ผลบอล เชลซี 3-0 เอสเปร็องซ์ : ดีแล็ป ยิงเปิดซิง พาสิงห์ลิ่วรอบ 16 ทีม คลับเวิลด์คัพ

เกมชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี นัดสุดท้าย ที่สนาม ลินคอล์น ไฟแนนเชี่ยล ฟิลด์ เป็นเกมระหว่าง เชลซี สโมสรดังของอังกฤษ กับ เอสเปร็องซ์ เดอ ตูนิส ทีมจากตูนีเซีย โดยก่อนลงสนามทั้งคู่มี 3 คะแนนเท่ากัน และต้องมาแย่งตั๋วเข้ารอบใบสุดท้ายกันเอง โดยที่ เชลซี ขอแค่ผลเสมอเป็นอย่างน้อย ต่างกับอีกฝ่ายที่ต้องชนะเท่านั้น

ในนาทีที่ 14 เลียม ดีแลป ได้ลองยิงด้วยขวาจากแถวนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลก็ไปติดเซฟของ เบอเชียร์ เบน ซาอิด นายทวารของ เอสเปร็องซ์

เชลซี ได้ครองเกมเป็นส่วนใหญ่ก่อนจะมาได้ลุ้นประตูอีกครั้งในนาทีที่ 36 จาก จอช อาเชียมปง แต่บอลก็ยังติดเซฟของ เบน ซาอิด อยู่ดี

ในช่วงทดเวลานาทีแรกของครึ่งแรก เชลซี บุกขึ้นมาก่อนจะจบที่การยิงนอกกรอบของ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ แต่บอลออกหลังไป

ราว 2 นาทีหลังจากนั้น เอ็นโซ่ เปิดลูกฟรีคิกเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ โตซิน อดาราบิโอโย่ ได้ขึ้นโขกแบบเน้นๆ และบอลก็เข้าประตูไปจนทำให้ เชลซี ขึ้นนำ 1-0

ในช่วงทดเวลานาทีที่ 5 เอ็นโซ่ ยกบอลมาให้ ดีแลป แถวริมกรอบเขตโทษ ก่อนที่กองหน้าชาวอังกฤษจะแตะหนีผู้เล่นของ เอสเปร็องซ์ และยิงเข้าไป ทำให้จบครึ่งแรก เชลซี นำไป 2-0 โดยนี่ถือเป็นประตูแรกของ ดีแลป กับการเล่นให้ เชลซี ด้วย

เริ่มครึ่งหลังมาเป็น เอสเปร็องซ์ ที่ได้ลุ้นประตูก่อนตั้งแต่นาทีที่ 47 จากชอตยิงนอกกรอบของ คาลิล กูนิชี่ แต่บอลเหินข้ามคานออกหลัง

หลังจากนั้นรูปเกมกลับไปเข้าทาง เชลซี โดยในนาทีที่ 53 พวกเขาได้ลุ้นลูกที่ 3 จากจังหวะยิงของ มาโล กุสโต้ แต่บอลก็ออกหลังไป ขณะที่ 5 นาทีหลังจากนั้นเป็น คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ที่ได้ลองยิงบ้าง แต่บอลก็ไม่ตรงกรอบ

ในนาทีที่ 76 ตอนแรกกรรมการ ยาเอล ฟัลค่อน เปเรซ ตัดสินให้ เชลซี ได้ลูกจุดโทษเพราะมองว่า ยาสซีน เมริอาห์ ผู้เล่นของ เอสเปร็องซ์ ทำแฮนด์บอล โดยที่ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ไปยืนรอยิงแล้วด้วย แต่สุดท้ายทาง วีเออาร์ ก็ติดต่อเข้ามาก่อนที่กรรมการจะไปเช็กภาพที่ข้างสนาม แล้วเปลี่ยนเป็นไม่ให้ลูกจุดโทษพร้อมกับมองว่า เอ็นคุนคู ทำฟาวล์แทน

ในช่วงทดเวลานาทีที่ 7 ของครึ่งหลัง เชลซี มาได้ประตูที่ 3 จากการยิงของ ไทริค จอร์จ โดยที่จริง เบน ซาอิด พยายามล้มตัวปัดบอลแล้ว แต่บอลก็ยังตรงเข้าประตูไปได้

จบเกมเป็น เชลซี ที่เอาชนะไปได้ 3-0 ทำให้พวกเขามี 6 คะแนนจากการลงเล่น 2 นัด และเข้ารอบในฐานะรองแชมป์ของกลุ่ม ดี โดยจะไปเจอกับ เบนฟิก้า ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป ส่วน เอสเปร็องซ์ ตกรอบในฐานะอันดับ 3 ของกลุ่ม