เปิดเงื่อนไขเข้ารอบ 16 ทีมสโมสรโลก 2025 : ลุ้นเดือดหลายกลุ่มก่อนนัดสุดท้าย

เปิดเงื่อนไขเข้ารอบ 16 ทีมสโมสรโลก 2025 : ลุ้นเดือดหลายกลุ่มก่อนนัดสุดท้าย
ศึกชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 เดินทางถึงเกมสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม ลุ้นเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายหลายสายยังเปิดกว้าง ขณะที่บางกลุ่มมีทีมเข้ารอบแน่นอนแล้ว เช็กเงื่อนไขการตัดสินอันดับ พร้อมบทสรุปสถานการณ์ล่าสุดครบทั้ง 8 กลุ่ม

เตะกันกลุ่มละ 2 นัดไปครบทุกกลุ่มแล้วในศึกชิงแชมป์สโมสรโลก ซึ่งบางกลุ่มก็ยังมีลุ้นกันครบทั้ง 4 ทีมจนถึงนัดสุดท้าย ขณะที่บางกลุ่มได้ทีมเข้ารอบและตกรอบกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ก่อนอื่นเราจะขออธิบายถึงเงื่อนไขการผ่านรอบแบ่งกลุ่มก่อน โดยอันดับแรกเลยก็ง่ายๆ นั่นคือ 2 ทีมที่มีคะแนนดีที่สุดของแต่ละกลุ่มจะได้เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีอย่างน้อย 2 ทีมที่มีคะแนนเท่ากันแล้วนั้น ทีมที่มีผลงานดีกว่าจากเกมที่เจอกันเองก็จะมีอันดับดีกว่าไปโดยปริยาย ยกตัวอย่างเช่น ทีม A กับ ทีม B มี 4 คะแนนเท่ากันตอนเล่นครบ 3 นัด และต้องแย่งโควตาอันดับ 2 ของกลุ่ม แต่ว่าทีม A เคยชนะทีม B มาได้ ทำให้ทีม A จะได้เข้ารอบ

ในกรณีที่ผลงานการเจอกันเองมันยังใช้ตัดสินอันดับไม่ได้ ก็จะต้องมาตัดสินด้วยผลต่างประตูได้-เสีย จากการเล่นทั้ง 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม และหากยังเท่ากันอีกก็ต้องมาดูว่าทีมไหนที่ยิงได้เยอะกว่ากันในทั้ง 3 นัด

ถ้าหากจำนวนประตูได้ยังเท่ากันอีก มันก็จะมีการตัดสินอันดับด้วย "คะแนนแฟร์เพลย์" แบบนับรวมจากทุกนัดในรอบแบ่งกลุ่ม โดยเจ้า "คะแนนแฟร์เพลย์" คือคะแนนที่พ่วงกับการโดนใบเหลือง-ใบแดงของนักเตะภายในทีม และจะนับแบบ "ติดลบ"

สำหรับเงื่อนไขนั้น แบ่งเป็น 1 ใบเหลืองจะทำให้ทีมนั้นๆ โดนไป -1 คะแนน, หากมีนักเตะคนไหนโดน 2 ใบเหลืองในเกมเดียวกันจนกลายเป็นใบแดงก็จะทำให้ทีมนั้นๆ โดนไป -2 คะแนน, การโดนใบแดงโดยตรงจะเท่ากับ -4 คะแนน และหากมีนักเตะคนไหนที่โดนใบเหลืองโดยตรง 1 ใบ กับใบแดงโดยตรง 1 ใบในเกมเดียวกันก็จะเท่ากับว่านักเตะคนนั้นทำให้ทีมของตัวเองโดนไป -5 คะแนนเลยทีเดียว

แน่นอน มันมีโอกาสที่ "คะแนนแฟร์เพลย์" จะเท่ากันอยู่ ซึ่งหากเป็นแบบนั้นมันก็จะตัดสินด้วยเงื่อนไขสุดท้าย นั่นคือการ "จับสลาก" นั่นเอง

เอาล่ะ มาลองดูสถานการณ์ของแต่ละกลุ่มกันหน่อย ตอนนี้กลุ่ม เอ เรียกได้ว่าทั้ง 4 ทีมยังมีโอกาสเข้ารอบ-ตกรอบทั้งหมด โดยจ่าฝูงคือ พัลไมรัส ที่มี 4 คะแนน รวมถึงมีผลต่างประตูได้-เสีย อยู่ที่ +2 ลูก ตามมาด้วย อินเตอร์ ไมอามี่ ที่มี 4 แต้มเท่ากันพร้อมกับผลต่างประตูได้-เสีย +1 ส่วน เอฟซี ปอร์โต้ อยู่ที่ 3 จากการมี 1 คะแนน และผลต่างประตูได้-เสีย แบบ -1ปิดท้ายที่ อัล-อาห์ลี ซึ่งมี 1 คะแนน และผลต่างประตูได้-เสีย อยู่ที่ -2 ลูก

ในนัดสุดท้าย พัลไมรัส กับ อินเตอร์ ไมอามี่ จะเจอกันเอง เช่นเดียวกับ ปอร์โต้ ที่ต้องดวลกับ อัล-อาห์ลี

ต่อกันที่กลุ่ม บี จ่าฝูงคือ โบตาโฟโก้ ที่มี 6 คะแนนเต็มจาก 2 นัด แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้การันตีการเข้ารอบ โดยที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กับ แอตเลติโก มาดริด ตามมาเป็นที่ 2 กับ 3 ตามลำดับ ด้วยจำนวน 3 คะแนนเท่ากัน เพียงแต่ ปารีส มีผลต่างประตูได้-เสีย ดีกว่า จากการที่ +3 ส่วนของ แอต. มาดริด อยู่ที่ -2 ลูก ส่วน ซีแอตเทิ่ล ซาวน์เดอร์ส เป็นบ๊วยของกลุ่มจากการที่ยังไม่มีแต้มเลย

ถึงกระนั้น ซีแอตเทิ่ล ซาวน์เดอร์ส ก็ยังไม่ได้ตกรอบ เพียงแต่โอกาสเข้ารอบมันริบหรี่พอตัว นั่นคือต้องชนะ ปารีส ในนัดสุดท้ายให้ได้ พร้อมกับลุ้นให้ แอต. มาดริด แพ้ โบตาโฟโก้ ในวันเดียวกัน เพื่อที่จะได้ไปวัดอันดับกับทั้ง "เปแอสเช" และ "ตราหมี"

สำหรับกลุ่ม ซี ได้ทีมที่เข้ารอบแล้ว 1 ทีม นั่นคือ บาเยิร์น มิวนิค จากการชนะรวดทั้ง 2 นัด ส่วน อ็อคแลนด์ ซิตี้ ก็ตกรอบไปเรียบร้อย เหลือเพียง เบนฟิก้า กับ โบคา จูเนียร์ส ที่ต้องแย่งตั๋วใบสุดท้าย โดยตอนนี้ เบนฟิก้า มีอยู่ 4 คะแนน ส่วน โบคา เพิ่งมีเพียง 1 แต้ม

นัดสุดท้าย โบคา เจอกับ อ็อคแลนด์ ซึ่งพวกเขาต้องชนะให้ได้เยอะๆ รวมถึงหวังให้ เบนฟิก้า แพ้ บาเยิร์น เท่านั้น เพื่อที่จะได้มีโอกาสเข้ารอบ

กลุ่ม ดี ก็คล้ายกับกลุ่ม ซี นั่นคือที ฟลาเมงโก้ ที่เข้ารอบไปแล้วจากการทำได้ 6 แต้มเต็มใน 2 นัดแรก และมี ลอสแองเจลิส เอฟซี ที่ตกรอบแน่นอน ขณะที่ เชลซี กับ เอสเปแร็งซ์ เดอ ตูนิส มี 3 คะแนนเท่ากัน

ในนัดที่ 3 เชลซี กับ เอสเปแร็งซ์ จะเจอกันเองด้วย โดยทาง เชลซี มีสถานการณ์ดีกว่า เพราะแค่ได้ผลเสมอเป็นอย่างน้อยก็จะทำให้พวกเขาเข้ารอบได้ จากการที่ตอนนี้มีผลต่างประตูได้-เสีย ดีกว่าทีมจากตูนิเซีย

ต่อกันที่ กลุ่ม อี ในกลุ่มนี้  อุราวะ เร้ดส์ ตกรอบแน่นอนแล้วเมื่อยังไม่มีแต้มเลย ขณะที่ ริเวอร์ เพลท, อินเตอร์ มิลาน และ มอนเตอร์เรย์ อยู่ในอันดับ 1, 2 กับ 3 ตามลำดับ และต้องมาลุ้นตั๋วเข้ารอบกัน โดยที่ ริเวอร์ เพลท กับ อินเตอร์ ต่างก็มีอยู่ 4 แต้ม ส่วนของ มอนเตอร์เรย์ มี 2 คะแนน

ในนัดสุดท้าย อินเตอร์ มิลาน กับ ริเวอร์ เพลท จะเจอกันเอง ส่วน มอนเตอร์เรย์ จะเจอกับ อุราวะ ซึ่งทาง มอนเตอร์เรย์ ต้องเอาชนะให้ได้เป็นอันดับแรก และลุ้นให้ผลการแข่งขันอีกคู่เป็นใจกับพวกเขา หากหวังที่จะเข้ารอบ

ในส่วนของกลุ่ม เอฟ จ่าฝูงคือ ฟลูมิเนนเซ่ ที่มีอยู่ 4 คะแนน โดยที่จริง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็มีแต้มเท่ากับพวกเขา แต่ทีมจากบราซิลมีผลต่างประตูได้-เสีย อยู่ที่ +2 ลูก ขณะที่ของ ดอร์ทมุนด์ อยู่ที่ +1 ตามมาด้วย มาเมโลดี้ ซันดาวน์ส ที่ทำไป 3 คะแนน ส่วนบ๊วยของกลุ่มคือ อุลซาน เอชดี จากเกาหลีใต้ ที่ไม่มีแต้มเลยและตกรอบชัวร์แล้ว

ในนัดปิดฉากของกลุ่มนี้ ฟลูมิเนนเซ่ จะได้เจอกับ มาเมโลดี้ ซันดาวน์ส ส่วน ดอร์ทมุนด์ จะชนกับ อุลซาน โดยต้องจับตาดูว่าบทสรุปจะเป็นยังไง เพราะแม้กระทั่ง ฟลูมิเนนเซ่ กับ ดอร์ทมุนด์ ต่างก็ยังมีโอกาสตกรอบอยู่

กลุ่ม จี แทบไม่มีอะไรต้องลุ้นแล้ว เพราะทั้ง ยูเวนตุส กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กอดคอกันเข้ารอบเรียบร้อยด้วยผลงาน 6 แต้มเต็มจาก 2 นัดทั้งคู่ ส่วน วีดาด กับ อัล-ไอน์ ก็การันตีกลับบ้านแน่นอน เหลือเพียงนัดสุดท้ายที่ต้องลุ้นว่าใครจะเป็นแชมป์กลุ่ม โดยที่ ยูเวนตุส กับ แมนซิตี้ จะเจอกันเองด้วย

สำหรับสถานการณ์ในตอนนี้นั้น ยูเวนตุส กับ แมนซิตี้ มีผลต่างประตูได้-เสีย อยู่ที่ +8 ลูกเท่ากัน แต่ฝั่ง ยูเวนตุส อยู่ในอันดับดีกว่าจากเงื่อนไขจำนวนประตูที่ทำได้ เพราะพวกเขายิงไปแล้ว 9 ลูก ส่วนฝั่ง แมนซิตี้ ทำไปแล้ว 8 ประตู นั่นหมายความว่าในนัดสุดท้าย ยูเวนตุส ขอแค่ผลเสมอเป็นอย่างต่ำก็จะได้เป็นแชมป์กลุ่ม

ปิดท้ายที่กลุ่ม เอช เรอัล มาดริด กับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก มีอยู่ 4 คะแนนเท่ากัน แต่ทาง มาดริด มีผลต่างประตูได้-เสียอยู่ที่ +2 ลูก ส่วนของ ซัลซ์บวร์ก อยู่ที่ +1 ลูก ทำให้ มาดริด เป็นจ่าฝูงในตอนนี้ ตามมาด้วย อัล-ฮิลาล ที่เก็บได้ 2 คะแนน ขณะที่ ปาชูก้า ซึ่งยังไม่มีแต้มเลยนั้นตกรอบแน่นอนแล้ว

อย่างไรก็ตาม ทั้ง เรอัล มาดริด และ ซัลซ์บวร์ก ต่างก็ยังมีโอกาสตกรอบทั้งคู่ โดยนัดสุดท้ายพวกเขาจะเจอกันเองอีกต่างหาก ขณะที่ อัล-ฮิลาล ซึ่งจะเจอกับ ปาชูก้า ต้องเอาชนะเกมของตัวเองให้ได้ก่อน แล้วหวังให้อีกสนามมีผลการแข่งขันที่เป็นใจกับพวกเขา

เรียกได้ว่าสถานการณ์ในหลายกลุ่มยังน่าลุ้นอยู่ และต้องรอดูว่าท้ายที่สุดแล้ว 16 ทีมที่จะได้ไปต่อในรอบน็อกเอาต์จะมีใครบ้าง



ที่มาของภาพ : REUTERS
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport