ว่าด้วยการชนะรวด

ว่าด้วยการชนะรวด
ผมยังจำความรู้สึกตอนที่ทีมชาติฝรั่งเศสชนะรวดทุกเกมในรอบคัดเลือกยูโร 1992 ได้

ช่วงนั้นฟุตบอลโลกและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปในบ้านเราฟีเวอร์มาก เพราะเพิ่งจะได้รับชมการถ่ายทอดสดแบบครบทุกเกมตั้งแต่รอบแรกยันรอบชิงเป็นครั้งแรกในศึกอิตาเลีย 90 มาหมาด ๆ

ข่าวสารต่าง ๆ ที่โหมประโคมยิ่งทำให้บรรยากาศตื่นตัวเต็มที่ก่อนที่ทัวร์นาเม้นต์จะมาถึง

"นโปเลียนลูกหนัง" มิเชล พลาตินี่ ฉายแววอัจฉริยะเหมือนคราวเป็นนักเตะ เมื่อก้าวขึ้นคุมทีมชาติฝรั่งเศสก็พาทีมตราไก่ชนะรวดทั้ง 8 เกมในรอบคัดเลือก

จำได้สนิทใจเลยล่ะครับสำหรับความฮือฮาของทีมเลส์ เบลอส์ ในมือพลาตินี่คราวนั้น การชนะร้อยเปอร์เซนต์ในรอบคัดเลือกไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในศึกยูโรไม่ว่าครั้งไหน ๆ

แล้วก็ยิ่งจำฝังใจขึ้นไปอีกเมื่อรอบสุดท้ายฝรั่งเศสกลับถูกเตะกลิ้งตกรอบแรกชนิดช็อกวงการ เพราะอดีตแชมป์ยุโรปปี 1984 เป็นตัวเต็งของกลุ่มคู่กับอังกฤษแต่ดันกอดคอกลับบ้านเร็วทั้งคู่

ทีมที่ได้เข้ารอบแทนคือสวีเดนเจ้าภาพกับมวยแทนอย่างเดนมาร์ก ก่อนที่ขุนพลเดนิชจะก้าวต่อไปสร้างเทพนิยายเดนส์อันลือลั่น

ถึงกระนั้นวีรกรรมชนะรวดทุกเกมในรอบคัดเลือกของฝรั่งเศสก็คือความประทับใจส่วนตัวชนิดจำไม่ลืมมาจนถึงวันนี้

หลังจากนั้นฝรั่งเศส 1992 คราวนั้น การชนะรวดในรอบคัดเลือกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปก็ไม่ใช่ของแปลกอะไรอีก เพราะจะต้องมีทีมที่ชนะรวด 100 เปอร์เซนต์ในรอบคัดเลือกอย่างน้อย 1 ทีมเสมอ เว้นเพียงยูโร 1996 กับยูโร 2008 เท่านั้น

ยูโร 2000 สาธารณรัฐเช็กรองแชมป์เก่าชนะทั้ง 10 เกมในรอบคัดเลือก

ยูโร 2004 ฝรั่งเศสแชมป์เก่าทำได้อีกหนเมื่อชนะรวดทั้ง 8 เกมในรอบคัดเลือก

ยูโร 2012 เยอรมันกับสเปนคู่ชิงคราวก่อนหน้าทำสถิติชนะรวดทั้งคู่ในรอบคัดเลือก ทีมอินทรีเหล็กรองแชมป์เก่าชนะรวดทั้ง 10 นัด กระทิงดุแชมป์เก่าชนะรวดทั้ง 8 นัด

ยูโร 2016 อังกฤษในยุค รอย ฮอดจ์สัน ทำได้เช่นกันเมื่อชนะทุกเกมในรอบคัดเลือก 10 นัด

ยูโร 2020 เบลเยียม กับ อิตาลี ชนะรวด 10 นัดในรอบคัดเลือกได้ทั้งคู่

และล่าสุด ศึกยูโร 2024 ทีมชาติโปรตุเกสก็เข้าร่วมชมรมชนะ 100 เปอร์เซนต์เช่นกันเมื่อเก็บ 30 คะแนนเต็มจาก 10 เกมในรอบคัดเลือก

เท่ากับว่าในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป นับตั้งแต่ฝรั่งเศสปลดล็อกทำได้เป็นทีมแรกเมื่อปี 1992 มันก็เกิดขึ้นอีกเป็นดอกเห็ด พวกเขาเองทำเพิ่มได้อีกครั้ง สมทบด้วย สาธารณรัฐเช็ก เยอรมัน สเปน อังกฤษ เบลเยียม อิตาลี และโปรตุเกส

7 จาก 9 สมัยล่าสุดของศึกยูโร (รวมไปถึง 4 สมัยหลังสุด) จะต้องมีทีมที่ชนะรวด 100 เปอร์เซนต์ในรอบคัดเลือกเกิดขึ้น

ขณะที่ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนยุโรปไม่ได้เกิดวีรกรรมอย่างนี้ขึ้นบ่อย ๆ ค่าเฉลี่ยแบบคร่าว ๆ คือประมาณ 20 ปีจึงจะมีให้เห็น

บอลโลก 1962 รอบคัดเลือก เยอรมันตะวันตก กับ สหภาพโซเวียต ชนะรวดทั้ง 4 เกมที่ลงเล่น

ข้ามมาอีกทีก็บอลโลก 1982 เลย เยอรมันตะวันตกทำได้อีกครั้งตีตั๋วไปรอบสุดท้ายที่สเปนด้วยสถิติเตะ 8 ชนะ 8 ในรอบคัดเลือก เช่นเดียวกับ โปแลนด์ ที่ชนะ 100 เปอร์เซนต์แต่ลงเตะแค่ 4 เกม

รอมาอีกเกือบ 30 ปี ยุโรปจึงได้เห็นทีมที่ชนะรวดทุกนัดในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกอีกครั้ง มันเกิดขึ้นในรอบคัดเลือกเวิลด์คัพ 2010 สเปนแชมป์ยุโรปที่เปลี่ยนมือจาก หลุยส์ อราโกเนส มาเป็น บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ยังคงไร้เทียมทานชนะทั้ง 10 เกม เช่นเดียวกับฮอลแลนด์ของ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ ที่ชนะรวดทั้ง 8 นัด

ในรอบสุดท้ายที่แอฟริกาใต้ กระทิงดุกับอัศวินสีส้มยังตะลุยเข้าไปจนถึงด่านสุดท้ายที่ซอคเก้อร์ ซิตี้ สเตเดี้ยม ในฐานะคู่ชิงชนะเลิศกันอีกต่างหาก

และล่าสุดในฟุตบอลโลกปี 2018 ทีมชาติเยอรมันแชมป์เก่าก็เก็บคู่แข่งเรียบวุธในรอบคัดเลือก เล่น 10 เกมชนะทั้ง 10 เกม พร้อมกับถล่มตาข่ายได้ถึง 43 ประตู

เหล่านี้คือผลงานเอกอุระดับ "ชนะทุกเกม" ในรอบคัดเลือกทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ของฝั่งยุโรป

ชนะรวด 4 เกมบ้าง 8 เกมบ้าง 10 เกมบ้าง แล้วแต่จำนวนเกมที่ลงเตะของแต่ละทีมในครั้งนั้น ๆ

คัดบอลโลกเกิดขึ้น 7 ครั้งจาก 4 สมัย (1962, 1982, 2010 และ 2018) เยอรมันทำได้ 3 ครั้ง สหภาพโซเวียต โปแลนด์ สเปน และ ฮอลแลนด์ ทีมละ 1 ครั้ง

คัดยูโรเกิดขึ้น 9 ครั้งจาก 7 สมัย (1992, 2000, 2004, 2012, 2016, 2020 และ 2024) ฝรั่งเศสทำได้ 2 ครั้ง สาธารณรัฐเช็ก เยอรมัน สเปน อังกฤษ เบลเยียม อิตาลี และ โปรตุเกส ทีมละ 1 ครั้ง

รวมทั้งหมดคือ 16 ครั้งจาก 11 สมัย และดูจะเกิดขึ้นถี่ยิบกว่าเดิมในยุคหลังโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงทศวรรษครึ่งที่ผ่านมาที่ศึกยูโรมีทีมชนะรวดในรอบคัดเลือกเกิดขึ้น 4 สมัยติด และคัดบอลโลกมี 2 จาก 4 สมัย

อาจจะเป็นด้วยเหตุผลนี้ก็ได้ที่ทำให้ผมจำวีรกรรมชนะรวดของรอบคัดเลือกรายการใหญ่แต่ละสมัยแทบไม่ได้เลย จนถึงวันนี้ที่จำขึ้นใจยังคงมีเพียงครั้งเดียวคือฝรั่งเศส 1992 คงเพราะด้วยเป็นความประทับใจแรกจึงมิรู้ลืม

กับรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกโซนยุโรปคราวนี้ ณ ตอนที่กำลังเขียนโพสต์นี้อยู่ เรายังมีลุ้นจะได้เห็นทีมชนะรวดอีกถึง 3 ทีม

อังกฤษ นอร์เวย์ และ สเปน

ทั้ง 3 ทีมต่างก็ฝ่าฟันมาถึงเกมสุดท้ายของตัวเองด้วยสถิติชนะ 100 เปอร์เซนต์ด้วยกันทั้งหมด

อังกฤษชนะรวด 7 นัด นอร์เวย์ชนะรวด 7 นัด สเปนชนะรวด 5 นัด

เหลือเพียงเกมสุดท้ายเท่านั้น อังกฤษไปเยือนแอลเบเนีย นอร์เวย์ไปเยือนอิตาลี และสเปนเล่นที่เซบีย่ารับมือตุรกี

อังกฤษกับนอร์เวย์ลงเตะคืนนี้ (อาทิตย์ที่ 16 พ.ย.) สเปนลงเตะคืนวันอังคารนี้ (18 พ.ย.)

ถ้าพร้อมใจกันเก็บ 3 คะแนนส่งท้ายได้ด้วยกันทั้งหมด นี่จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีทีมชนะรวดในศึกคัดบอลโลกโซนยุโรปและคัดยูโรมากกว่า 2 ทีมในสมัยเดียวกัน

เท่าที่ลองตรวจสอบข้อมูลด้วยตัวเอง (ยังไม่ยืนยันร้อยเปอร์เซนต์) เข้าใจว่าน่าจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์รอบคัดเลือกฟุตบอลโลกจากทุกโซน/ทุกสมัยด้วย

จากที่เคยยากแสนยาก 20-30 ปีจะเกิดขึ้นสักครั้ง เรากำลังมีโอกาสได้เห็นการชนะรวดในรอบคัดเลือกโซนยุโรปถึง 3 ทีมในสมัยเดียว

อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะรู้ผลแล้วนะครับว่าอังกฤษกับนอร์เวย์ทำได้ไหม และหลาย ๆ ท่านอาจจะอ่านโพสต์นี้ตอนที่ทั้ง 2 ทีมเสร็จสิ้นภารกิจไปเรียบร้อยแล้ว

ได้หรือไม่ได้ มันก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่ออยู่ดี

ไม่เพียงเท่านั้น สำหรับ อังกฤษ กับ สเปน แล้ว ทั้ง 2 ทีมยังมีโอกาสสร้างผลงานที่สุดยอดยิ่งไปกว่านั้นอีกด้วย จะเรียกว่าเป็นวีรกรรมที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยมีมาก็คงไม่ผิด

ชนะรวด 100 เปอร์เซนต์น่ะธรรมดาไปแล้ว กระทิงดุ กับ สิงโตคำราม กำลังจะทำในสิ่งที่เหนือชั้นขึ้นไปอีก ด้วยการ "ชนะเกมศูนย์" ทุกนัดที่ลงสนาม

ก่อนเตะนัดสุดท้ายไปเยือนแอลเบเนีย อังกฤษแข่ง 7 ชนะ 7 ยิงได้ 20 ประตู และยังไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียว

ก่อนเตะนัดสุดท้ายกับตุรกี สเปนแข่ง 5 ชนะ 5 ยิงได้ 19 ประตู และยังไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียวเช่นกัน

(นอร์เวย์ชนะรวด 7 นัด ยิงถล่มทลาย 33 ประตู แต่เสียไปแล้ว 4 ประตู)

16 ครั้งจากคัดบอลโลก/คัดยูโร 11 สมัยที่ผ่านมา ทีมที่ชนะรวด 100 เปอร์เซนต์ล้วนเสียประตูทั้งสิ้น

เยอรมัน คัดยูโร 2012 เสียเยอะสุด 7 ประตู

โปแลนด์ คัดบอลโลก 1982, ฝรั่งเศส คัดยูโร 2004, ฮอลแลนด์ คัดบอลโลก 2010 และโปรตุเกส คัดยูโร 2024 เสียน้อยสุด ทีมละ 2 ประตู

ไม่มีทีมไหนไม่เสียประตู

แต่ อังกฤษ กับ สเปน กำลังจะทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน คือไม่เพียงชนะรวด 100 เปอร์เซนต์ในรอบคัดเลือกเท่านั้น แต่ยังไม่เสียประตูเลยแม้แต่เกมเดียวด้วย

อังกฤษชนะเซอร์เบีย 2-0 กับ 5-0 ชนะลัตเวีย 3-0 กับ 5-0 ชนะอันดอร์ร่า 2-0 กับ 1-0 และชนะแอลเบเนียในเกมแรกที่เวมบลีย์ 2-0

สเปนชนะบัลแกเรีย 4-0 กับ 3-0 ชนะจอร์เจีย 2-0 กับ 4-0 และบุกไปถล่มตุรกีมา 6-0 ในเกมแรกที่พบกัน

เข้าสู่เกมสุดท้าย จะทำได้ หรือทำไม่ได้ แน่นอนครับ.. มันก็จะยังเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่น่าเชื่ออยู่ดี

ตังกุย



ที่มาของภาพ : reuters
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport