สเปน จะไม่ได้แชมป์โลกเพราะ ?

สเปน จะไม่ได้แชมป์โลกเพราะ ?
ทีมชาติสเปนปิดท้ายฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเดือนตุลาคมด้วยการถล่ม บัลแกเรีย 4-0 รวมผลงานลงเล่น 4 นัดชนะรวด ยิง 15 ไม่เสียเลย

ถึงแม้ว่าจะยังไม่การันตีเข้ารอบ แต่ทัพกระทิงดุไม่น่าพลาดเที่ยวบินไปอเมริกาเหนือในหน้าร้อนปีหน้าอย่างแน่นอน 

ด้วยฟอร์มอันสุดยอด ก่อนทัวร์นาเมนท์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง ฟุตบอลโลก ประเด็นที่สื่อสเปนหยิบมาพูดคุยอย่างจริงจังในช่วงนี้ก็คือ 

"สเปน จะคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 ได้หรือไม่ ?" 

ฟังจากหัวข้อสนทนาอย่างเดียว อาจชวนให้รู้สึกว่าโอ้อวด

แต่ vibes ในการพูดคุยเรื่องนี้เป็นการพูดคุยเชิงวิเคราะห์ว่า ถ้า สเปน จะไปไม่ถึงฝั่งฝันนั่นเป็นเพราะอะไร ? ทีมชุดนี้ของ หลุยส์ เด ลาฟวนเต้ มีจุดอ่อนตรงไหนบ้าง ? 

เนื่องจากถ้าจะมองหาเหตุผลว่าทำไม สเปน ถึงจะคว้าแชมป์โลกมาครอง บอกได้เลยว่ามีมากมาย แต่ก็ไม่ก่อประโยชน์มากนัก

แต่ในทางกลับกัน หากตั้งคำถามว่า แล้วอะไรล่ะที่จะทำให้ สเปน ไปไม่ถึงดวงดาว ? มันน่าสนใจขึ้นมาทันที เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีใครวิเคราะห์กันอย่างจริงจัง 

ในแง่ของคุณภาพนักเตะและขุมกำลัง พูดได้ว่า สเปน ชุดนี้ไม่เป็นที่สงสัย พวกเขาอยู่ในระดับเวิล์ดคลาส 

สเปน ยุคนี้สามารถมี 11 คนแรกที่ดีที่สุด และเมื่อเกิดการเปลี่ยนตัว ขุมกำลังที่ข้างสนามก็สามารถให้คุณภาพในระดับที่ใกล้เคียงกัน 

ในแต่ละตำแหน่ง พวกเขามีนักเตะที่ยอดเยี่ยม 

ผู้รักษาประตู อูไน ซิมอน แม้จะไม่ถูกยกย่องในวงกว้าง แต่ทุกคนรู้ดีว่านายด่านแอธ.บิลเบา ครบเครื่องและเป็นที่วางใจของ เด ลาฟวนเต้ แค่ไหน 

มือ 2 และ 3 อย่าง ดาบิด ราย่า และ โรเบิร์ต ซานเชซ ก็ไม่ธรรมดา แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ถ้า โจน การ์เซีย ฟิตกลับมาและโชว์ฟอร์มได้เหมือนซีซั่นที่แล้วกับ เอสปันญ่อล นี่คืออนาคตมือหนึ่งของทีมชาติเลยทีเดียว

แบ็กขวามี เปโดร ปอร์โร่ เป็นตัวหลักเวลานี้ แต่อีกไม่นาน ดานี่ การ์บาฆาล จะกลับมาขับเคี่ยวด้วย ไหนยังจะ มาร์กอส ยอร์เรนเต้ จาก แอต.มาดริด อีก

แบ็กซ้าย มาร์ค กูกูเรย่า ดูมั่นคงกับตำแหน่งนี้ แต่ อเล็กซ์ กริมัลโด้ ก็โชว์ให้เห็นว่าเขาเล่นได้มันส์แค่ไหนเมื่อได้โอกาส อย่างเช่นเกมล่าสุดกับ บัลแกเรีย กับแอสซิสต์ที่เปิดให้ มิเกล เมรีโน่ โขกตุงตาข่าย

เซนเตอร์ฮาล์ฟ ทีมมี อายเมริก ลาปอร์ก,โรแบง เลอ นอร์กมองด์,ดีน เฮาเซ่น,อินญิโก้ มาร์ติเนซ,ดานี่ บีเบียน และ เปา กูบาร์ซี่ ซึ่งล้วนแล้วแต่คุณภาพสูงทั้งสิ้น 

แผงกลางจะเรียกว่าเป็นจุดแข็งของทีมก็คงไม่ผิด เด ลาฟวนเต้ มีมิดฟิลด์ให้เลือกมากมาย เอ่ยชื่อมาแต่ละคน ตัวท็อปทั้งสิ้น ไม่ว่า โรดรี้,ซูบิเมนดี้,เปดรี,ฟาเบียน รูอิซ,มิเกล เมรีโน่,อเล็กซ์ บาเอน่า,เฟร์มิน โลเปซ,มาร์ค กาซาโด้,ดานี่ โอลโม่ , ปาโบล บาร์รีออส หรือแม้กระทั่ง อิสโก้...เสียดาย กาบี อาจไม่อยู่ในข่ายเป็นตัวเลือกเพราะอาการเจ็บหนักหนาอยู่ 

แดนหน้า ว่าถึงตัวรุกริมเส้น สเปน มีขุมกำลังที่โดดเด่นอย่าง ลามีน ยามาล กับ นิโก้ วิลเลี่ยมส์  แต่ถัดลงมาต้องยอมรับว่ายังห่างจากตัวจริงพอสมควร อย่าง เยเรมี่ ปีโน่ ที่เพิ่งย้ายไป คริสตัล พาเลซ หรือ อาโยเซ่ เปเรซ 

แต่ที่ถูกมองว่าด้อยที่สุดในบรรดาขุมกำลังแต่ละแดนก็คือกองหน้าตัวเป้า 

เฟร์ราน ตอร์เรส,บอร์ฆา อิเกลเซียส,อัลบาโร่ โมราต้า ,ซามู โอโมโรเดียน อัคเกโฮวา และ มิเกล โอยาซาบัล แต่ละชื่อ ไม่อาจให้ความรู้สึกมั่นใจได้มากนัก 

ว่ากันว่าถ้า สเปน มีกองหน้าตัวท็อปเหมือนยุคต้น 2000 อย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส หรือ ดาบิด บีย่า พวกเขาจะไร้เทียมทาน 

เวลานี้ เด ลาฟวนเต้ เลือกใช้ โอยาซาบัล ยืนเป็นหน้าเป้า ซึ่งเอาเข้าจริง กัปตันเรอัล โซเซียดาด ไม่ใช่ หมายเลข 9 ธรรมชาติ 

โอยาซาบัล คือกองหน้าสไตล์คล้ายๆ ราอูล กอนซาเลซ มีความคล่องตัวประมาณนึง สามารถเล่นด้านข้างได้ดี มีเซนส์บอลที่ดีเล่นหน้าต่ำได้ และมีการจบสกอร์ที่ไม่เลว จึงสามารถเล่นหน้าเป้าได้ แต่ก็ไม่ใช่ธรรมชาติ ด้วยสรีระ และด้วยชุดทักษะที่แตกต่างออกไป 

โอยาซาบัล ตัวใหญ่กว่า บีย่า แต่เขาไม่เหมือนอดีตดาวยิงบาเลนเซียตรงที่สัญชาตญาณความเป็นนักล่าประตู ไม่โดดเด่นเท่า 

ส่วนกองหน้ากัปตันทีม โมราต้า คือหน้าเป้าธรรมชาติ ที่เล่นร่วมดี มีความทุ่มเท เสียสละเล่นเกมรับ มีความเป็นผู้นำ ได้ใจเพื่อนร่วมทีม แต่ข้อเสียเดียวที่เขามีคือ "จบสกอร์ไม่คม" 

หากมองกันในแง่นี้ สเปน ดูจะมีปัญหาที่ตำแหน่งหน้าเป้ามากที่สุด ทว่าก็ไม่ถึงกับร้ายแรง ถามว่ามันเป็นจุดอ่อนมั๊ย ? ก็ไม่ขนาดนั้น เอาเป็นว่าแค่มันไม่ใช่จุดแข็ง ซึ่งบรรดากูรูวิเคราะห์กันว่า ถ้า สเปน จะไม่ไม่ถึงเป้าหมายในฟุตบอลโลกปีหน้า คุณภาพของหน้าเป้าไม่น่าจะเป็นสาเหตุหลัก 

แล้วอะไรล่ะที่สื่อและกูรูแดนกระทิงดุห่วงกัน ?

หลักๆแล้ว จุดน่ากังวลของ สเปน ชุดนี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคล แต่อยู่ที่ระบบและวิธีการเล่น ที่หลายๆครั้งนำไปสู่การเสียประตูอย่างง่ายดาย 

กลไกในเกมรับ !!

จริงอยู่ สเปน มีกองหลังเทพๆหลายคน แต่ในเชิงเทคนิค ด้วยวิธีการเล่นที่มักโอเวอร์โหลดผู้เล่นเข้าไปในแดน 2 และแดน 3 ค่อนข้างมาก ทำให้ สเปน มีความเปราะบางอย่างน่าเหลือเชื่อในบางสถานการณ์ 

หากเสียบอลในขณะเล่นเกมรุก พวกเขาจะเสียทรงในการเล่นเกมรับ และถ้าเจอคู่ต่อสู้ที่เล่นเคาเตอร์เก่งๆ เป็นมืออาชีพทางด้านนี้ สเปน มีสิทธิ์โดนน็อคได้ง่ายๆ 

ยิ่งเป็นเกมระดับสูงอย่างฟุตบอลโลก เวลาที่คุณเป็นฝ่ายตามหลัง การจะเอาคืนนั้นไม่เคยเป็นเรื่องง่าย

ฟุตบอลรอบสุดท้ายคือของจริง นอกจากอารมณ์ความรู้สึกแล้ว ระดับการเล่นยังแตกต่างจากรอบคัดเลือก จอร์เจีย,บัลแกเรีย,ตุรกี ไม่ใช่ด่านทดสอบที่แท้จริง

นอกจากนั้นแล้ว อีกหนึ่งข้อกังวลของนักวิเคราะห์ก็คือเรื่องสภาพร่างกาย 

เมื่อคุณอยู่ระหว่างทัวร์นาเมนท์ที่ต้องเล่นอย่างหนักหน่วงภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน ร่างกายเป็นสิ่งสำคัญมาก 

ร่างกายจะเป็นอย่างไร การเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ทัวร์นาเมนท์มีผล

อย่างยิ่ง กล่าวคือ สเปน ต้องเข้าสู่ทัวร์นาเมาท์ด้วยความพร้อมเต็ม 100 % 

ด้วยแนวทางการเล่นของ สเปน หากปราศจากความเข้มข้นในทุกๆบอลแล้ว ก็ยากที่จะเปล่งประสิทธิภาพสูงสุด 

ความกดดันล่ะ ?

นักวิเคราะห์มองว่ามองว่าอยู่ในระดับที่สูงขึ้นกว่าเดิม ด้วยตำแหน่งแชมป์ยูโรหนที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้าทัวร์นาเมนท์ที่เยอรมัน สเปน ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งที่ชัดเจน จนกระทั่งผ่าน จอร์เจีย ในรอบ 16 ทีมมาได้ 

แต่ในฟุตบอลโลก 2026 สเปน จะถูกมองด้วยสายตาที่ต่างไปจากเดิม ความคาดหวังสูงขึ้นกว่าเดิมอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ยิ่งในประวัติศาสตร์ก่อนหน้านี้ สเปน ที่คว้าแชมป์ยูโร 2008 มาครองได้ต่อยอดด้วยการเป็นแชมป์โลกทันทีในปี 2010  

ประการสุดท้าย 'ประสบการณ์' 

ตรงนี้ถูกว่ามีความสำคัญอย่างมาก คิลิยัน เอ็มบั๊บเป้ ให้สัมภาษณ์ถึงทีมชาติสเปนชุดปัจจุบันด้วยการยกย่องว่าเป็นทีมที่คอนโทรลเกมได้ดีมาก และแข็งแกร่งในเชิงเทคนิค ทว่าจากประสบการณ์ของเขาในฟุตบอลโลก 

"ทีมที่ดีไม่ได้ไปได้สวยในทุกครั้ง"

สำหรับ เอ็มบั๊บเป้ แล้ว สเปน คือทีมที่ดีที่สุดในยุโรปเวลานี้ แต่ฟุตบอลโลกเป็นอะไรที่แตกต่างออกไป  สเปน มีนักเตะอายุน้อยหลายคน และพวกเขาไม่รู้ว่า ฟุตบอลโลกคืออะไร 

นี่ไม่ใช่คำเย้ยหยัน แต่เป็นความเห็นจากคนที่สัมผัสมาจริงๆ  เอ็มบั๊บเป้ มีประสบการณ์ลงเล่นในฟุตบอลโลกมาแล้ว 2 ครั้ง และแต่ละครั้งก็ไปไกลถึงนัดชิงชนะเลิศ ขณะที่ในระดับสโมสร เขาเล่นใน ลา ลีกา เป็นปีที่ 2 แล้ว ย่อมรู้จักนักเตะสเปนเป็นอย่างดี 

ในเชิงเทคนิค กลไกเกมรับคือจุดที่เปราะบางที่สุดเมื่อทีมเสียการครอบครองบอล 

ในเชิงประสบการณ์ ผู้เล่นหลายคนยังไม่เคยสัมผัสฟุตบอลโลก อาจรับมือกับมันได้ไม่ดีพอ 

หลักๆ เท่าที่มองเห็นในยามนี้ก็คงจะประมาณนี้ สำหรับจุดที่สามารถฉุดรั้งไม่ให้ สเปน ก้าวไปถึงแชมป์โลกสมัยที่ 2 ได้ หากแต่ในอนาคตข้างหน้าก็อาจมีเพิ่มเติมอีก อันเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้เลย

เจมส์ ลาลีกา



ที่มาของภาพ : getty image
BY : เจมส์ ลาลีกา
อาวุธ จิวรากรานนท์
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport