซีอาร์ เซเว่น" ก็อำลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบจบไม่สวย แต่ทุกสิ่งที่เขาพูดไว้กลับกลายเป็นความจริงทั้งหมด

ปัจจุบันเจ้าของร่วมคนใหม่ เซอร์ จิม แร็ตคลิฟฟ์ เข้ามาดูแลด้านฟุตบอลของ แมนฯ ยูฯ แต่กระนั้น โรนัลโด้ คิดว่า "ผีแดง" ยังคงมีปัญหาไม่เปลี่ยนแปลง "ผมเสียใจเพราะพวกเขาเป็นหนึ่งในสโมสรที่สำคัญที่สุดในโลก และสโมสรยังคงอยู่ในหัวใจของผม"

"แน่นอนว่ามีหลายเหตุผลที่เป็นแบบนั้น คุณต้องมีคนฉลาด เพื่อสร้างรากฐานสำหรับอนาคต เหมือนที่พวกเขาเคยทำเมื่อหลายปีก่อน นิคกี้ บัตต์, (ไมเคิ่ล) คาร์ริค, รอย คีน, (เดวิด) เบ็คแฮม พวกเขากลายเป็นนักเตะกำลังสำคัญแต่พวกเขายังเป็นวัยรุ่น"

"ตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่มีโครงสร้างที่ชัดเจน ผมหวังว่าสิ่งนี้จะเปลี่ยนไป ทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพราะศักยภาพของสโมสรแห่งนี้ยอดเยี่ยมมาก  นี่คือหนึ่งในสโมสรที่สำคัญที่สุดของศตวรรษนี้"

"แน่นอนว่าผมเจ็บปวดที่เห็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นแบบนี้ ผมรักสโมสรนี้ แต่เราต้องซื่อสัตย์กับตัวเองและยอมรับว่าพวกเขายังไม่ได้อยู่บนเส้นทางที่ดี ตามความเห็นของผม พวกเขาต้องเปลี่ยนแปลง และไม่ใช่แค่โค้ชกับนักเตะ แต่มันต้องมากกว่านั้น" 

ขณะเดียวกัน โรนัลโด้  ยังกล่าวถึง รูเบน อโมริม กุนซือเพื่อนร่วมชาติ แมนฯ ยูฯ พร้อมแนะนำเป็นนัยว่าผู้เล่นบางคนในทีมไม่มีทัศนคติที่ถูกต้องที่จะก้าวไปสู่ความยอดเยี่ยมได้ "เขา (รูเบน อโมริม) กำลังทำอย่างเต็มที่ แล้วคุณจะให้เขาทำอะไรได้อีกล่ะ ? ปาฏิหาริย์ เหรอ ปาฏิหาริย์มันเป็นไปไม่ได้หรอก"

"พวกเรามีคำพูดในโปรตุเกสว่า -ปาฏิหาริย์มีแค่ที่ฟาติมาเท่านั้น - และเขาเองก็ไม่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้หรอก พวกเขามีนักเตะฝีเท้าดี แต่มีบางคนในนั้นยังไม่เข้าใจเลยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คืออะไร"

ขณะเดียวกัน โรนัลโด้ ยอมรับว่าตนรู้สึกเจ็บปวดที่เห็น แมนฯ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้ย่ำแย่ในช่วงเวลานี้ "ผมเคยอยู่ที่นั่นหลายปี ผมเคยได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก, ผมได้รับรางวัลบัลลง ดอร์  และผมยังได้แชมป์ 12,13,14 รายการตอนที่เล่นอยู่ที่นั่น"

"ดังนั้นผมขอย้ำอีกครั้งว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงอยู่ในหัวใจของผม ผมรักสโมสรนี้ แต่เราต้องซื่อสัตย์ และมองดูตัวเองพร้อมกับพูดว่า -ฟังนะ พวกเขายังไม่อยู่ในเส้นทางที่ดี- ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง และในความคิดของผมมันไม่ใช่แค่โค้ชกับนักเตะ แต่ต้องทุกภาคส่วน"

นอกจากนี้ โรนัลโด้ ยังแสดงความเห็นที่หลายคนยกย่อง เมสซี่ ว่าเก่งกว่าตน เพียงเพราะเขาเคยได้แชมป์ฟุตบอลโลก "เมสซี่ เก่งกว่าผมยังงั้นหรือ? ผมไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นนี้ ผมไม่ต้องการถ่อมตัว 

"คุณต้องการนำแข่งขันแค่ทัวร์นาเมนต์เดียว อย่าง ฟุตบอลโลก มากำหนดผู้เล่นที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์เหรอ? แข่งแค่ 6 หรือ 7 นัด คุณคิดว่านั่นมันยุติธรรมแล้วใช่ไหม ?"

โรนัลโด้ สร้างความฮือเมื่อสื่อรายงานว่าเขาเป็นนักเตะระดับบิลเลี่ยนแนร์คนแรกของโลก อย่างไรก็ตาม "ซีอาร์เซเว่น" เปิดใจแบบทีเล่นทีจริงว่าเขาระดับพันล้านมานานหลายปี "มันไม่จริงเลย ผมเป็นมหาเศรษฐีพันล้านมานานหลายปีแล้ว!"

"ผมรู้ว่าผมมีเงินมากแค่ไหน ผมตั้งเป้าหมายเอาไว้หลายอย่าง การเป็นมหาเศรษฐีพันล้านเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของผม หลายคนไม่ชอบ พวกเขาบอกว่าผมเย่อหยิ่ง แต่ตัวเลขไม่โกหกใคร ผมไม่ประหลาดใจเลยที่ผมเป็นเศรษฐีพันล้านคนเดียวของวงการฟุตบอล คุณมองดูสถิติทั้งหมดได้เลย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ติดอันดับท็อปทั้งนั้น"

ขณะเดียวกัน กองหน้าทีมชาติ โปรตุเกส ถูก มอร์แกน พิธีกรชาวอิงลิชซักต่อว่าใช้เงินซื้ออะไรแพงที่สุดในชีวิต "อะไรที่แพงที่สุดหรือ? เครื่องบิน โกลบอล เอ็กซ์เพรส ผมมีเครื่องบินตั้งแต่ 13 ปีก่อน แต่ผมเปลี่ยนลำใหม่เมื่อปีก่อน ดังนั้นมันจึงแพงเอาเรื่อง"

หนึ่งในเรื่องสุดเศร้าวงการฟุตบอลนั่นก็คือการเสียชีวิตของ ดีโอโก้ โชต้า กับน้องชายของเขา หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดย โรนัลโด้ กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า "ผมไม่อยากเชื่อเลยตอนที่พวกเขาส่งข้อความเรื่องที่เขาเสียชีวิต"

"ผมร้องไห้หนักมาก มันเป็นช่วงเวลาที่แสนยากลำบากสำหรับประเทศ, ครอบครัว, เพื่อนฝูง, เพื่อนร่วมทีม มันเป็นข่าวที่สุดเศร้ามากๆ"

นอกจากนี้ โรนัลโด้ ยังตั้งเป้าที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2026 ให้ได้ก่อนที่จะเข้าพิธีแต่งงานกับ จอร์จิน่า โรดริเกซ แฟนสาวซึ่งต้องการจัดพิธีแบบเป็นส่วนตัวเพราะไม่อยากมีงานใหญ่โต "ผมเคารพการตัดสินใจของเธอ"

ส่วนเรื่องการแขวนสตั๊ดนั้น โรนัลโด้ เผยว่า "ผมจะเลิกเล่นในเร็วๆ นี้ ผมคิดว่าผมคงจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจสำหรับเรื่องนี้ แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องยากลำบาก ผมอาจร้องไห้ ผมเป็นคนที่ร้องไห้ง่ายซะด้วย ผมไม่เคยเก็บความรู้สึกเอาไว้ข้างในได้ บอกตามตรง ผมเป็นคนเปิดเผยมากๆ"

"แต่ผมกำลังเตรียมตัวเรื่องอนาคตของตัวเองตั้งแต่ตอนที่ผมาอายุ 25 หรือ 26 ปีแล้ว ดังนั้นผมคิดว่าผมสามารถรับมือกับแรงกดดันนี้ได้"

เมื่อถูกถามว่าอะไรจะทำให้เขามีความสุขได้หลังจากเลิกเล่นฟุตบอล โรนัลโด้ ตอบว่า "ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีอะไรจะเทียบได้กับความตื่นเต้นอะดรีนาลีนหลั่งตอนยิงประตูได้"

"แต่ทุกสิ่งมีจุดเริ่มต้นและจุดจบ ผมคิดว่าผมจะเตรียมตัวรับมันได้ ผมยังมีความหลงใหลอย่างอื่นอยู่บ้าง และจะมีเวลามากขึ้นให้กับตัวเอง มากขึ้นให้กับครอบครัว และได้เลี้ยงดูลูกๆ ของผม”

สำหรับเรื่องที่ โรนัลโด้ เขียนข้อความว่า "เล่นฟุตบอลเพื่อสันติภาพ" บนเสื้อของเขาที่ส่งให้กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยเจ้าตัวเผยว่า "เขาเป็นหนึ่งในคนที่สามารถเปลี่ยนหรือช่วยเปลี่ยนโลกนี้ได้"

มอร์แกน ซึ่งเป็นแฟนพันธุ์แท้อาร์เซน่อล ยิงคำถามสำคัญว่า "ปืนใหญ่" มีโอกาสที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้หรือไม่ โดย โรนัลโด้ ตอบว่า "มีความเป็นไปได้ ผมคิดว่า พรีเมียร์ลีก ทุกทีมมีระดับใกล้เคียงกัน แต่คุณรู้จักพรีเมียร์ลีกดี เพราะคุณไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"

"มันเป็นลีกที่ยากลำบากมาก เป็นลีกที่แข่งขันกันเข้มข้นสุดๆ แต่ แมนเชสเตอร์ (ซิตี้) จะไม่ได้แชมป์ลีกแน่นอน ตอนนี้พวกเขาตามหลังอยู่หลายแต้ม มันอาจเป็นไปได้ก็จริง แต่ผมไม่เชื่อหรอกว่าแมนฯ ซิตี้จะคว้าแชมป์ได้ อาร์เซน่อล มีความเป็นไปได้ ต้องรอดูกันต่อไป ใช่ มันเป็นไปได้ที่ อาร์เซน่อล จะคว้าแชมป์ลีก"

โรนัลโด้ ยังเผยว่าตนเกือบย้ายมาเล่นกับ อาร์เซน่อล ก่อนซบ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2003  "บอกจากใจ เวลาผมมองอาร์เซน่อล ผมไม่ได้มองพวกเขาในฐานะคู่แข่งเลย เพราะตอนนั้นผมเกือบจะได้ไปอยู่ที่นั่นแล้ว"

"ดังนั้นผมคงไม่พูดว่าผมมีความผูกพันกับสโมสรหรอก แต่เวลาผมเห็นอาร์เซน่อล ผมชอบทีมนี้นะ ผมอยากให้พวกเขาคว้าแชมป์ เพราะเรื่องราวเหล่านี้ แต่นี่แหละชีวิต นี่แหละฟุตบอล มันเป็นเรื่องของโอกาสและช่วงเวลา ผมคว้าโอกาสย้ายมาเล่นกับ แมนฯ ยูฯ"

"บอกจากใจ ผมไม่เคยโกหก แต่ก็อาจจะมีบ้างแหละบางครั้ง ที่โกหกไปด้วยเหตุผลดีๆ ผมเกือบไปเล่นกับ อาร์เซน่อล แต่เรื่องราวของผมก็คงไม่ต่างไปมากนักหรอก อาร์เซน่อลยังคงเป็นทีมชั้นยอดและคว้าแชมป์ได้ด้วยนักเตะชั้นนำที่มี บางที อาร์เซน่อล อาจจะดีกว่านี้ก็ได้ แต่ก็คงไม่มากนัก" 

✍️ 𝐓𝐎𝐌𝐌𝐘 𝐓𝐄𝐄



ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport