ความโปร่งใสที่ง่ายที่สุด

โควต้า 9 ทีมครึ่ง ได้ไปบอลโลกเรียบร้อยแล้ว 9 ทีม เหลืออีกครึ่งทีมคือการชิงตั๋วเพลย์ออฟในช่วงปฏิทินฟีฟ่าคราวนี้ (เดือนพฤศจิกายน)

ตั๋วเพลย์ออฟที่ว่ามีเพียงใบเดียว แย่งชิงกัน 4 ทีม

ไนจีเรีย แคเมอรูน ดีอาร์คองโก และ กาบอง

แคเมอรูนไปบอลโลกมาแล้ว 8 สมัย ไนจีเรีย 6 สมัย ดีอาร์คองโก 1 สมัยเมื่อปี 1974 คราวที่ยังใช้ชื่อเดิมว่า ซาอีร์ ส่วน กาบอง ยังไม่เคยได้สัมผัสเวิลด์คัพรอบสุดท้าย

กติกาของเขาคือจับคู่เตะโดยให้ทีมอันดับโลกดีที่สุดเจอกับทีมอันดับโลกแย่ที่สุด ทำให้ ไนจีเรีย อันดับ 41 ของโลก พบกับ กาบอง (อันดับ 77) และอีกคู่ แคเมอรูน (อันดับ 54) พบกับ ดีอาร์ คองโก (อันดับ 60)

เล่นกันแค่เกมเดียวตัดสิน รอบรองชนะเลิศวันพฤหัสฯ ที่ 13 พ.ย. นี้ ใครชนะก็เข้าไปชิงตั๋วด่านสุดท้ายกันต่อในวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย. เกมเดียวตัดสินเช่นกัน

สมาพันธ์ฟุตบอลแอฟริกาหรือ CAF ทำในสิ่งที่เป็นพื้นฐานง่าย ๆ โปร่งใส ไม่งุบงิบแอบทำ หรือเอื้อประโยชน์ให้ชาติใดชาติหนึ่ง

CAF ให้ทั้ง 4 ทีมไปเตะเพลย์ออฟกันที่โมร็อกโกครับ

เจ้าภาพโมร็อกโกเตรียมสนามเตะไว้ 2 สนามในกรุงราบัตคือ มูเลย์ ฮัสซัน สเตเดี้ยม กับ อัล บาริด สเตเดี้ยม

ทั้ง 2 คู่ลงเตะในวันเดียวกัน คู่ ไนจีเรีย-กาบอง เตะก่อน คู่แคเมอรูน-ดีอาร์ คองโก เตะทีหลังเพื่อสิทธิประโยชน์เรื่องการถ่ายทอดสด แต่ก็ในเวลาที่ห่างกันเพียง 3 ชั่วโมง

ทั้งหมดอยู่ในเมืองเดียวกัน ไม่ต้องเหนื่อยเดินทาง และยังได้พักด้วยจำนวนวันที่เท่ากันหากเข้าชิง

เป็นการเลือกเจ้าภาพที่โปร่งใส และยุติธรรมกับทุกทีม ไม่มีข้อครหาใด ๆ

มันควรจะเป็นอย่างนี้ไม่ใช่หรือ.. แล้วมันทำยากนักหรือ

เมื่อได้เห็นการจัดวางโปรแกรมและเลือกเจ้าภาพแบบนี้ ยอมรับตามตรงว่าผมยิ่งรู้สึกรังเกียจการเลือกเจ้าภาพของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) ในรอบก่อนหน้า

รอบสำคัญชิงตั๋วไปบอลโลก โอกาสเดียวในรอบ 4 ปีของทุกทีม แต่เกมในกลุ่ม กาตาร์ ยูเออี โอมาน ให้ไปจัดที่กาตาร์ และเกมในกลุ่ม ซาอุดีอาระเบีย อิรัก อินโดนีเซีย ให้ไปจัดที่ซาอุดีอาระเบีย ในกระบวนการคัดสรรที่จนกระทั่งถึงวันนี้ยังไม่สามารถหาที่มาที่ไปหรือแหล่งข่าวที่ชัดเจนเลยว่าขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบเป็นอย่างไร

ขนาดไล่คุ้ยหายังได้ข้อมูลเพียงเป็นการเปิดให้สมัครเป็นเจ้าภาพ แต่ยื่นเสนอกันกี่ประเทศก็ไม่รู้ คะแนนโหวตเป็นอย่างไรก็ไม่รู้

เวลาผ่านไปเราอาจจะลืม แต่ผมเชื่อว่า ยูเออี โอมาน อิรัก และ อินโดนีเซีย ไม่มีวันลืมความน่าขยะแขยงนี้แน่

คำนวนจากความน่าจะเป็นแล้ว 4 ทีมที่เหลือของโซนแอฟริกามีโอกาสได้ไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแค่ไม่ถึง 10% นะครับ

เพราะโอกาสในรอบนี้คือ 1 ใน 4 (ตั๋วได้ไปต่อมีใบเดียว แย่งกัน 4 ทีม) และโอกาสในรอบเพลย์ออฟเดือนมีนาคมปีหน้าอีก 1 ใน 3 (ตั๋วไปบอลโลก 2 ใบ แย่งกัน 6 ทีม)

มันคือ 1 ใน 12.. ยากยิ่งกว่า 1 ใน 10 เสียอีก

แต่ผมคิดว่ายากแค่ไหนพวกเขาก็ไม่กลัว มาถึงตรงนี้แล้วก็ต้องลุยไปให้สุด เข้ารอบหรือตกรอบ ไปต่อหรือไม่ได้ไปต่อ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเอง

ถ้าจะตกรอบก็ตกด้วยตัวเอง ไม่มีอะไรติดค้างหรือคาใจ

เพราะพวกเขาได้รับสิ่งสำคัญที่ควรได้รับ นั่นคือความยุติธรรมขั้นพื้นฐานที่สุดจากองค์กรที่รับผิดชอบ

ในรอบที่ไม่ควรมีใครได้เปรียบเสียเปรียบ CAF ดูแล คัดสรร และเลือกสนามกลางที่เหมาะสมให้กับทั้ง 4 ทีมได้ลงไปต่อสู้กัน

แพ้ชนะว่ากันด้วยผลงานในสนาม บนความเท่าเทียม ไม่ใช่คำครหาว่าเอื้อประโยชน์ให้ใคร

เป็นเรื่องที่เข้าใจได้โคตรจะง่ายเลย แต่มันคงยากเกินไปสำหรับบางองค์กร

ตังกุย