U21 ไม่ใช่แค่เวทีเยาวชน แต่คือรากฐานแชมป์ในอนาคต หลายทีมชาติพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแชมป์เล็ก ๆ ระดับเยาวชนนั้นคือก้าวแรกสู่ความยิ่งใหญ่ในทีมชาติชุดใหญ่!
ทีมชาติอังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี กำลังเข้าใกล้การสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ หลังเอาชนะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ 2-1 ในรอบรองชนะเลิศ ยูโร และมีโปรแกรมชิงชนะเลิศกับ เยอรมนี คืนวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย.นี้ ซึ่งหากคว้าแชมป์ได้สำเร็จ นอกเหนือจากแก้มือที่เคยแพ้ทัพ "อินทรีน้อย" มาก่อนในรอบแบ่งกลุ่มแล้วยังจะกลายเป็นชาติแรกในรอบกว่าทศวรรษที่ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ นับตั้งแต่ สเปน เมื่อ 2013
คำถามที่หลายคนตั้งขึ้นคือ "แชมป์ยุโรปรุ่นเล็กสำคัญแค่ไหนในภาพรวมของฟุตบอลชาติ?"
"นักเตะจากทีมแชมป์ U21 จะก้าวไปถึงความสำเร็จในระดับทีมชาติชุดใหญ่หรือไม่?" และ "อังกฤษชุดนี้จะมีใครกลายเป็นตำนานในอนาคต?"
ยูโร U21: สารตั้งต้นของความสำเร็จระดับโลก?
ข้อมูลจากสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เผยว่า ในจำนวน 24 ทีมที่เคยคว้าแชมป์ยูโร U21 ตั้งแต่จัดการแข่งขันครั้งแรกในปี 1978 มีถึง 10 ทีมที่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกหรือยูโร ระดับชุดใหญ่ได้ภายใน 12 ปีหลังจากนั้น และ 9 จาก 10 ชุดเหล่านั้นมีนักเตะจากทีม U21 แชมป์ติดทีมไปคว้าแชมป์ชุดใหญ่ด้วย
ตัวอย่างสำคัญคือ ฝรั่งเศส U21 (1988) — คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 โดยมี โลร็องต์ บล็องก์ เป็นตัวหลัก
สเปน U21 (1998) — แม้ชุดแชมป์ยูโร 2008 จะไม่มีใครจากชุด U21 แต่ถือว่าเป็นทีมชาติที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ และกลายเป็นมหาอำนาจในยุโรป
อิตาลี U21 (1994, 1996, 2000, 2004) — ก้าวไปคว้าแชมป์โลก 2006 ด้วยนักเตะจากชุดแชมป์ U21 อย่าง คันนาวาโร่, บุฟฟ่อน, ต๊อตติ, ปีร์โล่, เด รอสซี่, บาร์ซายี่
เยอรมนี U21 (2009) — กวาดแชมป์โลก 2014 ด้วยแกนหลักอย่าง นอยเออร์, เคดิร่า, ฮุมเมิ่ลส์, โอซิล, เฮอเวเดส, บัวเต็ง
สเปน U21 (2011, 2013, 2019) — มีนักเตะอย่าง ฆาบี มาร์ตีเนซ, ฆวน มาต้า, โมราต้า, การ์บาฆาล, ฟาเบียน รุยซ์, อูไน ซิม่อน และกลุ่มแกนหลักของแชมป์ยูโร 2024 ล่าสุด
รายชื่อนักเตะที่ต่อยอดสำเร็จจาก U21 สู่ทีมชาติชุดใหญ่
ฝรั่งเศส 1988 – โลร็องต์ บล็องก์
อิตาลี 1994 – ฟาบิโอ คันนาวาโร่, ฟิลิปโป้ อินซากี้
อิตาลี 1996 – คันนาวาโร่, อเลสซานโดร เนสต้า, จานลุยจิ บุฟฟ่อน, ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ
อิตาลี 2000 – อันเดรีย ปีร์โล่, เจนนาโร่ กัตตูโซ่, ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้า
อิตาลี 2004 – มาร์โก อเมเลีย, คริสเตียน ซัคคาร์โด้, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, อันเดรีย บาร์ซายี่
เยอรมนี 2009 – มานูเอล นอยเออร์, เบเนดิคท์ เฮอเวเดส, เยโรม บัวเต็ง, ซามี่ เคดิร่า, เมซุต โอซิล, มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์
สเปน 2011 – ฆาบี มาร์ตีเนซ, ฆวน มาต้า
สเปน 2013 – อัลบาโร่ โมราต้า, นาโช่ เฟร์นานเดซ, ดานี่ การ์บาฆาล
สเปน 2019 – ฟาเบียน รุยซ์, ดานี่ โอลโม่, อูไน ซิม่อน, มิเกล เมริโน่, มิเกล โอยาร์ซาบัล และโค้ช หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้
ไม่ใช่ทุกคนจะไปถึงฝัน
แม้จะมีนักเตะหลายคนที่ต่อยอดได้ แต่ในอีกด้านหนึ่ง มีนักเตะที่โดดเด่นในยูโร U21 แต่กลับไม่สามารถแจ้งเกิดในชุดใหญ่ได้เลย เช่น เรนาโต้ บูโซ่ (อิตาลี) และ ฟรานเซส อาร์เนา (สเปน) ต่างไม่เคยติดทีมชาติชุดใหญ่เลย
รอยส์ตัน เดรนเธ่ คว้าแชมป์กับเนเธอร์แลนด์ แต่เล่นให้ทีมชุดใหญ่เพียง 1 นัด
ฟาบิโอ วิเอร่า (โปรตุเกส) คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมปี 2021 แต่ยังไม่เคยติดทีมชุดใหญ่
ส่วนดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ แม้จะมีชื่ออย่าง ปิร์โล่, คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์ และ อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ แต่ก็มีอีกหลายรายที่แทบไม่มีบทบาทในระดับสูง เช่น มัสซิโม่ มัคคาโรเน่, มาเซโอ ริกเตอร์ส, ยาน คลิเมนต์ หรือ ลูก้า วัลด์ชมิดต์
อังกฤษ: โอกาสทองเปลี่ยนประวัติศาสตร์
อังกฤษ เคยคว้าแชมป์ยูโร U21 มาแล้ว 3 ครั้ง (1982, 1984, 2023) แต่รุ่นก่อนหน้าแทบไม่มีใครต่อยอดได้เลย
จากชุดแชมป์ปี 1982 และ 1984 มีนักเตะเพียงครึ่งเดียวที่ได้ติดทีมชาติชุดใหญ่ และไม่มีใครก้าวขึ้นเป็นตำนาน
มาร์ค เฮทลี่ย์ คือคนที่ได้ติดทีมชาติชุดใหญ่มากที่สุด 32 นัด โดยมีอีก 5 คนที่ได้ติดเกิน 10 นัด
แต่ชุดปี 2023 ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แอนโธนี่ กอร์ดอน คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์
รายอื่น ๆ ทั้ง โคล พาลเมอร์, ลีวาย โคลวิลล์, เทย์เลอร์ ฮาร์วูด-เบลลิส, มอร์แกน กิ๊บส์-ไวต์, เอมิล สมิธ โรว์, จาร์ราด แบรนธ์เวท, เคอร์ติส โจนส์, อังเจล โกเมส และ โนนี่ มาดูเอเก้ ต่างได้รับโอกาสติดทีมชาติชุดใหญ่แล้ว
นั่นสะท้อนว่าชุดนี้มีศักยภาพต่อยอดสูงมาก และอาจกลายเป็นแกนหลักในฟุตบอลโลก 2026 และยูโร 2028 ก็เป็นได้!