ศึกชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 เดินหน้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายครบแล้ว โซนคอนคาเคฟตกรอบหมด ส่วน ยุโรป เหลือ 5 ทีม, อเมริกาใต้ 2 ทีม และ เอเชีย 1 ทีม นำโดย เรอัล มาดริด, บาเยิร์น, ปารีส, อัล ฮิลาล, ฟลูมิเนนเซ่ และอีกเพียบ จับตาศึกเดือดรอบก่อนรองฯ 4-5 ก.ค. นี้
ศึกชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 รอบ 16 ทีมสุดท้าย จบกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ตอนนี้เหลืออีกเพียง 8 ทีมเท่านั้นที่ยังมีลุ้นแชมป์กันอยู่
ทั้งนี้ ทีมจากทวีปยุโรปที่ตอนแรกเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาด้วยจำนวน 9 ทีมนั้น ตอนนี้เหลืออยู่ 5 ทีม ได้แก่ เชลซี, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, บาเยิร์น มิวนิค, เรอัล มาดริด และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
ส่วนทีมจากโซนอเมริกาใต้ที่เดิมเข้ารอบน็อกเอาต์มา 4 ทีม ตอนนี้เหลือ 2 ราย นั่นคือ พัลไมรัส กับ ฟลูมิเนนเซ่ ขณะที่ อัล-ฮิลาล ตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวจากทวีปเอเชียที่ผ่านรอบแบ่งกลุ่มมาได้ก็ยังได้ไปต่อ ต่างจากโซนคอนคาเคฟที่ตกรอบน็อกเอาต์ไปครบทั้ง 2 ทีม นั่นคือ อินเตอร์ ไมอามี่ กับ มอนเตอร์เรย์
สำหรับคู่แรกในรอบก่อนรองชนะเลิศจะเป็นการเจอกันระหว่าง ฟลูมิเนนเซ่ กับ อัล-ฮิลาล ในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยสำหรับ ฟลูมิเนนเซ่ พวกเขาเคยไปได้ไกลสุดในรายการนี้กับการเป็นรองแชมป์ในศึกชิงแชมป์สโมสรโลก 2023 เช่นเดียวกับ อัล-ฮิลาล ที่เคยเป็นรองแชมป์ในศึกชิงแชมป์สโมสรโลก 2022 ที่เตะกันตอนต้นปี 2023
คู่ต่อมาจะเป็นการเจอกันระหว่าง พัลไมรัส กับ เชลซี ในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้เช่นกัน โดยทาง พัลไมรัส มีดีกรีเป็นหนึ่งใน 2 ทีมจากบราซิลที่ได้เล่นรายการนี้มากที่สุดที่จำนวน 3 ครั้งเท่ากับ ฟลาเมงโก้ แถมยังเคยเป็นรองแชมป์ศึกชิงแชมป์สโมสรโลก 2021 ด้วย อย่างไรก็ตาม ทีมที่เอาชนะพวกเขาได้ในนัดชิงชนะเลิศของครั้งนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น เชลซี นั่นเอง โดยฝั่ง "สิงห์บลูส์" เป็นทีมจากอังกฤษที่ได้มาเล่นรายการนี้บ่อยที่สุด เพราะนี่คือครั้งที่ 3 ที่พวกเขาได้ลงเล่นศึกชิงแชมป์สโมสรโลก
จากนั้นจะเป็นเกมระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กับ บาเยิร์น มิวนิค ที่จะฟาดแข้งกันในวันที่ 5 กรกฎาคม ซึ่งคู่นี้เคยเจอกันมาแล้ว 15 นัดรวมทั้งเกมแบบเป็นทางการกับเกมอุ่นเครื่อง และไม่มีครั้งไหนที่จบด้วยการเสมอกันเลย โดยเป็น "เสือใต้" ที่ได้เฮบ่อยกว่าจากการชนะไป 9 ครั้ง ส่วน ปารีส เก็บชัยได้ 6 หน แถมในซีซั่นล่าสุดพวกเขายังเพิ่งเจอกันในรอบลีกของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาหมาดๆ และครั้งนั้นเป็น บาเยิร์น ที่ชนะไป 1-0
คู่สุดท้ายในรอบก่อนรองชนะเลิศจะเป็นเกมที่ เรอัล มาดริด วัดกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในวันที่ 5 กรกฎาคม โดยนี่จะถือเป็นการเจอกันครั้งที่ 17 ของคู่นี้ ซึ่ง 16 ครั้งที่ผ่านมาทีมดังจากสเปนเป็นฝ่ายกำชัยไปได้ 8 ครั้ง ส่วนทาง ดอร์ทมุนด์ ชนะได้ 3 หน ส่วนครั้งล่าสุดที่พวกเขาเจอกันก็คือศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบลีก ในฤดูกาล 2024-25 และเป็น มาดริด ที่ชนะไป 5-2
จากเกมที่ผ่านๆ มาทำให้เห็นกันว่าศึกชิงแชมป์สโมสรโลกมีโอกาสออกได้ทุกหน้า และต้องจับตาดูกันว่าเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายจะมีอะไรที่ชวนฮือฮาได้อีกหรือไม่