ศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 เดือดตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อ 4 สโมสรจากบราซิลอย่าง พัลไมรัส, โบตาโฟโก, ฟลาเมงโก และฟลูมิเนนเซ่ พร้อมใจกันขึ้นนำจ่าฝูงกลุ่มของตัวเอง หลังผ่าน 2 นัดแรก โชว์ฟอร์มแกร่งสะท้อนความพร้อมทั้งด้านสภาพร่างกาย ขุมกำลัง และความเคยชินสภาพแวดล้อมในสหรัฐฯ จนกลายเป็นตัวเต็งลุ้นล้างอาถรรพ์คว้าแชมป์โลกสโมสรครั้งแรกในรอบ 13 ปี
ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกรูปแบบใหม่ 32 ทีม กำลังเข้มข้นในรอบแบ่งกลุ่มที่สหรัฐอเมริกา โดย 4 ตัวแทนจากบราซิลอย่าง พัลไมรัส, โบตาโฟโก, ฟลาเมงโก และฟลูมิเนนเซ่ พร้อมใจกันโชว์ฟอร์มน่าประทับใจ รั้งตำแหน่ง “จ่าฝูงกลุ่ม” ได้พร้อมกันหลังผ่านสองนัดแรกของรอบแรก
ฟอร์มแรงทั่วหน้า! 4 ทีมบราซิลขึ้นจ่าฝูงครบทุกกลุ่ม
กลุ่ม A – พัลไมรัส ของกุนซือ อาเบล แฟร์เรยร่า ชนะ อัล อาห์ลี 2-0 และเสมอ ปอร์โต้ 0-0 เก็บได้ 4 แต้ม
กลุ่ม B – โบตาโฟโก แชมป์โกปา ลิเบร์ตาดอเรส ปีล่าสุดภายใต้การทำทีมโดย เรนาโต้ ไปวา เปิดตัวด้วยชัยชนะเหนือ ซีแอตเทิล ซาวน์เดอร์ส 2-1 ก่อนโค่นแชมป์ยุโรป เปแอสเช 1-0
กลุ่ม D – ฟลาเมงโก ภายใต้บังเหียน ฟิลิเป้ ลุยส์ อดีตแบ็กซ้ายชื่อก้อง พลิกแซงชนะ เชลซี 3-1 หลังถล่ม เอสเปร็องซ์ ตูนิเซีย 2-0
กลุ่ม F – ฟลูมิเนนเซ่ ของ เรนาโต้ เกาโช่ เสมอ ดอร์ทมุนด์ 0-0 และล่าสุดอัด อุลซาน จากเคลีก 4-2 ขึ้นนำกลุ่มด้วย 4 แต้มจาก 2 นัด
เบื้องหลังฟอร์มแกร่ง: บราซิลกำลังมา!
- ความเคยชินสภาพแวดล้อม
แม้สหรัฐอเมริกาจะเป็น “สนามกลาง” แต่ด้วยระยะทางที่ใกล้กับทวีปอเมริกาใต้ ทั้งเรื่อง เวลาแข่งขัน และ สภาพอากาศ ทำให้ทีมจากบราซิลปรับตัวง่ายกว่าทีมยุโรป ที่บางนัดต้องแข่งดึกตามเวลาท้องถิ่นของพวกเขา
- ลีกยังแข่งขันอยู่
ต่างจากทีมยุโรปที่มาร่วมทัวร์นาเมนต์หลังจบซีซั่น บรรดาทีมบราซิลอยู่ในช่วงกลางฤดูกาล ทำให้สภาพร่างกายอยู่ในจุดพีค พร้อมแข่งในระบบที่ต้องเตะถี่หลายเกม
- ความสำเร็จต่อเนื่องในทวีป
ตั้งแต่ปี 2019 บราซิล ผูกขาดแชมป์โกปา ลิเบร์ตาดอเรส 6 ปีติด และนัดชิงชนะเลิศก็มีทีมแซมบ้าเจอกันเองถึง 4 ครั้ง (2020, 2021, 2022, 2024) โดยแต่ละทีมล้วนมีประสบการณ์ระดับทวีปติดตัว
- ขุมกำลังผสมลงตัว
พัลไมรัส: เฟลิเป้ อันแดร์ซอน, วิตอร์ โรเก้, เอสเตเวา
โบตาโฟโก: อเล็กซ์ เตลลิส, อาร์ตูร์ คาบราล, อิกอร์ เชซุส (ฮีโร่ดับเปแอสเช)
ฟลาเมงโก: จอร์จินโญ่, จอร์เจียน เด อาร์ราสกาเอต้า, ดานีโล่
ฟลูมิเนนเซ่: ติอาโก้ ซิลวา, กานโซ่, จอน อาเรียส
ถึงเวลาล้างอาถรรพ์?
แม้ไม่มีทีมจากบราซิลคว้าแชมป์รายการนี้เลย นับตั้งแต่ โครินเธียนส์ ชนะ เชลซี ในปี 2012 แต่ผลงานล่าสุดบ่งบอกว่าทีมจากอเมริกาใต้โดยเฉพาะบราซิล กลับมาท้าทายอำนาจยุโรป ได้อีกครั้ง
บรรดานักเตะต่างรอโอกาสพิสูจน์ว่า “พวกเขาสู้กับยุโรปได้” และการที่ทั้ง 4 ทีมขึ้นนำกลุ่มหลังผ่านสองนัด แสดงให้เห็นศักยภาพและความจริงจังของสโมสรจากแดนแซมบ้า ที่อาจหักปากกาเซียนได้ในปีนี้
ศึกยังไม่จบ แต่จากฟอร์มและความมุ่งมั่นที่แสดงให้เห็น บางทีปี 2025 อาจเป็นปีทองของฟุตบอลบราซิลบนเวทีโลกอีกครั้ง!