โอกาสสุดท้ายของ ซาลาห์! 5 สตาร์ดังแอฟริกันไม่เคยได้แชมป์ Afcon

ถึงตอนนี้ คิง ออฟ อียิปต์ ผละไปจากทีม หงส์แดง เพื่อเตรียมลงเล่นให้ทีมชาติในรายการชิงแชมป์ทวีปที่ โมร็อกโก เป็นเจ้าภาพในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่นอกจาก บังโม แล้วยังมีนักเตะชื่อดังที่ไม่เคยได้สัมผัสกับโทรฟี่ใบนี้เช่นกัน

เมื่อนับรวม ซาลาห์ ถือเป็นเรื่องน่าทึ่งไม่น้อยที่สี่สตาร์ซึ่งรีไทร์ไปแล้วไม่เคยได้ชื่อว่าเป็นแชมป์แห่งทวีปเลยแม้แต่หนเดียว

- โม ซาลาห์ (อียิปต์)

ในวัย 33 ปี หากไม่ได้แชมป์ปีนี้ กัปตันทีมมัมมี่ก็ไม่น่าจะมีโอกาสแก้ตัวอีกแล้ว

แม้ อียิปต์ จะเคยครองแชมป์รายการนี้มากถึง 7 สมัย และทำแฮททริคได้ในปี 2006-2010 แต่มันเป็นช่วงที่ ซาลาห์ ยังไม่ได้เริ่มต้นรับใช้ชาติ

หลัง บังโม ประเดิมติดธงในปี 2011 อียิปต์ กลับตกรอบคัดเลือกทั้งปี 2012 , 2013 และ 2015 ก่อนที่ดาวเตะชื่อดังของประเทศจะได้ฟาดแข้งในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ของทวีปปี 2017 ซึ่งทีมไอยคุปต์แพ้ แคเมอรูน 2-1 ในนัดชิงชนะเลิศ

แม้จะได้ตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยของทวีปสองสมัยซ้อนในปี 2017 และ 2018 แต่ ซาลาห์ ยังไม่สมหวังกับรายการ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ปี 2019 เนื่องจาก อียิปต์ ตกรอบ 16 ทีมด้วยการแพ้ แอฟริกาใต้ อย่างพลิกความคาดหมาย

กระทั่งปี 2021 อียิปต์ เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศอีกหน แต่ ซาลาห์ พ่ายให้กับ ซาดิโอ มาเน่ เพื่อนร่วมทีม หงส์แดง โดย เซเนกัล ดวลลูกโทษกำชัยหลังจากทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0 ในเวลา 120 นาที

และที่สำคัญ ซาลาห์ ซึ่งถูกวางตัวเป็นคนยิงลูกโทษคนที่ห้าไม่ทันได้ทำหน้าที่เนื่องจาก เซเนกัล กำชัยได้ด้วยสกอร์ 4-2

หลังบาดเจ็บในเกมรอบแบ่งกลุ่มของปี 2023 ซาลาห์ ซึ่งปัจจุบันรั้งอันดับสองดาวซัลโวสูงสุดของประเทศต้องทนเห็นทีมตกรอบสองด้วยการพ่ายดวลลูกโทษต่อ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก

- ดิดิเยร์ ดร็อกบา (ไอวอรี่ โคสต์)

ภายใต้สีเสื้อ เชลซี ดร็อกบา สร้างวีรกรรมในเกมบิ๊กแมตช์ได้เสมอจากการซัดได้ 9 ประตูในเกมชิงชนะเลิศ 10 ครั้ง และได้แชมป์ 8 ครั้ง

อย่างไรก็ดี ดาวซัลโวตัวฉกาจซึ่งสวมบทกัปตันทีม ช้างดำ สองหนในทัวร์นาเมนต์ของทวีปประสบกับปัญหาในการยิงลูกโทษ

ในปี 2006 ไอวอรี่ โคสต์ แพ้การดวลลูกโทษต่อชาติเจ้าภาพ อียิปต์ 4-2 หลังจากเกมจบลงแบบโนสกอร์หลังต่อเวลาพิเศษโดย ดร็อกบา ทำหน้าที่สังหารลูกโทษเป็นคนแรก แต่ถูกเซฟได้ก่อนที่ทีม มัมมี่ จะซิวแชมป์ไปครอง

ไอวอรี่ โคสต์ ทะลุเข้าชิงชนะเลิศได้อีกหนในปี 2012 และถูกมองว่าเหนือกว่า แซมเบีย หลายขุม แต่เป็นอีกครั้งที่ ดร็อกบา ยิงลูกโทษพลาดส่งบอลข้ามคานขณะที่เกมเหลือเวลาอีก 10 นาทีชวดการพาทีมออกนำอย่างน่าเสียดาย

แม้ในช่วงของการดวลความแม่นเป้าหลังเกมจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 ดร็อกบา จะส่งบอลปะทะตาข่ายได้ แต่สุดท้ายทีม ช้างดำ ปราชัย 8-7

นอกจากสองหนที่ว่า ดร็อกบา ลงเล่นในรายการนี้อีกหลายครั้งโดย ไอวอรี่ โคสต์ ได้อันดับสี่ในปี 2008 และตกรอบแปดทีมทั้งปี 2010 และ 2013 ก่อนที่เขาจะอำลาทีมชาติในเดือนส.ค.2014

และแล้วหกเดือนหลังจากนั้น ทีม ช้างดำ เอาชนะ กาน่า ได้ในนัดชิงชนะเลิศปี 2015 ซึ่งถูกตัดสินด้วยการดวลลูกโทษเช่นกันหลังเกมจบลงแบบไร้สกอร์อีกตามเคย

- จอร์จ เวอาห์ (ไลบีเรีย)

ในแง่ความสำเร็จส่วนตัว อดีตดาวยิงทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง , เอซี มิลาน และ เชลซี เหนือกว่านักเตะร่วมทวีปทุกราย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถึงขณะนี้ เวอาห์ ยังเป็นนักเตะแอฟริกันรายเดียวที่ได้รางวัล บัลลงดอร์ ในปี 1995 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่เขาได้ตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมแห่งทวีปเป็นสมัยที่สองถัดจากปี 1989

อย่างไรก็ดี ไลบีเรีย ได้ร่วมบู๊ศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ สองหนช่วงที่มี เวอาห์ รับใช้ชาติในปี 1996 ซึ่งเป็นครั้งแรกของพวกเขาและปี 2002 

ในปี 1996 ไลบีเรีย ตกรอบแบ่งกลุ่มในฐานะทีมบ๊วย จากนั้นในปี 2002 เวอาห์ ในวัย 35 ปีสอยตาข่ายประตูเดียวของเขาในทัวร์นาเมนต์นี้ได้ในเกมแรกที่ถูก มาลี ตีเสมอ 1-1 แต่พวกเขาตกรอบอีกตามเคยในฐานะทีมรองบ๊วย

- เอ็นวานโก้ คานู (ไนจีเรีย)

กองหน้าจอมเก้งก้างประสบความสำเร็จในระดับสโมสรกับทั้ง อาแจ็กซ์ ชุดคว้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก และ อินเตอร์ มิลาน ชุดคว้าแชมป์ ยูฟ่า คัพ ก่อนย้ายมาสร้างชื่อกับ อาร์เซน่อล ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ คานู พาทีมชาติ ไนจีเรีย ซิวแชมป์โลกชุดยู 17 ได้ในปี 1993 และได้แชมป์ โอลิมปิก เกมส์ ปี 1996

แต่กับศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ คานู พาทีม อินทรีมรกต เข้าชิงชนะเลิศได้ในปี 2000 แต่แพ้การดวลลูกโทษต่อ แคเมอรูน หลังเกมจบลงด้วยผลเสมอ 2-2 โดยสตาร์วัย 23 ปีในขณะนั้นสังหารไปถูกเซฟ

สำหรับปีอื่นๆ แผ่นดินเกิดของ คานู ปราชัยในเกมรอบตัดเชือกสี่หนในปี 2002, 2004, 2006 และ 2010 ขณะที่ปี 2008 พวกเขาตกรอบแปดทีม

รวมแล้ว คานู ซึ่งมีดีกรีเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของทวีปสองสมัยได้รองแชมป์ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ หนึ่งครั้ง และได้อันดับสามสี่ครั้ง

- ไมเคิ่ล เอสเซียง (กาน่า)

ทีม ดาวดำ ได้แชมป์ทวีปรวมทั้งสิ้นสี่สมัยโดยหนสุดท้ายเกิดขึ้นในปี 1982 ซึ่งหมายความว่าสตาร์ดังหลายรายของประเทศรุ่นหลังจากนั้นไม่เคยได้สัมผัสกับแชมป์รายการนี้

ในจำนวนนี้ เอสเซียง เป็นอีกรายที่วาสนาไม่ถึงแม้เขาจะได้ชื่อว่าเป็นกองกลางชั้นดีของประเทศ และประสบความสำเร็จกับ เชลซี แต่ไปไม่ถึงฝันในศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ เช่นเดียวกับ ดร็อกบา เพื่อนร่วมสโมสร

ในฐานะนักเตะดาวรุ่ง เอสเซียง ไม่อาจพา กาน่า ไปไกลกว่ารอบแปดทีมได้ในปี 2002 ก่อนตกรอบคัดเลือกปี 2004 และบาดเจ็บจนพลาดการร่วมบู๊ในปี 2006

กระทั่งปี 2008 ที่ กาน่า เป็นเจ้าภาพ เอสเซียง มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ แต่ทีม ดาวดำ แพ้ แคเมอรูน ในรอบรองชนะเลิศก่อนคว้าอันดับสามมาครอง

จากนั้นในปี 2010 เอสเซียง บาดเจ็บระหว่างทัวร์นาเมนต์จึงทำได้แค่นั่งดูเพื่อนร่วมชาติพาทีมเข้าชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี แต่พวกเขาพ่าย อียิปต์ 1-0