แม้ว่าจะมีดีกรีเป็นแชมป์ ฟุตบอลโลก 4 สมัย แต่ อิตาลี ก็ไม่ผ่านเข้าไปเล่นศึก ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มา 2 หนติดต่อกันแล้ว นั่นคือปี 2018 ที่ รัสเซีย เป็นเจ้าภาพ กับ 2022 ที่จัดในประเทศกาตาร์
ปัจจุบัน อิตาลี ก็ยังต้องลุ้นเหนื่อยหากไม่อยากจะชอกช้ำเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน เพราะในนัดสุดท้ายของศึก ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ไอ พวกเขามีเงื่อนไขเดียวเท่านั้นหากหวังที่จะเป็นแชมป์กลุ่มและเข้าสู่รอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติ นั่นคือต้องชนะ นอร์เวย์ ในนัดสุดท้ายด้วยผลต่างอย่างน้อยถึง 9 ประตู
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นอร์เวย์ กับ อิตาลี ลงเล่นโปรแกรมนัดรองสุดท้าย ซึ่ง นอร์เวย์ ลงสนามก่อนแล้วเอาชนะ เอสโตเนีย 4-1 ขณะที่หลังจากนั้น อิตาลี บุกไปชนะ มอลโดว่า 2-0
ผลการแข่งขันที่ออกมาทำให้ตอนนี้ นอร์เวย์ มีอยู่ 21 คะแนนจากการลงเล่น 7 นัด ส่วน อิตาลี เก็บไปแล้ว 18 แต้ม ซึ่งคู่นี้จะเจอกันเองในนัดสุดท้ายที่ ซาน ซีโร่ แต่ประเด็นก็คือ นอร์เวย์ มีผลต่างประตูได้-เสีย อยู่ที่ถึง +29 ลูก จากการยิงได้ 33 ประตูและเสีย 4 ลูก ส่วนของ อิตาลี อยู่ที่เพียง +12 ประตู จากการทำได้ 20 ประตูกับเสีย 8 ลูก
สำหรับศึก ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก รอบแบ่งกลุ่มนั้น เมื่อมีทีมไหนที่มีคะแนนเท่ากันก็จะวัดที่ผลต่างประตูได้-เสีย แบบนับรวมทุกนัดเป็นเงื่อนไขแรก นั่นหมายความว่าตามทฤษฎีแล้ว อิตาลี ยังมีโอกาสแซง นอร์เวย์ ได้อยู่ แต่พวกเขาต้องชนะให้ได้ด้วยผลต่างอย่างต่ำ 9 ลูก เพื่อที่จะได้มีผลต่างประตูได้-เสีย ดีกว่าอีกฝ่าย เนื่องจากถ้าผลต่างประตูได้-เสียเท่ากัน มันก็ต้องไปวัดที่จำนวนประตูที่ทำได้ ซึ่ง นอร์เวย์ ยิงได้เยอะกว่า อิตาลี หลายลูก
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหาก อิตาลี ชนะ นอร์เวย์ 9-0 มันก็จะทำให้ผลต่างประตูได้-เสียของ "อัซซูรี่" กลายเป็น +21 ลูก ส่วนของ นอร์เวย์ จะลดเหลือ +20 ประตู นั่นเอง
ทั้งนี้ ในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลอิตาลี เกมที่พวกเขาเคยชนะด้วยสกอร์ขาดลอยที่สุดก็คือ 9-0 เพียงแต่ต้องย้อนไปถึงปี 1948 โดยเกิดขึ้นในศึก โอลิมปิก เกมส์ 1948 รอบแรก ที่คว้าชัยเหนือ สหรัฐอเมริกา
ส่วนถ้านับเฉพาะศึก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกแล้วล่ะก็ เกมที่พวกเขาเคยชนะขาดลอยที่สุดคือสกอร์ 6-0 โดยเป็นการถล่ม อิสราเอล ในรอบคัดเลือก รอบเพลย์ออฟ แบบข้ามทวีป รอบชิงชนะเลิศนัดสอง จนทำให้ได้ไปเล่น ฟุตบอลโลก 1962 รอบสุดท้าย
ขณะที่หากดูแค่ช่วง 10 ปีหลังสุด อิตาลี ก็เคยมีเกมที่ชนะคู่แข่งแบบขาดลอยเช่นกัน นั่นคือเกม ยูโร 2020 รอบคัดเลือก ที่ชนะ อาร์เมเนีย 9-1 เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2019, เกมอุ่นเครื่องที่ชนะ ซาน มารีโน่ 7-0 เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2021, เกม ยูโร 2020 รอบคัดเลือก ที่พิชิต ลิคเท่นสไตน์ 6-0 เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2019 และเกมอุ่นเครื่องที่ดับ มอลโดว่า 6-0 เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2020 เพียงแต่ นอร์เวย์ ชุดปัจจุบันนั้น แข็งแกร่งกว่าทีมเหล่านั้นอย่างชัดเจน
ด้วยเหตุนี้ มันจึงไม่น่าแปลกใจถ้าจะบอกว่าในเกมสุดท้ายนั้น ลูกทีมของ เจนนาโร่ กัตตูโซ่ ต้องทำผลงานที่สุดยอดยิ่งกว่าคำว่า ปาฏิหาริย์ หากจะได้เป็นแชมป์ของกลุ่ม ซึ่งมันก็มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะทำไม่สำเร็จจนต้องไปเหนื่อยต่อในรอบคัดเลือก รอบสอง โดยรอบดังกล่าวนั้นจะมีการแบ่งเป็นรอบรองชนะเลิศกับรอบชิงชนะเลิศอีก
| สถานการณ์ระหว่าง นอร์เวย์ กับ อิตาลี |
| อันดับ | แต้ม | ผลต่างประตู | ประตูได้ | ประตูเสีย |
| 1. นอร์เวย์ | 21 | +29 | 33 | 4 |
| 2. อิตาลี | 18 | +12 | 20 | 8 |
- เด็กเกร็ดบอล -