FIFPRO เสนอบอลโลก 2026 อาจเตะแค่ “ครึ่งเดียว” หากอุณหภูมิทะลุ 32 องศา

FIFPRO เสนอบอลโลก 2026 อาจเตะแค่ “ครึ่งเดียว” หากอุณหภูมิทะลุ 32 องศา
FIFPRO เสนอแนวคิดลดเวลาแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 เหลือแค่ครึ่งเดียวต่อเกม หากอุณหภูมิในสนามสูงเกิน 32 องศา หลังสังเกตสภาพอากาศสุดโหดในศึกสโมสรโลก 2025 ที่อเมริกา ล่าสุด BBC เผยเวลาคิกออฟ 4 ช่วงหลักเน้นตอบโจทย์ถ่ายทอดสด

ฟีฟ่าอาจต้องพิจารณารูปแบบใหม่ของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 หลังจากเกิดกระแสความกังวลจากหลายฝ่ายในเรื่อง สภาพอากาศร้อนจัด จากศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 ที่กำลังจัดขึ้น ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยล่าสุด สหพันธ์นักฟุตบอลอาชีพนานาชาติ (FIFPRO) เสนอความเป็นไปได้ว่า หากสภาพอากาศยังรุนแรงเช่นนี้ ควรปรับการแข่งขันให้เหลือเพียง "ครึ่งเดียว" ต่อเกม เพื่อความปลอดภัยของนักเตะ เจ้าหน้าที่ และแฟนบอล


อุณหภูมิพุ่งสูงเกิน 39 องศาในศึกสโมสรโลก

การแข่งขัน ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 14 มิ.ย. – 13 ก.ค. 2568 มีรายงานว่า อุณหภูมิพุ่งแตะ 39 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้ผู้เชี่ยวชาญจากหลายสถาบัน รวมถึงสมาคมนักเตะ เริ่มแสดงความกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นใน ฟุตบอลโลก 2026


ศาสตราจารย์ชี้ควรเตะเช้าเพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย

ศาสตราจารย์ไมค์ ทิปตัน จากมหาวิทยาลัยพอร์ทสมัธ ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า:

“ผมอยากให้เลื่อนเวลาแข่งขันไปช่วงที่อากาศดีที่สุด เช่น 9 โมงเช้า เพื่อความปลอดภัยของนักกีฬาและผู้ชม”

เขายังเสริมว่า ความเสี่ยงไม่ได้จำกัดเฉพาะนักเตะ แต่รวมถึงทีมงาน และแฟนบอลที่มีความฟิตต่ำกว่าด้วย พร้อมเตือนว่า หากไม่มีการปรับเปลี่ยนใด ๆ ฝ่ายจัดการแข่งขันอาจต้องรับผิดชอบผลกระทบจากความร้อน


FIFPRO แนะเตะแค่ครึ่งเดียวถ้าอุณหภูมิเกิน 32 องศา

อเล็กซานเดอร์ เบเลฟิลด์ ตัวแทน FIFPRO กล่าวว่า:

“ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการแข่งขันโดยใช้แค่ ‘ครึ่งเวลาเดียว’ หากอุณหภูมิสูงเกิน 32 องศา เพราะสุขภาพนักเตะต้องมาก่อนผลประโยชน์ทางการค้า”


เวลาคิกออฟ 4 ช่วง เตรียมไว้ล่วงหน้าสำหรับปี 2026

ตามรายงานของ BBC ระบุว่า เวลาคิกออฟของฟุตบอลโลก 2026 ซึ่งจะจัดระหว่าง 11 มิ.ย. – 19 ก.ค. 2569 ใน สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และเม็กซิโก จะอยู่ในช่วง:

  • 12.00 น.

  • 15.00 น.

  • 18.00 น.

  • 21.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)

โดยพิจารณาจากความเหมาะสมของการถ่ายทอดสด ผู้ชม และผู้สนับสนุนเป็นหลัก



ที่มาของภาพ : Gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport