65 ล้านยูโรเดิมพัน! ดิยาร์ร่า ฟ้องฟีฟ่า ศึกกฎหมายครั้งใหญ่สะเทือนวงการลูกหนัง

65 ล้านยูโรเดิมพัน! ดิยาร์ร่า ฟ้องฟีฟ่า ศึกกฎหมายครั้งใหญ่สะเทือนวงการลูกหนัง
ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า อดีตแข้งดังเดินหน้าฟ้องฟีฟ่าและสมาคมฟุตบอลเบลเยียม เรียกค่าเสียหายกว่า 65 ล้านยูโร หลังถูกแบนจนพลาดทั้งซีซั่น 2014/15 คดีนี้อาจกลายเป็นหมุดหมายใหม่เปลี่ยนแปลงกฎการย้ายทีมในวงการฟุตบอลโลก

ท่ามกลางกระแสความตื่นเต้นที่ลีกฟุตบอลใหญ่ๆ ในทวีปยุโรปกลับมาเตะกัน หรือกำลังจะเปิดฉากซีซั่นใหม่นั้น โลกฟุตบอลก็มีอีก 1 ข่าวที่น่าสนใจ นั่นคือเรื่องของ ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า

เปล่าเลย อดีตแข้งวัย 40 ปีไม่ได้ประกาศกลับมาเล่นฟุตบอลอาชีพหรืออะไรทำนองนั้น แต่ล่าสุดเขาตัดสินใจที่จะฟ้องร้องสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และสมาคมฟุตบอลเบลเยียม (อาร์บีเอฟ) พร้อมกับเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 65 ล้านยูโร หรือประมาณ 2,405 ล้านบาท

เท้าความก่อนว่าเรื่องในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับตอนที่ ดิยาร์ร่า เคยคิดที่จะย้ายจาก โลโคโมทีฟ มอสโก ไปอยู่กับ สปอร์ติ้ง ชาร์เลอรัว ทีมในเบลเยียมเมื่อปี 2014 หลังจากตอนนั้น ดิยาร์ร่า ไม่มีความสุขกับ โลโคโมทีฟ อย่างเช่นการผิดใจกับ เลโอนิด คูชุค เทรนเนอร์ของทีม ไปจนถึงการที่ โลโคโมทีฟ อยากลดค่าเหนื่อยของเขา

ดิยาร์ร่า ถึงขั้นปฏิเสธที่จะมาซ้อมกับสโมสร ซึ่งนั่นทำให้ โลโคโมทีฟ สั่งยกเลิกสัญญากับ ดิยาร์ร่า ในเดือนสิงหาคม ปี 2014 แถมยังเรียกค่าเสียหายจากอดีตดาวเตะ เชลซี, อาร์เซน่อล และ เรอัล มาดริด ด้วย เพราะอ้างว่าอีกฝ่ายละเมิดสัญญา

ประเด็นก็คือ ฟีฟ่า ลงมามีเอี่ยวในเรื่องนี้เช่นกัน พวกเขาสั่งแบน ดิยาร์ร่า จากการเล่นให้ทีมฟุตบอลอาชีทีมอื่นจนกว่าจะเคลียร์ข้อพิพาทกับ โลโคโมทีฟ ได้ นั่นทำให้ ดิยาร์ร่า อดย้ายซบ ชาร์เลอรัว และไม่ได้เล่นฟุตบอลอาชีพเลยตลอดทั้งฤดูกาล 2014-15 โดยตอนนั้น ดิยาร์ร่า ต้องจ่ายเงินให้ โลโคโมทีฟ เป็นเงิน 10 ล้านยูโร หรือประมาณ 370 ล้านบาทอีกต่างหาก ขณะที่ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (ซีเอเอส) ก็เห็นพ้องกับคำตัดสินของ ฟีฟ่า

กว่าที่ ดิยาร์ร่า จะกลับมาเล่นฟุตบอลได้ก็คือการซบ โอลิมปิก มาร์กเซย ในช่วงซัมเมอร์ ปี 2015 ซึ่งมันทำให้เขาแค้น ฟีฟ่า มาโดยตลอด และพยายามต่อสู้ทางกฎหมายกับองค์กรลูกหนังโลกอย่างเต็มที่

กระทั่งเมื่อเดือนตุลาคม ปีก่อน ศาลยุติธรรมของทวีปยุโรป (อีซีเจ) ก็ตัดสินให้ ดิยาร์ร่า ชนะคดีไปแล้ว โดยให้เหตุผลว่ากฎการย้ายทีมบางข้อของ ฟีฟ่า เป็นการละเมิดกฎของสหภาพยุโรป (อียู) และส่งผลเสียต่อการแข่งขัน โดยตอนนั้น อีซีเจ สั่งให้ ฟีฟ่า จ่ายค่าชดเชยเป็นเงิน 10.5 ล้านยูโร

ถึงกระนั้น ล่าสุด ดิยาร์ร่า อ้างว่า ฟีฟ่า ไม่ได้ทำตามคำตัดสินของ อีซีเจ อย่างเคร่งครัด ทำให้เขาเรียกค่าชดเชยเพิ่มเป็น 65 ล้านยูโร หรือก็คือประมาณ 6 เท่าจากเดิม โดยสหภาพนักเตะ (ฟิฟโปร), สหภาพนักเตะสาขาทวีปยุโรป (ฟิฟโปร ยุโรป) รวมถึง สหภาพนักฟุตบอลอาชีพ (ยูเอ็นเอฟพี) ก็หนุนหลังเขาอย่างเต็มที่

แถลงการณ์ของ ดิยาร์ร่า ระบุว่า "ผมถูกบีบให้ต้องสู้กับเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2014 นั่นเป็นเวลามากกว่า 11 ปีเลย! ผมรอมาพักหนึ่งก่อนที่จะเริ่มการฟ้องร้องอีกครั้ง เพราะผมเคยคิดว่าอย่างน้อย ฟีฟ่า กับสมาคมฟุตบอลเบลเยียมจะกล้าพอที่จะติดต่อมาหาผมเพื่อแก้ปัญหากันอย่างเป็นมิตร แต่มันก็ไม่เป็นแบบนั้น"

"แน่นอนว่าเรื่องในครั้งนี้ผมทำเพื่อตัวเอง และถ้าผมสามารถต่อกรกับการบีบบังคับของ ฟีฟ่า ได้ มันก็แปลว่าผมมีประวัติที่ดีในเรื่องแบบนี้ แต่ที่ผมทำแบบนี้น่ะมันเป็นการทำเพื่อบรรดาดาวรุ่งที่หวังจะสร้างชื่อ หรือคนที่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังที่ไม่มีเงินมากพอหรือความพร้อมทางจิตใจที่จะต่อกรกับ ฟีฟ่า ก่อนที่จะให้คนมีอำนาจจริงๆ มาตัดสินด้วย"

เชื่อกันว่ากระบวนการทางกฎหมายในครั้งนี้ต้องใช้เวลา 12-15 เดือนกว่าที่จะได้คำตัดสิน ซึ่งถ้าเกิด ดิยาร์ร่า ชนะคดีขึ้นมาอีก มันก็อาจจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในโลกลูกหนังเหมือนกับกรณีที่ทำให้เกิดกฎบอสแมนก็ได้


- เด็กเกร็ดบอล -



ที่มาของภาพ : Gettyimages
BY : เด็กเกร็ดบอล
เด็กเกร็ดบอล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport