วงการลูกหนังโปรตุเกสเศร้า จอร์จ คอสต้า อดีตกัปตันทีมเอฟซี ปอร์โต้ เสียชีวิตด้วยวัย 53 ปี ด้าน โชเซ่ มูรินโญ่ สุดกลั้นน้ำตา ยกย่องอดีตลูกทีมรายนี้คือผู้นำในอุดมคติที่ไม่มีวันลืม
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา วงการฟุตบอล โดยเฉพาะในประเทศโปรตุเกส ต้องพบกับข่าวเศร้าอีกครั้งเมื่อ จอร์จ คอสต้า อดีตกองหลังทีมชาติโปรตุเกส เสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย ทำให้เขาต้องจากโลกนี้ไปด้วยวัย 53 ปี
แน่นอน คอสต้า ไม่ใช่นักเตะชื่อดังระดับโลก ทำให้หลายคนอาจจะไม่รู้จักเขามากนัก แต่ที่ โปรตุเกส เขาคือหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจากสมัยที่เล่นให้กับ เอฟซี ปอร์โต้ อย่างเช่นการได้แชมป์ พรีเมยร่า ลีกา หรือลีกสูงสุดของโปรตุเกส 8 สมัย, แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 ครั้ง และแชมป์ ยูฟ่า คัพ 1 หน
ใช่แล้ว ทั้งแชมป์ ยูฟ่า คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เขาได้ร่วมกับ ปอร์โต้ มันเกิดขึ้นในยุคที่ โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นเทรนเนอร์ของที่นั่น โดยที่ คอสต้า เป็นกัปตันทีม ปอร์โต้ ในช่วงนั้นด้วย ซึ่ง มูรินโญ่ ก็รักอดีตลูกศิษย์รายนี้มากๆ
หลังรู้ข่าวการเสียชีวิตของ คอสต้า แล้วนั้น มูรินโญ่ ก็โพสต์บน อินสตาแกรม เครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดัง โดยบอกว่า "ฉันรู้ว่าถ้านายพูดกับฉันได้แล้วน่ะนายก็คงจะบอกว่า -เจ้านาย เลิกร้องห่มร้องไห้ได้แล้ว พรุ่งนี้คุณต้องนำทีมลงเล่นนะ และลูกทีมของคุณต้องการให้คุณมีสภาพพร้อมและมีจิตใจที่เข้มแข็งเข้าไว้- ฉันสัญญากับนายเลยนะ บิโช่ ฉันจะทำแบบนั้น ขอให้นายไปสู่สุคตินะ สิ่งที่นายเคยทำเอาไว้จะอยู่กับเราต่อไป"
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว มูรินโญ่ ก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ ในตอนที่นักข่าวพูดถึงการเสียชีวิตของอดีตแข้งวัย 53 ปี ระหว่างที่ มูรินโญ่ ออกงานแถลงข่าวในฐานะกุนซือของ เฟเนร์บาห์เช่ ก่อนหน้าเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก รอบ 3 กับ เฟเยนูร์ด
มูรินโญ่ กล่าวชื่นชม คอสต้า ทั้งน้ำตาด้วย โดยเฉพาะในด้านความเป็นผู้นำของเขา โดยบอกว่า "ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมมักจะพูดอยู่เสมอว่าคุณมีคนที่เป็นกัปตันทีม กับคนที่เป็นผู้นำจริงๆ สิ่งสำคัญมันไม่ใช่เรื่องปลอกแขน แต่เป็นเรื่องที่ว่าคุณแสดงให้เห็นถึงอะไรต่างหาก"
"จอร์จ เป็นหนึ่งในคนที่เหมือนกับช่วยเก็บกวาดขยะให้ และปล่อยให้โค้ชได้ทำงานในฐานะโค้ชได้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่ในฐานะผู้นำของห้องแต่งตัว สำหรับคนเป็นโค้ชแล้วนั้น เมื่อคนเป็นกัปตันทีมทำงานแบบนั้นแล้วน่ะมันก็ถือเป็นสถานการณ์ในอุดมคติเลย"
"แน่นอนว่าผมเสียใจมากๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น มาลืมเรื่องฟุตบอลกันไปสักพักดีกว่า มาให้ความสำคัญกับเรื่องของเขา เรื่องของ จอร์จ และเรื่องลูกๆ ของเขากันก่อนดีกว่า"
"ผมเศร้ากับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ที่ผมยังมาร่วมงานแถลงข่าวในวันนี้ก็เพราะถ้าเขาพูดกับผมได้แล้วล่ะก็ เขาก็คงบอกกับผมว่า -ไม่เอาน่า ไปทำหน้าที่ของคุณในงานแถลงข่าวและนำทีมของคุณลงเล่น, เอาชนะให้ได้ และลืมเรื่องของผมไปซะเถอะ- แน่ๆ ซึ่งผมจะพยายามทำแบบนั้นให้ได้ ผมจะทำงานของตัวเองทั้งในวันนี้และวันพรุ่งนี้ แล้วเอาไว้ผมจะไปร้องไห้ทีหลังเอง"
- เด็กเกร็ดบอล -