หลังไม่ได้เข้าร่วมการแข่ง ฟุตบอลโลก 1930 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการจัดทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลโลก นั้น อิตาลี ก็ร่วมลงชิงชัย ฟุตบอลโลก เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ของชาติในอีก 4 ปีต่อมา ซึ่งพวกเขาเป็นเจ้าภาพเองด้วย
อิตาลี สร้างชื่อได้ตั้งแต่การเล่น ฟุตบอลโลก ครั้งแรก หลังจากได้แชมป์ ฟุตบอลโลก 1934 ไปครอง โดยชนะทั้ง สหรัฐอเมริกา 7-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย, ชนะ สเปน ในช่วงดวลจุดโทษของรอบก่อนรองชนะเลิศหลังจากเสมอกัน 1-1, เฉือน ออสเตรีย 1-0 ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะพิชิต เช็คโกสโลวาเกีย 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษของนัดชิงดำ
หลังจากนั้น อิตาลี ก็ป้องกันแชมป์ ฟุตบอลโลก ได้ในการแข่งที่ ฝรั่งเศส ในปี 1938 ก่อนจะเข้าสู่รอบสุดท้ายได้ในทั้ง ฟุตบอลโลก 1950 และ ฟุตบอลโลก 1954 เพียงแต่พวกเขาจอดป้ายที่รอบแบ่งกลุ่ม ถึงกระนั้น อิตาลี ก็ถูกมองแล้วว่าเป็นหนึ่งในชาติใหญ่ของวงการลูกหนัง
อย่างไรก็ตาม อิตาลี ก็ต้องมาอดเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เป็นครั้งแรกในศึก ฟุตบอลโลก 1958 ซึ่งหนึ่งในทีมที่ทำให้พวกเขาต้องชอกช้ำในครั้งนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น ไอร์แลนด์เหนือ นั่นเอง
ครั้งนั้น อิตาลี ถูกจับให้อยู่ในกลุ่ม 8 ของรอบคัดเลือก โซนยุโรป ร่วมกับ ไอร์แลนด์เหนือ และ โปรตุเกส ซึ่งพวกเขาก็เก็บชัยในนัดประเดิมสนามของตัวเองได้จากการเฉือน ไอร์แลนด์เหนือ 1-0 ด้วยประตูตั้งแต่นาทีที่ 3 ของ แซร์จิโอ้ แชร์วาโต้ จนทำให้แฟนบอลชาวอิตาเลียนได้เดินออกจาก สตาดิโอ โอลิมปิโก ในกรุงโรมแบบมีความสุข
ถึงกระนั้น ในนัดที่ 2 อิตาลี ออกไปแพ้ โปรตุเกส ถึง 0-3 ยังดีที่พอกลับมาเตะกันที่ ซาน ซีโร่ พวกเขาสามารถเอาคืนได้ด้วยสกอร์เดียวกัน ทำให้ อิตาลี ต้องมาแย่งตั๋วเข้ารอบกับ ไอร์แลนด์เหนือ ในนัดสุดท้าย โดยที่ อิตาลี ได้เปรียบกว่านิดหน่อยเพราะมี 4 แต้ม ขณะที่ ไอร์แลนด์เหนือ มีอยู่ 3 คะแนน (สมัยนั้นใช้ระบบการชนะได้ 2 คะแนน)
เดิมทีนัดดังกล่าววางคิวว่าจะเตะกันในวันที่ 4 ธันวาคม 1957 ในกรุงลอนดอน แต่ว่า อิสต์วาน โซลต์ กรรมการในเกมนั้นไม่สามารถเดินทางไปทำหน้าที่ตามกำหนดการที่วางเอาไว้ได้เพราะวันนั้นหมอกมันลงมาหนามาก
สุดท้ายแล้วมันก็มีการตัดสินใจให้ทั้ง 2 ทีมเตะกันเล่นๆ แบบเกมอุ่นเครื่องไปซะ แล้วค่อยมาชิงตั๋วกันแบบจริงจังในวันหลัง ซึ่งเกมอุ่นเครื่องเฉพาะกิจในวันนั้นก็ดุเดือดมากๆ จนถึงขั้นถูกตั้งฉายาว่า "การศึกแห่งเบลฟาสต์" (Battle of Belfast) เลย ก่อนที่เกมจะจบลงด้วยผลเสมอ 2-2
เกมนัดชิงตั๋วไปฟุตบอลโลกนั้นเปลี่ยนมาเตะกันในวันที่ 15 มกราคม 1958 หรือก็คือราว 1 เดือนหลังจากนั้น ซึ่ง ไอร์แลนด์เหนือ นำไปก่อน 2 ลูกจาก เจมส์ แม็คอิลรอย ในนาทีที่ 13 และ วิลเบอร์ คัช ในนาทีที่ 28 สถานการณ์ในตอนนั้น อิตาลี ต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อที่จะได้ผลเสมอเป็นอย่างน้อยและจะได้ไม่ตกรอบ
ท้ายที่สุดแล้วตอนจบมันไม่แฮปปี้เอ็นดิ้งสำหรับ อิตาลี เพราะพวกเขาตีตื้นมาได้เพียงลูกเดียวจาก ดิโน่ ดา คอสต้า กองหน้าที่เกิดใน บราซิล ทำให้จบเกม อิตาลี แพ้ ไอร์แลนด์เหนือ 1-2 และร่วงรอบคัดเลือกของ ฟุตบอลโลก เป็นครั้งแรก
หลังจากนั้นเป็นต้นมา อิตาลี ได้เจอกับ ไอร์แลนด์เหนือ ในการเล่นทุกรายการ 8 ครั้ง ซึ่งพวกเขาก็ไม่เคยปราชัยให้ ไอร์แลนด์เหนือ อีกเลย แบ่งเป็นการชนะ 6 เกมกับเสมอ 2 หน โดยครั้งล่าสุดคือเกม ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ที่เสมอกัน 0-0 ที่บ้านของ ไอร์แลนด์เหนือ
แน่นอน สำหรับแฟนบอล อิตาลี แล้วนั้น พวกเขาก็คงหวังว่าเหล่านักเตะรุ่นนี้จะไม่ทำพลาดเหมือนตอนปี 1958 เพื่อที่ อิตาลี จะได้ไม่พลาดศึก ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน
-เด็กเกร็ดบอล-