ไม่เล็กนะครับ! เปิด 6 ชาติประชากรน้อยสุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก

 แม้ว่าหลายประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก เช่น จีน, อินเดีย และอินโดนีเซีย ไม่ค่อยมีโอกาสเข้าไปเล่นในรอบสุดท้าย แต่หลายชาติขนาดเล็กกลับสร้างผลงานได้เหนือความคาดหมายอย่างภาคภูมิใจ

 เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับชาติเล็กๆ ที่มีประชากรเพียงหยิบมือแต่สร้างผลงานได้อย่างน่าทึ่ง จึงขอแนะนำ 6 ชาติเล็กที่สุดที่ได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้าย ศึกเวิลด์ คัพ โดยจัดเรียงตามจำนวนประชากร ณ ช่วงเวลาที่ทัวร์นาเมนต์ทำการแข่งขัน 

6. คูเวต (ประชากร 1.5 ล้านคน ในปี 1982)

 การเพิ่มทีมในฟุตบอลโลก 1982 จาก 16 ทีมเป็น 24 ทีม ทำให้มีโควตาการเข้ารอบเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีทีมที่เข้ารอบครั้งแรกถึง 5 ทีม หนึ่งในทีมที่น่าสนใจที่สุดคือคูเวต ซึ่งเป็นแชมป์เอเชียนคัพ 1980 สามารถผ่านเข้ารอบเหนือประเทศต่างๆ เช่น เกาหลีใต้, ซาอุดีอาระเบีย, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ด้วยจำนวนประชากรเพียง 1.5 ล้านคน 

 คูเวตถือว่าเจอกับความท้าทายอย่างหนัก แต่ก็สามารถทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ พวกเขาเสมอกับเชโกสโลวะเกีย 1-1 ในเกมเปิดสนาม ก่อนจะแพ้ฝรั่งเศส 4-1 ตามด้วยความพ่ายแพ้ 1-0 อย่างสูสีต่ออังกฤษ  ตกรอบแบ่งกลุ่มด้วยการมี 1 คะแนน 

5. ไอร์แลนด์เหนือ (ประชากร 1.4 ล้านคน ในปี 1958)

 ไอร์แลนด์เหนือ ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก เป็นครั้งแรกเมื่อปี 1958 ซึ่งทัวร์นาเมนต์นี้เป็นที่จดจำจากการแจ้งเกิดของ เปเล่ ในวัย 17 ปีกับการเล่นให้ทีมชาติบราซิลที่สามารถคว้าแชมป์ได้ในที่สุด

 ทัพ "เขียวขาว" สร้างผลงานได้น่าประทับใจในรอบแบ่งกลุ่ม ด้วยการเฉือนชนะ เชโกสโลวะเกีย 1-0 ในแมตช์ประเดิมสนาม จากนั้นก็แพ้ อาร์เจนตินา 1-3 แต่สามารถยันเสมอ เยอรมนีตะวันตก 2-2 ทำให้พวกเขามี 3 แต้มเท่ากับ เชโกสโลวะเกีย จึงต้องเล่นเพลย์ออฟ และคว้าชัยชนะได้สำเร็จทำให้คว้าตั๋วทะลุรอบน็อกเอาต์

 อย่างไรก็ตาม ไอร์แลนด์เหนือ ไม่สามารถต้านทานความดุดันของ ฝรั่งเศส ได้เลย และต้องพ่ายแพ้ยับเยิน 0-4 โบกมือลา เวิลด์ คัพ ในปีดังกล่าวเพียงแค่รอบก่อนรองชนะเลิศ เท่านั้น 

4. ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก (ประชากร 1.3 ล้านคน ในปี 2006)

 ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ได้เข้าไปเล่นในศึกฟุตบอลโลกครั้งแรกเมื่อปี 2006 โดยพวกเขาต้องเจอกับงานสุดหินเมื่ออยู่ร่วมกลุ่มชาติชั้นนำในวงการลูกหนังอย่าง อังกฤษ, สวีเดน และ ปารากวัย 

 ทีมชุดนั้นมีนักเตะชื่อดังในวงการฟุตบอลอังกฤษหลายคน รวมถึง ดไวท์ ยอร์ค (แมนฯ ยูไนเต็ด) , เคนวิน โจนส์ (ซันเดอร์แลนด์), ชาก้า ฮิสล็อป (นิวคาสเซิ่ล) และสเติร์น จอห์น (เบอร์มิงแฮม)  เป็นต้น

 พวกเขาเปิดฉากรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเสมอสวีเดน 0-0  แต่แพ้ต่ออังกฤษ 0-2 และปิดท้ายรอบแบ่งกลุ่มพ่ายให้กับ ปารากวัย 0-2 ปิดฉากทัวร์นาเมนต์ด้วยการมี 1 คะแนน และยิงประตูคู่แข่งไม่ได้เลย  

3. ปารากวัย (ประชากร 925,000 ในปี 1930)

 ข้อมูลตั้งแต่ฟุตบอลโลกครั้งแรกยากที่จะยืนยันได้แน่ชัด แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสถิติฟุตบอลหลายคนมองว่า ปารากวัย เป็นหนึ่งในประเทศขนาดเล็กที่สุดที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ในปี 1930 

 ตอนนั้น ปารากวัย มีประชากรประมาณ 925,000 คน อย่างไรก็ตามพวกเขาตกรอบแรก แต่ต่อมาก็ผ่านเข้ารอบสุดท้ายหลายครั้ง โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือระหว่างปี 1998-2006 เมื่อสามารถผ่านเข้ารอบต่อเนื่องถึงสี่ครั้งติดต่อกัน

 หลังจากพลาดเข้าไปโชว์เพลงแข้งในรอบสุดท้ายศึกเวิลด์ คัพ สามครั้งหลังสุด ตอนนี้ ปารากวัย ซึ่งปัจจุบันมีประชากรมากกว่า 6 ล้านคน สามารถผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2026 ได้สำเร็จแล้ว

2. เคปเวิร์ด (ประชากร 524,877 คน ในปี 2025)

 เคปเวิร์ด ซึ่งมีอันดับโลกอยู่ที่ 70 และมีประชากรน้อยกว่าเมืองเบอร์มิงแฮม แต่ทีมฟุตบอลของเกาะแห่งนี้กลับสร้างผลงานโดดเด่นบนเวทีใหญ่ ซึ่งทำให้ผู้คนทั่วโลกต้องทึ่งและประทับใจ

 การผ่านเข้ารอบของเคปเวิร์ด หรือชื่อทางการว่าประเทศกาบูเวร์ดี ถือเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจที่สุดในวงการฟุตบอลสมัยใหม่ โดยทัพ "ฉลามน้ำเงิน" จะได้เดบิวต์บนเวทีมหกรรมลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกปี 2026

 จากเกาะเล็กๆ กลางมหาสมุทรแอตแลนติก สู่ทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลก การเดินทางของ เคปเวิร์ด คือการเฉลิมฉลองความภาคภูมิใจ, ความพากเพียร และความหลงใหล ที่สำคัญการผจญภัยในฟุตบอลโลกของพวกเขาเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น

 เรื่องราวของ เคปเวิร์ด สะท้อนถึงความเข้มแข็ง, ความสามัคคี และความเชื่อมั่น รวมทั้งเป็นเครื่องยืนยันว่า "ขนาด" ไม่ใช่อุปสรรคต่อการสร้างประวัติศาสตร์ในวงการลูกหนัง และทุกๆ เรื่อง !!!

1.ไอซ์แลนด์ (ประชากร 335,000 คน ในปี 2018)

 ใครจะไปคิดว่า ไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นชาติที่ไม่ได้มีความโดดเด่นในเชิงลูกหนังมากนัก จะจารึกชื่อในฐานะประเทศที่มีประชากรน้อยที่สุดที่เคยผ่านเข้ารอบสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก

 พวกเขาเคยสร้างความประทับใจในศึกยูโร 2016 ด้วยการเอาชนะอังกฤษในรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้อย่างสุดยอด แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถสร้างผลงานได้ซ้ำรอยเดิมในการลุยเวิลด์ คัพ ที่รัสเซีย

 ไอซ์แลนด์ เริ่มต้นได้ดีด้วยการเสมออาร์เจนตินา 1-1 เก็บ 1 แต้มได้แบบหักปากกาเซีย แต่หลังจากนั้นผลงานก็ร่วงกราวรูดแพ้ ไนจีเรีย 0-2 และตบท้ายแพ้ โครเอเชีย 1-2  ตกรอบแบ่งกลุ่มด้วยการมีแค่แต้มเดียว 

 ✍️ 𝐓𝐎𝐌𝐌𝐘 𝐓𝐄𝐄