ผลบอล เยอรมนี 6-0 สโลวาเกีย : เวียร์ตซ์ จ่าย 2, ซาเน่ เบิ้ล! อินทรีเหล็กคว้าชัยครึ่งโหลซิวตั๋วบอลโลก 2026

ศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เอ นัดสุดท้าย ระหว่าง ทีมชาติเยอรมนี กับ ทีมชาติสโลวาเกีย ที่สนาม เร้ดบูลล์ อารีน่า เมืองไลป์ซิก วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2568 

เยอรมนี เดินหน้าบุกตั้งแต่นาทีแรก และมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 นาทีที่ 19 จากจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม ซึ่ง โยชัว คิมมิช ครอสบอลจากด้านขวามาให้ นิค โวลเทอมาเดอ ขึ้นโขกโล่งๆ ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย

นาทีที่ 29 "อินทรีเหล็ก" หนีทีมเยือนเป็น 2-0 จากจังหวะที่ ลีออน โกเร็ตซ์ก้า แทงบอลตรงกลางให้ แซร์จ กนาบรี หลุดเข้าไปยิงบอลผ่านตัว มาร์ติน ดูบราฟก้า นายทวารสโลวาเกีย อย่างเฉียบขาด 

ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจสำหรับเจ้าถิ่น นาทีที่ 36 สกอร์เปลี่ยนเป็น 3-0 โดย ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ เปิดบอลโค้งๆ จากซ้ายไปด้านขวาให้ ลีรอย ซาเน่ หลุดเข้าไปยิงเน้นๆ ด้วยซ้ายไม่มีเหลือ 

นาทีที่ 41 เยอรมนี ดุจัด ได้ประตู 4-0 จากคู่เดิม โดย เวียร์ตซ์ ที่ได้บอลจากความผิดพลาดของคู่แข่ง หยอดบอลไปที่เสาไกล และเป็น ซาเน่ ลอยตัวกระแทกบอลเข้าไปอย่างสุดสวย  

จบครึ่งแรก เยอรมนี นำ สโลวาเกีย 4-0 

ช่วงกลางครึ่งหลัง นาทีที่ 67 เยอรมนี หนี สโลวาเกีย ไปไกลเป็น 5-0 จากจังหวะที่ กนาบรี แตะบอลให้ รีดเลอ บากู กดบอลเรียดเข้าไปตุงตาข่าย 

ยังไม่หนำใจ นาทีที่ 79 ทัพ "อินทรีเหล็ก" มาได้ประตู 6-0 จาก อัสซาน เวดราโอโก ดาวรุ่งวัย 19 ปี จาก แอร์เบ ไลป์ซิก ที่เพิ่งลงสนามเป็นตัวสำรองได้ไม่กี่วินาที ซึ่งถือเป็นการทำประตูได้ตั้งแต่การลงเล่นให้ทีมชาติเยอรมนีเป็นนัดแรก สำหรับเจ้าตัว  

จบเกม เยอรมนี เปิดบ้านถล่ม สโลวาเกีย 6-0 ซิวแชมป์กลุ่ม เอ ด้วยการมี 15 แต้ม จากการลงแข่ง 6 นัด การันตีตั๋วไปสู้ศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบสุดท้าย ช่วงกลางปีหน้า ขณะที่ สโลวาเกีย จบอันดับสอง มี 12 แต้ม จาก 6 นัด ไปลุ้นต่อในการแข่งขันเพลย์ออฟ 

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม

เยอรมนี (4-2-3-1) - โอลิเวอร์ เบามันน์ ; โยชัว คิมมิช, โยนาธาน ทาห์, นิโค ชล็อทเทอร์เบค, ดาวิด รอม ; ลีออน โกเร็ตซ์ก้า, อเล็คซานดาร์ พาฟโลวิช ; ลีรอย ซาเน่, แซร์จ กนาบรี, ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ; นิค โวลเทอมาเดอ 

สโลวาเกีย (4-3-3) - มาร์ติน ดูบราฟก้า ; นอร์เบิร์ต เกอมแบร์, มิลาน ชครีเนียร์, อดัม โอแบร์ต, ดาวิด ฮันช์โค ; มาตุช เบโร, สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า, ออนเดร ดูด้า ; ดาวิด ดูริช, เลโอ เซาเออร์, ดาวิด สเตรเลช