เอ็นรีเก้ แจงเหตุวุ่นวายแค่เข้าไปแยกนักเตะ ไม่ได้ตั้งใจก่อเรื่อง

เอ็นรีเก้ แจงเหตุวุ่นวายแค่เข้าไปแยกนักเตะ ไม่ได้ตั้งใจก่อเรื่อง
หลุยส์ เอ็นรีเก้ กุนซือ เปแอสเช เปิดใจเหตุปะทะ ชูเอา เปโดร แค่เข้าไปแยกนักเตะ ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายใคร พร้อมโต้คำว่า "ผู้แพ้" คือคนที่ไม่กล้าสู้ ย้ำตนคือ "รองแชมป์" ฟุตบอลสโมสรโลก 2025

หลุยส์ เอ็นรีเก้ เทรนเนอร์ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กล่าวว่าตนไม่ได้ตั้งใจทำร้าย ชูเอา เปโดร กองหน้า เชลซี แต่อย่างใด หลังจากเจ้าตัวเป็นหนึ่งในคนที่มีส่วนร่วมกับความวุ่นวายหลังจบนัดชิงชนะเลิศของศึกชิงแชมป์สโมสรโลก 2025

หลังจบนัดดังกล่าว นักเตะกับสตาฟฟ์ของทั้ง 2 ทีมก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันอย่างหนัก และชอตที่กลายเป็นประเด็นร้อนมากที่สุดคือจังหวะที่ เอ็นรีเก้ เล่นงาน เปโดร จนทำให้อีกฝ่ายเสียหลักและล้มลงไป

เมื่อโดนถามถึงจังหวะที่เขาเล่นงาน เปโดร แล้วนั้น เอ็นรีเก้ ก็ตอบว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นตอนจบเกมเป็นสิ่งที่จริงๆ แล้วทุกคนสามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นได้ ผมเองพยายามที่จะเข้าไปแยกนักเตะออกจากกัน บรรยากาศในช่วงนั้นมันเต็มไปด้วยความตึงเครียด และเราควรจะพยายามไม่ทำให้สถานการณ์มันบานปลาย"

"ผมเป็นพวกที่พร้อมแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมาอย่างเต็มเหนี่ยวเมื่อจบเกมที่มีความกดดันสูงอยู่แล้ว มันเป็นเกมที่ตึงเครียดมากๆ สำหรับเราทุกคน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ปล่อยให้อารมณ์พาไป สุดท้ายแล้วทุกคนก็มีส่วนพัวพันกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่ภาพที่ดีเท่าไหร่ และมันก็เป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากความกดดันของเกม"

"ผมเห็น มาเรสก้า ผลักคนอื่น รวมถึงมีคนอื่นที่ผลักเขาด้วย เราจำเป็นต้องแยกนักเตะออกจากกัน และผมไม่รู้ว่าแรงกดดันมันมาจากไหน แต่เราทุกคนควรจะต้องไม่ปล่อยให้มันเกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้นมา ผมยืนยันว่าความตั้งใจแรกเริ่มเดิมทีของผมคือการอยากแยกนักเตะออกจากกันเท่านั้น เพื่อที่สถานการณ์มันจะได้ไม่เลวร้ายขึ้น"

กุนซือชาวสแปนิชบอกด้วยว่าทีมของตนไม่ใช่ผู้แพ้ เพราะคำนั้นมันเอาไว้ใช้กับคนที่ไม่กล้าแม้แต่จะลุกขึ้นสู้ โดยพอถูกถามว่าเขารู้สึกเหมือนเป็นผู้แพ้แบบหมดรูปหรือไม่ เจ้าตัวก็ตอบว่า "ผมไม่ใช่ผู้แพ้ ผมเป็นรองแชมป์ คำว่า ผู้แพ้ น่ะคือคนที่ยอมแพ้ง่ายๆ คนที่ไม่แม้กระทั่งจะลุกขึ้นมาจากเตียงของตัวเอง บางคนจะเกลียดขี้หน้าผมก็ได้ แต่ทุกคนที่รู้จักผมน่ะชอบผมกันมากๆ ผมไม่รู้ว่าผมเป็นพวกที่ให้ความสำคัญกับตัวเองมากเกินไปรึเปล่าน่ะนะ แต่ผมก็คิดแบบนั้นนั่นแหละ"



ที่มาของภาพ : REUTERS
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport