ครั้งแรกแค่ 11 เกม! มูรินโญ่ และโอกาสสะสางงานที่ เบนฟิก้า

ครั้งแรกแค่ 11 เกม! มูรินโญ่ และโอกาสสะสางงานที่ เบนฟิก้า
โชเซ่ มูรินโญ่ บรรลุข้อตกลงกลับคุม เบนฟิก้า หลังครั้งแรกอยู่แค่ 11 นัดในฤดูกาล 2000-01 แม้สร้างชื่อกับ ปอร์โต้ ชี้เป็นโอกาสสะสางงานเก่ากับ "เหยี่ยวลิสบอน"

เอฟซี ปอร์โต้ คือทีมที่สร้างชื่อให้กับ โชเซ่ มูรินโญ่ ในฐานะกุนซือ หลังจากในฤดูกาล 2003-04 เขาเคยสร้างความฮือฮาด้วยการนำทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองได้ ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากซีซั่น 2002-03 ที่เขานำทีมได้แชมป์ ยูฟ่า คัพ

ผลงานระดับ 5 ดาวของ มูรินโญ่ กับ ปอร์โต้ ทำให้หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าที่จริงก่อนหน้านั้นเขาเคยรับงานกุนซือกับ 2 ทีม นั่นคือ เบนฟิก้า กับ อูนิเยา เดอ เลยเรีย ซึ่งเป็น 2 ทีมที่อยู่ในโปรตุเกสทั้งคู่ โดยที่ เบนฟิก้า คือทีมแรกในอาชีพการคุมทีมของเขาด้วย

กระทั่งล่าสุด รายงานจากสื่อทุกสำนักก็รายงานตรงกันว่า มูรินโญ่ บรรลุข้อตกลงกับ เบนฟิก้า เพื่อจะไปรับงานกุนซือคนใหม่ของที่นั่นแล้ว หลังจาก "เหยี่ยวลิสบอน" เพิ่งปลด บรูโน่ ลาจ ไปเมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา โทษฐานพาทีมแพ้ คาราบัก คู่แข่งจากอาเซอร์ไบจาน 2-3 คาบ้านในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก

เรื่องนี้มันเหมือนตลกร้ายนิดหน่อยเพราะที่จริง เบนฟิก้า ก็ผ่านเข้ามาเล่นรอบลีกของศึกชิงถ้วยบิ๊กเอียร์ได้จากการที่ในรอบคัดเลือก รอบเพลย์ออฟนั้น พวกเขาเอาชนะ เฟเนร์บาห์เช่ ที่ตอนนั้นยังมี มูรินโญ่ เป็นกุนซืออยู่ โดยผลการแข่งขันในครั้งนั้นก็ทำให้ เฟเนร์บาห์เช่ ตัดสินใจไล่ มูรินโญ่ ออกจากตำแหน่ง

สำหรับ มูรินโญ่ แล้วนั้น นี่เหมือนกับเป็นโอกาสทองที่เขาจะได้สะสางงานที่ยังค้างคาอยู่กับที่ เบนฟิก้า เพราะภาคแรกของเขากับทีมจบลงอย่างรวดเร็วจากการอยู่ในตำแหน่งเพียง 11 นัดในทุกรายการ

ย้อนกลับไปตอนฤดูกาล 2000-01 เบนฟิก้า ออกสตาร์ตฤดูกาลได้ไม่ดีเท่าไหร่จน จุ๊ปป์ ไฮย์เกส กุนซือของทีมในตอนนั้นโดนตำหนิอย่างหนัก ซึ่ง ไฮย์เกส ก็ไประเบิดอารมณ์ในงานแถลงข่าวว่า "ผมทำงานกับที่สโมสรนี้อีกต่อไปไม่ไหวแล้ว ถ้าพวกเขาอยากไล่ผมนักผมก็จะออกจากทีมตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลย"

ไม่ต้องบอกก็คงพอจะเดากันได้ว่า ไฮย์เกส โดนปล่อยออกจากทีมทันที ส่วนคนที่เข้ามาแทนเขาก็คือ มูรินโญ่ ที่ตอนนั้นยังมีอายุเพียง 37 ปีเท่านั้น และก่อนหน้านั้นรับงานเป็นผู้ช่วยเทรนเนอร์ที่ บาร์เซโลน่า โดยเขาได้รับตำแหน่งกับ เบนฟิก้า อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 กันยายน 2000

อย่างไรก็ตาม มูรินโญ่ ก็มีประเด็นกับ เบนฟิก้า ตั้งแต่ต้น เพราะตอนนั้นคนใหญ่คนโตของทีมอยากให้ เชซูอัลโด้ แฟร์เรยร่า มาเป็นผู้ช่วยของเขา แต่ว่า มูรินโญ่ ค้านหัวชนฝาและเลือก คาร์ลอส โมเซอร์ มาเป็นมือขวาของเขาแทน

ทำไมน่ะหรือ ? เพราะว่า มูรินโญ่ ไม่ชอบขี้หน้า แฟร์เรยร่า อย่างมาก เขาเจอกับอีกฝ่ายครั้งแรกตอนที่ แฟร์เรยร่า มาเป็นครูสอนงานด้านโค้ช แต่ มูรินโญ่ มองว่า แฟร์เรยร่า มีไอเดียที่ล้าสมัย โดยเจ้าของฉายา "เดอะ สเปเชี่ยล วัน" เคยพูดถึงอีกฝ่ายด้วยว่า "นี่อาจจะเทียบได้กับเรื่องราวของลาที่ทำงานอย่างหนักมาตั้ง 30 ปี แต่ไม่มีทางจะเป็นม้าได้"

ดูโอระหว่าง มูรินโญ่ กับ โมเซอร์ กลายเป็นที่ถูกใจเหล่าแฟนบอล เบนฟิก้า หลังจากทีมมีผลงานที่น่าประทับใจ แต่มันก็เกิดจุดเปลี่ยนเมื่อในช่วงหนึ่งมีการเลือกประธานของ เบนฟิก้า และ ชูเอา วาเล่ เอ อเซเวโด้ ประธานคนเก่าที่ดึง มูรินโญ่ มาทำงานนั้น แพ้การเลือกตั้งให้กับ มานูเอล วิลารินโญ่

ประเด็นก็คือ วิลารินโญ่ ประกาศเองว่าเขาจะเอา โตนี่ เข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ โดยที่ โตนี่ ถือเป็นตำนานกองกลางของ เบนฟิก้า ซึ่ง มูรินโญ่ ก็เคยวัดใจประธานคนใหม่ด้วย เพราะเขาเคยนำทีมชนะ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 3-0 และเอาเรื่องนั้นมาเป็นเหตุผลในการขอสัญญาฉบับใหม่

วิลารินโญ่ ไม่ยอมทำตามนั้น ส่งผลให้ มูรินโญ่ ลาออกจากตำแหน่งทันที โดยเขาออกจากทีมไปในวันที่ 5 ธันวาคม ปี 2000 ซึ่งในเวลาต่อมา วิลารินโญ่ ก็ยอมรับว่าตัดสินใจพลาดไป "ถ้าผมย้อนเวลากลับไปได้แล้วน่ะผมก็จะทำอีกแบบเลย ผมจะต่อสัญญาของเขา ผมมาสำนึกในภายหลังว่าเราไม่ควรจะยกเอาทัศนคติและความทะนงตนมาอยู่เหนือผลประโยชน์ขององค์กรที่เราทำงานให้"

ในสมัยแรกกับ เบนฟิก้า มูรินโญ่ นำทีมชนะได้ 6 เกมจาก 11 นัดในทุกรายการ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์พาทีมชนะ 54.55 เปอร์เซ็นต์ โดยที่เหลือแบ่งเป็นการเสมอ 3 เกมกับแพ้ 2 นัด พร้อมยิงได้ 17 ลูกและเสียไป 9 ประตู ส่วน โตนี่ ที่ถูกดึงเข้ามาคุมทีมตามความต้องการของ วิลารินโญ่ นำทีมชนะได้ 17 นัดจาก 43 เกม คิดเป็นตัวเลขเพียง 39.53 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น จนสุดท้ายเขาก็ต้องแยกทางกับทีมในเดือนธันวาคม ปี 2001

ผ่านมาแล้วราว 25 ปี มูรินโญ่ ได้กลับสู่ เบนฟิก้า อีกครั้ง ซึ่งหลังจากนี้ต้องรอดูกันว่าตอนจบของภาค 2 จะเป็นยังไง



ที่มาของภาพ : Gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport