ญี่ปุ่น พบ ปารากวัย วันศุกร์ที่ 10 ต.ค. 68 ในเกมอุ่นเครื่องหลังเดือนกันยายนไร้ชัย ซามูไรบลูหวังเรียกความมั่นใจต่อจากฟอร์มคัดบอลโลก 2026 ขณะที่ ปารากวัย ตั้งเป้าต่อเนื่องผลงานดี
กระขับมิตรทีมชาติ
ญี่่ปุ่น - ปารากวัย
เวลา : 17.20 น. ถ่ายทอดสด : YouTube BG SPORTS
สนาม : ซูอิตะ ซิตี้ ฟุตบอล สเตเดี้ยม
ญี่ปุ่น - ฮาจิเมะ โมริยาซึ มีผู้เล่นตัวหลักหายไปหลายราย โดย คาโอรุ มิโตมะ ปีกความเร็วสูงจากไบรท์ตัน ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าจนพลาดลงสนามเกมพรีเมียร์ลีกล่าสุดที่เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน ส่งผลให้ต้องถอนตัวจากทีมชาติทันที ขณะเดียวกัน วาตารุ เอ็นโด มิดฟิลด์จากลิเวอร์พูล ก็ถอนตัวออกจากทีมด้วยปัญหาส่วนตัวที่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด ทำให้ทัพ "ซามูไรบลู" ต้องปรับแผนในแดนกลาง
ปารากวัย - กุสตาโว่ อัลฟาโร่ นายใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์ ได้รับข่าวดีเมื่อ โอมาร์ อัลเดเรเต้ กองหลังซันเดอร์แลนด์ ยังคงถูกเรียกติดทีมชาติอีกครั้ง นอกจากนี้ อันโตนิโอ ซานาเบรีย ดาวยิงสูงสุดของทีมในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก ที่ยิงไปแล้ว 4 ประตู จะยังคงเป็นหัวใจสำคัญในแนวรุก และคาดว่าจะออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ส่วนผู้เล่นอย่าง อเล็กซิส ดูอาร์เต้, ดีเอโก้ เลออน, ลูคัส โรเมโร และ ดีเอโก้ กอนซาเลซ ถูกเรียกติดทีม และมีโอกาสประเดิมสนาม
นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ญี่ปุ่น (4-2-3-1) : เคซึเกะ โอซาโกะ - ไดคิ ฮาชิโอกะ, โชโง ทานิงูจิ, อายุูมุ เซโกะ, ยูโตะ นางาโตโมะ - อาโอะ ทานากะ, ไคชู ซาโนะ - ทาเคฟุสะ คุโบะ, ไดจิ คามาดะ, ทาคุมิ มินามิโนะ - ไดเซ็น มาเอดะ
ปารากวัย (4-3-3) : กาติโต้ เฟร์นานเดซ - กุสตาโว่ เวลาซเกซ, กุสตาโว่ โกเมซ, โอมาร์ อัลเดเรเต้, ดีเอโก้ เลออน - ราม่อน โซซ่า, ดีเอโก้ โกเมซ, ดาเมียน โบบาดีย่า - มิเกล อัลมิรอน, อันโตนิโอ ซานาเบรีย, อเลฮานโดร โรเมโร่ กามาร์ร่า
ความน่าจะเป็นของเกม
ญี่ปุ่นทำผลงานเกมรุกได้อย่างน่าประทับใจ ยิงประตูได้ต่อเนื่องในรอบคัดเลือก แต่พวกเขาต้องเจอ ปารากวัย ที่มีสถิติเกมรับเหนียวแน่น เก็บคลีนชีตได้ 3 จาก 6 นัดหลังสุด มองว่าทั้งสองทีมน่าจะมีโอกาสทำประตูได้ แต่ต่างฝ่ายก็มีกำแพงเกมรับแข็งพอที่จะไม่ให้ใครคว้าชัยออกไปได้
ผลการแข่งขันที่คาด : ญี่ปุ่น เสมอ ปารากวัย 1-1