โชต้าเป็นรายล่าสุด! เปิดชื่อ 11 ตำนานลูกหนังผู้ได้รับรีไทร์เบอร์เสื้อเป็นเกียรติสูงสุด

การรีไทร์หมายเลขเสื้อของนักเตะถือเป็นเกียรติอย่างสูงสำหรับพ่อค้าแข้งไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะเสียชีวิตไปแล้ว หรือว่ายังมีชีวิตอยู่

ล่าสุด ลิเวอร์พูล แชมป์ พรีเมียร์ลีก ทำตามความต้องการของสาวก เดอะ ค็อป ด้วยการประกาศรีไทร์เสื้อหมายเลข 20 ของสโมสรเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจาก ดีโอโก้ โชต้า ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิต

ด้านทีมชาติ อาร์เจนติน่า เคยยืนยันล่วงหน้าว่าจะรีไทร์เสื้อหมายเลข 10 ทันทีที่ ลิโอเนล เมสซี่ ประกาศแขวนรองเท้าเพื่อเป็นการตอบแทนที่ดาวยิงคนดังพาทีมคว้า แชมป์โลก ปี 2022 ได้สำเร็จ

ก่อนหน้านี้ ทีม ฟ้าขาว เคยประกาศยกเลิกเสื้อหมายเลข 10 มาแล้วในปี 2001 เพื่อเป็นเกียรติแก่ ดีเอโก้ มาราโดน่า สตาร์ระดับตำนานผู้พาทีมคว้า แชมป์โลก ปี 1986 แต่ถูก ฟีฟ่า สั่งเบรกเนื่องจากขัดต่อกฏ

ฉะนั้นแล้ว หากถึงวันที่ เมสซี่ รีไทร์ เราต้องรอดูกันอีกทีว่า อาร์เจนติน่า จะทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการได้หรือไม่

อย่างไรก็ดี ถึงวันนี้มีนักเตะ 11 รายที่ได้รับการรีไทร์เบอร์เสื้อก่อนที่ โชต้า จะเป็นรายล่าสุด

- ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ (โรม่า)

ต๊อตติ เป็นหนึ่งในนักเตะเพียงไม่กี่รายที่รับใช้สโมสรเดียวตั้งแต่ก้าวขึ้นมาเล่นฟุตบอลระดับอาชีพกับทีมชุดใหญ่กระทั่งแขวนรองเท้า

ในฐานะที่เป็นชาวกรุงโรมโดยกำเนิด อดีตกองหน้าทีมชาติ อิตาลี ก้าวขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ หมาป่า ในปี 1993 จนถึงปี 2017 รวมเวลาในการค้าแข้งที่ยาวนาน 24 ปี

รวมแล้ว ต๊อตติ ลงสนามไปทั้งสิ้น 783 นัด และยิงประตูได้ 307 ลูกครองทั้งตำแหน่งนักเตะที่ลงเล่นให้สโมสรมากที่สุด และดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลพร้อมทั้งได้แชมป์ เซเรีย อา กับทีมหนึ่งสมัยในซีซั่น 2000/01

หมายเลข : 10
ปี : 1993-2017
ลงสนาม : 783
ประตู : 307
แชมป์รายการหลัก : 3

- จอร์ เวอาห์ (ไลบีเรีย)

ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ และหลังจากแขวนรองเท้า เขาได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีด้วยในปี 2018 รวมเวลาอยู่ในตำแหน่งหกปี

ลงเล่นให้แผ่นดินเกิด 61 นัด และซัดได้ 22 ประตูก่อนได้รับการรีไทร์เสื้อทีมชาติหมายเลข 14 ในปี 2018

เริ่มต้นค้าแข้งในยุโรปกับ โมนาโก เป็นสโมสรแรกในปี 1988 และเป็นนักเตะแอฟริกันรายแรกที่ได้รางวัล บัลลงดอร์ ปี 1995 หลังย้ายจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไปร่วมทีม เอซี มิลาน ก่อนรีไทร์ในปี 2003 กับสโมสร อัล จาซีร่า ในยูเออี โดยเคยเล่นในอังกฤษช่วงสั้นๆกับ เชลซี และ แมนฯ ซิตี้

หมายเลข : 14
ปี : 1986-2022
ลงสนาม : 61
ประตู : 22
แชมป์รายการหลัก : 0

- โรแบร์โต้ บาจโจ้ (เบรสชา)

บาจโจ้ นับเป็นอีกหนึ่งนักเตะอิตาเลี่ยนผู้ยิ่งใหญ่ และเคยค้าแข้งกับทีมชั้นนำของประเทศหลายสโมสร

อย่างไรก็ดี เป็นทีมเล็กๆที่ให้เกียรติรีไทร์เบอร์เสื้อกับเขาหลังดาวดังประกาศแขวนรองเท้ายุติอาชีพพ่อค้าแข้ง

เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับ วิเชนซ่า ตามด้วย ฟิออเรนติน่า , ยูเวนตุส , เอซี มิลาน , โบโลญญ่า และ อินเตอร์ มิลาน ก่อนย้ายมาร่วมทีม เบรสชา ในปี 2000 ขณะที่มีอายุ 33 ปี และพาทีมคว้าอันดับแปดของ เซเรีย อา ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดของสโมสรจากการซัดได้ 10 ประตูและ 8 แอสซิสต์

ซีซั่นถัดมา แม้จะมีปัญหาบาดเจ็บรบกวน แต่ บาจโจ้ พาทีมอยู่รอดได้สำเร็จในนัดสุดท้ายของซีซั่นด้วยผลงานยิงได้ 11 ประตูจากการลงเล่นเกมลีก 12 นัด ก่อนที่เจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ ปี 1993 จะประกาศแขวนรองเท้าหลังรับใช้ เบรสชา รวมสี่ปี

หมายเลข : 10
ปี : 2000-2004
ลงสนาม : 101
ประตู : 46
แชมป์รายการหลัก : 0

- ฟรังโก้ บาเรซี่ (เอซี มิลาน)

ค้าแข้งกับ เอซี มิลาน ทีมเดียวตลอด 20 ปี กระทั่งได้รับการรีไทร์เสื้อหมายเลข 6

ก้าวขึ้นจากทีมเยาวชนประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ของ ปีศาจแดงดำ ในปี 1978 ขณะมีอายุ 18 ปี และกลายเป็นนักเตะตัวหลักของสโมสรทันทีโดยได้แชมป์ เซเรีย อา รวมหกครั้ง บวกกับแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก สามครั้ง อีกทั้งได้ผลโหวตรางวัล บัลลงดอร์ปี 1989 เป็นอันดับสองรองจาก มาร์โก แวน บาสเท่น เพื่อนร่วมสโมสร

ลงเล่นให้ เอซี มิลาน มากที่สุดเป็นอันดับสองของทีมรองจาก เปาโล มัลดินี่ 716 นัดและยิงได้ 33 ประตูก่อนรีไทร์ในปี 1997

หมายเลข : 6
ปี : 1977-1997
ลงสนาม : 716
ประตู : 33
แชมป์รายการหลัก : 9

- บ๊อบบี้ มัวร์ (เวสต์แฮม)

กัปตันทีมชาติ อังกฤษ ผู้พาทีมคว้า แชมป์โลก ได้ในปี 1966 เริ่มต้นค้าแข้งกับ เวสต์แฮม เป็นสโมสรแรก และได้รับการรีไทร์หมายเลขเสื้อหลังเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับ

อดีตเซ็นเตอร์ฮาล์ฟพาทีม ขุนค้อน คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ปี 1964 ได้เช่นกันกระทั่งได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกเมืองผู้ดี แถมปีต่อมาพาสโมสรของกรุงลอนดอนซิวแชมป์ คัพวินเนอร์ส คัพ ได้สำเร็จอีกด้วยก่อนย้ายสโมสรในปี 1974 โดยหันไปลงเล่นให้ ฟูแล่ม สามปี รวมแล้วลงบู๊ให้ ขุนค้อน 647 นัดรั้งอันดับสองนักเตะที่ลงสนามให้กับทีมมากที่สุดรองจาก บิลลี่ บอนด์ส

หมายเลข : 6
ปี : 1958-1974
ลงสนาม : 647
ประตู : 27
แชมป์รายการหลัก : 2

- เฟเรนซ์ ปุสกัส (บูดาเปสต์ ฮอนเว็ด)

อดีตกองหน้าทีมชาติ ฮังการี ค้าแข้งกับ คิสเพสต์ ฮอนเว็ด ซึ่งถูกเปลี่ยนชื่อในฐานะทีมของกองทัพเมื่อปี 1949 เป็น บูดาเปสต์ ฮอนเว็ด ทีมในประเทศแค่สโมสรเดียวก่อนย้ายมายิ่งใหญ่กับ เรอัล มาดริด และรีไทร์กับถิ่น เบร์นาเบว

รับใช้ บูดาเปสต์ ฮอนเว็ด รวม 13 ปีโดยมีผลงานสอยตาข่ายได้ 382 ลูกจาก 367 นัดกระทั่งมีการปฏิวัติเกิดขึ้นในประเทศซึ่งทำให้เขาอพยพมาใช้ชีวิตในสเปน และค้าแข้งกับ ราชันชุดขาว แปดปีโดยในปี 2000 บูดาเปสต์ ฮอนเว็ด ประกาศรีไทร์เสื้อหมายเลข 10 หลังอดีตกองหน้ามีอาการป่วยเป็นโครอัลไซเมอร์

หมายเลข : 10
ปี : 1943-1956
ลงสนาม : 367
ประตู : 382
แชมป์รายการหลัก : 5

- เปาโล มัลดินี่ (เอซี มิลาน)

เป็นนักเตะทีม ปีศาจแดงดำ รายเดียวที่ลงเล่นให้กับสโมสรด้วยจำนวนเกมที่มากกว่า บาเรซี่ และได้รับการรีไทร์เสื้อหมายเลข 3 หลังจากเขาแขวนรองเท้าในปี 2009 โดยรับใช้ มิลาน แค่สโมสรเดียวเช่นกัน

ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ด้วยวัย 16 ปีในซีซั่น 1984/85 และกลายเป็นตัวเลือกแรกในแผงหลังของสโมสรในซีซั่นต่อมาโดยพาทีมคว้าแชมป์ เซเรีย อา ห้าครั้ง บวกกับแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก สามครั้ง กระทั่งได้รับตำแหน่งกัปตันทีมในปี 1997 ซึ่งเขาสวมปลอกแขนพาทีมคว้าแชมป์ เซเรียอา และ แชมเปี้ยนส์ ลีก เพิ่มเติมได้อีกอย่างละสองหน

จนในที่สุด อดีตกองหลังรีไทร์กับสังเวียนแข้ง ซาน ซีโร่ โดยลงเล่นให้สโมสรมากถึง 901 นัด

หมายเลข : 3
ปี : 1985-2009
ลงสนาม : 901
ประตู : 33
แชมป์รายการหลัก : 13

- โยฮัน ครัฟฟ์ (อาแจ็กซ์)

เป็นหนึ่งในขุนพลทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ยุค 1970 ที่ได้รับการยกย่องจากแนวทางการเล่น โททัล ฟุตบอล และรับใช้ อาแจ็กซ์ ในสองช่วงเวลารวม 11 ปีกระทั่งได้รับการรีไทร์เสื้อหมายเลข 14 ในปี 2007

ช่วงแรกที่ลงเล่นให้ อาแจ็กซ์ สโมสรในบ้านเกิดเก้าปี เจ้าของนิคเนน "นักเตะเทวดา" พาทีมคว้าแชมป์ลีกดัตช์ได้หกสมัย รวมทั้งแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ สามสมัยซ้อนในปี 1971-1973 ก่อนย้ายไปร่วมทีม บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติโลก

หลังใช้เวลากับถิ่น คัมป์ นู ห้าปี เขาก็หันไปหากินในอเมริกาก่อนกลับสู่ อาแจ็กซ์ ในปี 1981 และได้แชมป์ลีกเพิ่มอีกสองหนในสองปีแล้วย้ายไปรีไทร์กับ เฟเยนูร์ด ทีมคู่แค้นพาทีมซิวแชมป์ลีกได้เป็นสมัยแรกในรอบสิบปี

กระนั้นก็ดี การตัดสินใจที่ฉาวโฉ่ดังกล่าวของ ครัฟฟ์ ไม่ได้ด้อยคุณค่าของเขากับ อาแจ็กซ์ ซึ่งตัดสินใจเปลี่ยนชื่อสนามตามชื่อของเขาหลังจากเขาเสียชีวิตในปี 2016

หมายเลข : 14
ปี : 1964-1973 , 1981-1983
ลงสนาม : 326
ประตู : 228
แชมป์รายการหลัก : 16

- ฟร้านซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์ (บาเยิร์น มิวนิค)

เปิดฉากปี 2024 ได้ไม่กี่วัน โลกลูกหนังต้องสูญเสียการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ เบ็คเค่นบาวเออร์ ซึ่งเสียชีวิตในวัย 78 ปี

ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในกองหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งตลอดกาลจากการรับใช้ บาเยิร์น และทีมชาติ เยอรมนี

ได้แชมป์รวม 14 โทรฟี่กับ เสือใต้ ในเวลา 13 ปีก่อนได้รับการรีไทร์หมายเลขเสื้อ

หมายเลข : 5
ปี : 1964-1977
ลงสนาม : 584
ประตู : 75
แชมป์รายการหลัก : 14

- เปเล่ (นิวยอร์ค คอสมอส)

สำหรับแฟนฟุตบอล ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เปเล่ อดีตกองหน้านามกระฉ่อนของทีมชาติ บราซิล ซึ่งถูกยกให้เป็นสตาร์เบอร์หนึ่งของโลกตลอดกาล

ได้แชมป์โลกกับทีมแซมบ้ามากถึงสามหนซึ่งไม่มีนักเตะคนไหนเทียบเท่าได้ แต่เป็น ซานโต้ส ต้นสังกัดแรกในชีวิตซึ่งเป็นต้นสังกัดเดียวของเขาในลีกบ้านเกิดที่รีไทร์เบอร์เสื้อให้เจ้าของฉายา "ไข่มุกดำ"

ค้าแข้งกับ ซานโต้ส นาน 18 ปีโดยสอยตาข่ายได้ 643 ประตูจาก 659 นัดก่อนเซ็นสัญญากับ นิวยอร์ค คอสมอส ในปี 1975 เพื่อช่วยโปรโมทลีกลูกหนังแยงกี้ และใช้เวลากับสโมสรสามปีโดยยิงได้ 37 ประตูจาก 64 นัดก่อนที่สโมสรจะถูกยุบทิ้งในปี 1985 หลังจาก เปเล่ รีไทร์กับทีมในปี 1977

กระทั่งปี 1985 นิวยอร์ค คอสมอส ก่อกำเนิดขึ้นมาอีกครั้ง และพวกเขายังคงรีไทร์เสื้อหมายเลข 10 เพื่อเป็นเกียรติแก่ เปเล่ เช่นเดิม

หมายเลข : 10
ปี : 1975-1977
ลงสนาม : 64
ประตู : 37
แชมป์รายการหลัก : 2

- ดีเอโก้ มาราโดน่า (นาโปลี)

ถูกยกให้อยู่ในระดับเดียวกับ เปเล่ และได้รับการโหวตให้เป็นนักเตะแห่งศตวรรษในเว็บไซต์ของ ฟีฟ่า เมื่อปี 2000 โดยแรกทีเดียว อาร์เจนติน่า ต้องการรีไทร์เสื้อหมายเลข 10 ให้กับเขา แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ และเป็น นาโปลี ที่รีไทร์เบอร์เสื้อให้กับ "เสือเตี้ย"

เริ่มค้าแข้งในบ้านเกิดกับ อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส ตามด้วย โบคา จูเนียร์ส ก่อนย้ายสู่ยุโรปในปี 1982 ไปค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า สองปีแล้วถูก นาโปลี ดึงตัวไปเสริมทัพด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติโลกอีกหนเช่นเดียวกับ บาร์ซ่า

ได้รับตำแหน่งกัปตันทีมในเวลาไม่นาน และพา นาโปลี ซิวแชมป์ เซเรีย อา เป็นสมัยแรกของสโมสรได้ในปี 1987 ต่อด้วยปี 1990 รวมทั้งแชมป์ ยูฟ่า คัพ ปี 1989 รวมเวลาเจ็ดปีกับสโมสร

กระทั่งปี 2000 นาโปลี ประกาศรีไทร์เบอร์เสื้อให้เขา รวมทั้งเปลี่ยนชื่อสนามตามชื่อของเขาหลังจาก มาราโดน่า เสียชีวิตในเดือนธ.ค.2020

หมายเลข : 10
ปี : 1984-1991
ลงสนาม : 257
ประตู : 115
แชมป์รายการหลัก : 4