ชิลี ดิ่งสุดขีด! จากแชมป์โคปา อเมริกา สู่ตกต่ำไร้บอลโลก 3 สมัย

ชิลี ดิ่งสุดขีด! จากแชมป์โคปา อเมริกา สู่ตกต่ำไร้บอลโลก 3 สมัย
ทีมชาติชิลี จากเคยคว้าแชมป์โคปา อเมริกา 2 สมัยซ้อน ตอนนี้ตกต่ำสุดในประวัติศาสตร์ ตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 3 ครั้งติด ยิงได้น้อยสุดในรอบกว่า 30 ปี

26 มิถุนายน ปี 2016 วันนั้นประชาชนชาวชิลีเริงร่ากันสุดขีดหลังจากทีมชาติชิลีคว้าแชมป์ โคปา อเมริกา 2016 หรือที่เรียกกันว่า โคปา อเมริกา เซนเทนาริโอ ไปครอง ด้วยการชนะ อาร์เจนตินา ในช่วงดวลจุดโทษ 4-2 หลังจากจบ 120 นาทีเสมอกัน 0-0

ตอนนั้น อาร์เจนตินา มีนักเตะเก่งๆ ในช่วงวัยพีคอยู่หลายคนด้วย ไม่ว่าจะเป็น ลิโอเนล เมสซี่, อังเคล ดิ มาเรีย, กอนซาโล่ อิกวาอิน หรือ เซร์คิโอ อเกวโร่ แต่ว่า ชิลี ก็ยังพิชิตอีกฝ่ายได้จนทำให้พวกเขาได้แชมป์ โคปา อเมริกา เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน รวมถึงเป็นการย้ำแค้น "ฟ้า-ขาว" ไปในตัว เพราะ 1 ปีก่อนหน้านั้นพวกเขาก็ชนะ อาร์เจนตินา ในช่วงดวลเป้าของศึก โคปา อเมริกา 2015 มาหมาดๆ

น่าเศร้าที่นั่นคือครั้งสุดท้ายที่เหล่าแฟนบอลชาวชิลีได้มีความสุขกับทีมชาติของตัวเอง เพราะหลังจากนั้น "ลา โรฆ่า" มีแต่ความล้มเหลว ไม่ว่าจะเป็นการได้ที่ 4 ในศึก โคปา อเมริกา 2019, ตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายใน โคปา อเมริกา 2021, สิ้นท่าตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มใน โคปา อเมริกา 2021 ไปจนถึงการไม่ได้ไปเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 3 ครั้งติดต่อกัน

หากไม่นับตอนปี 1994 ที่โดนตัดสิทธิ์จากการเล่นรอบคัดเลือกแล้วนั้น นี่ก็นับเป็นการไม่ผ่านเข้าไปเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ติดต่อกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศเลยทีเดียว เริ่มจาก ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ที่จบด้วยการเป็นอันดับ 6 (อเมริกาใต้ ได้สิทธิ์ 5 ทีมครึ่ง), ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ที่ได้แค่อันดับ 7 (อเมริกาใต้ ได้สิทธิ์ 5 ทีมครึ่ง) และล่าสุดใน ฟุตบอลโลก 2026 ที่ถึงขั้นเป็นบ๊วยของโซน

ชิลี ยังยิงได้เพียง 9 ประตูเท่านั้นกับการเล่น ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก ซึ่งถือเป็นครั้งที่พวกเขายิงได้น้อยที่สุดนับตั้งแต่ที่เคยทำได้ 9 ลูกตอนเล่น ฟุตบอลโลก 1990 รอบคัดเลือก ประเด็นก็คือในศึก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 1990 โซนอเมริกาใต้ยังแบ่งเป็นกลุ่มละ 3 ทีม หรือก็คือตอนนั้น ชิลี เล่นไปเพียง 4 นัด ต่างกับใน ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก ที่พวกเขาลงสนามไปถึง 18 เกม ด้วยระบบที่เจอกันครบทุกทีมแบบลีก

แน่นอน สาเหตุที่ทำให้ ชิลี มีสภาพตกต่ำแบบตอนนี้เป็นเพระพวกเขาสร้างนักเตะรุ่นใหม่มาทดแทนชุดในอดีตไม่ได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คือ อเล็กซิส ซานเชซ, อาร์ตูโร่ วิดัล และ เอดูอาร์โด้ วาร์กัส ซึ่งอยู่ในทีมชุดที่ได้แชมป์ โคปา อเมริกา 2 สมัยติดต่อกันนั้น ยังเคยโดนเรียกติดทีมชาติในปีนี้เลย ทั้งที่ ซานเชซ, วิดัล และ วาร์กัส มีอายุ 36 ปี, 38 ปี และ 35 ปี ตามลำดับ

แม้ว่า วาร์กัส จะไม่ได้ลงเล่นให้ ชิลี อีกเลยนับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่วน ซานเชซ กับ วิดัล ติดทีมครั้งล่าสุดในโปรแกรมเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน แต่มันก็สะท้อนให้เห็นว่า ชิลี ขาดคนที่จะแบกทีมได้จริงๆ โดยเฉพาะในแนวรุก

ในโปรแกรมเกมทีมชาติช่วงเดือนกันยายน หรือรอบล่าสุดนั้น บรรดา "กองหน้า" ของพวกเขาที่โดนเรียกติดทีมมาประกอบไปด้วย อเล็กซานเดร์ อราเวน่า (23 ปี), เอมิเลียโน่ รามอส (20 ปี), กอนซาโล่ ตาปีย่า (23 ปี), มักซิมิเลียโน่ กูเตียร์เรซ (21 ปี), ลูกัส เซเปด้า (22 ป๊), เบร เบรเรตัน ดิอาซ (26 ปี) และ บรูโน่ บาร์ติคชิอ็อตโต้ (24 ปี)

7 คนที่ว่าทำประตูในนามทีมชาติรวมกันแล้ว 12 ลูก แบ่งเป็น 7 ประตูจาก ดิอาซ, 3 ลูกจาก เซเปด้า และ 2 ประตูจาก บาร์ติคชิอ็อตโต้ ขณะเดียวกันใน 7 รายนั้นก็มีเพียง ดิอาซ เพียงคนเดียวที่ตอนนี้ค้าแข้งอยู่ในทวีปยุโรป โดยเขาเล่นให้ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ทีมในระดับ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ

อะไรที่มันเกิดขึ้นมันก็ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้แล้ว ตอนนี้ ชิลี ต้องมองไปยังการเล่น ฟุตบอลโลก 2030 รอบคัดเลือก และรีบแก้ปัญหาต่างๆ โดยเร็ว เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ต้องอดไปเล่นรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน

ผลงานการเล่น ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ของ ชิลี นับตั้งแต่ปี 1998 เป็นต้นมาที่ใช้ระบบเจอกันหมด
ปี
อันดับชนะเสมอแพ้ได้เสีย
แต้ม
1998
4 (ได้ไป)
745321525
2002
10 (ไม่ได้ไป)
3312152712
2006
7 (ได้ไป)
576182222
2010
2 (ได้ไป)
1035322233
2014
3 (ได้ไป)
916292528
2018
6 (ไม่ได้ไป)
828262726
2022
7 (ไม่ได้ไป)
549192619
2026
10 (ไม่ได้ไป)
251192711




ที่มาของภาพ : REUTERS
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport