สุดท้ายแล้วเป็น โปรตุเกส ที่ได้แชมป์ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2024-25 ไปครอง หลังจากรอบชิงชนะเลิศพวกเขาสู้กัน สเปน ได้อย่างสนุกจนเสมอกัน 2-2 ตอนจบช่วง 90 นาทีและการต่อเวลาพิเศษ ก่อนที่ โปรตุเกส จะไปชนะในช่วงดวลจุดโทษ
แน่นอนว่าทีมของ โรเบร์โต้ มาร์ตีเนซ คงอยากจะให้ความสำเร็จในครั้งนี้เป็นการสร้างโมเมนตัมที่ดีสำหรับการเล่น ฟุตบอลโลก 2026 ถ้าหากทัพ "ฝอยทอง" ผ่านรอบคัดเลือกไปได้ ซึ่งเราจะย้อนไปดูกันว่าแชมป์ เนชั่นส์ ลีก 3 หนก่อนหน้านี้นั้นสานต่อผลงานได้ดีแค่ไหนเมื่อลงเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่หลังจากที่ได้แชมป์ เนชั่นส์ ลีก ไปหมาดๆ
- โปรตุเกส ชุดแชมป์ฤดูกาล 2018-19
อย่างที่รู้กันดีว่าในครั้งแรกที่จัดแข่งรายการนี้นั้น โปรตุเกส คือทีมที่ได้แชมป์ไปครองจากการที่ในนัดชิงชนะเลิศพวกเขาเอาชนะ เนเธอร์แลนด์ส ไปได้ 1-0 ซึ่งความสำเร็จครั้งนั้นทำให้ แฟร์นานโด ซานโตส ได้รับความเชื่อใจให้คุมทีมต่อไป ก่อนที่ โปรตุเกส จะผ่านรอบคัดเลือกของ ยูโร 2020 ไปได้
พอถึงศึก ยูโร 2020 รอบสุดท้าย โปรตุเกส สามารถเอาตัวรอดจากรอบแบ่งกลุ่มได้หวุดหวิด เพราะถึงแม้พวกเขาจะเป็นอันดับ 3 ในกลุ่ม เอฟ ที่มี ฝรั่งเศส, เยอรมนี และ ฮังการี เป็นเพื่อนร่วมกลุ่ม แต่ว่า โปรตุเกส ก็ยังได้เข้ารอบในฐานะหนึ่งในอันดับ 3 ที่ดีที่สุดในจำนวน 4 ทีมจาก 6 กลุ่ม ทว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาก็จอดป้ายที่รอบ 16 ทีมเลย จากการแพ้ เบลเยียม 0-1
- ฝรั่งเศส ชุดแชมป์ฤดูกาล 2020-21
ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ นำลูกทีมทำผลงานได้ยอดเยี่ยมกับการเล่น เนชั่นส์ ลีก ซีซั่นนั้น ด้วยการไม่แพ้ใครเลยไม่ว่าจะทั้งในรอบกลุ่มหรือรอบน็อกเอาต์ ส่งผลให้พวกเขาได้แชมป์ไปครอง โดยในนัดชิงดำ "เลส์ เบลอส์" พิชิต สเปน ไปได้ 2-1
หลังจากความสำเร็จครั้งนั้น ฝรั่งเศส ก็ผ่านรอบคัดเลือกของ ฟุตบอลโลก 2022 ได้อย่างไม่ยากเย็นจากการเป็นแชมป์ของกลุ่ม ดี และพอไปเล่นรอบสุดท้ายที่ กาตาร์ พวกเขาก็ยังทำผลงานได้ดีจนทะลุไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ด้วยซ้ำ แต่ปลายทางนั้น ฝรั่งเศส ก็ต้องอกหักเมื่อแพ้ อาร์เจนตินา ในช่วงดวลจุดโทษของนัดชิงดำ
- สเปน ชุดแชมป์ฤดูกาล 2022-23
ภายหลัง สเปน ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายของ ฟุตบอลโลก 2022 มันก็เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อ หลุยส์ เอ็นรีเก้ ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง โดยที่ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ ถูกแต่งตั้งให้มารับงานต่อ และเขาก็สร้างผลงานที่น่าประทับใจได้ทันทีเมื่อพาทีมได้แชมป์ เนชั่นส์ ลีก ซีซั่น 2022-23 ด้วยการชนะ โครเอเชีย ในช่วงดวลจุดโทษของรอบชิงดำ
ในเวลาต่อมา สเปน ก็ผ่านรอบคัดเลือกของ ยูโร 2024 ในฐานะแชมป์กลุ่ม และเมื่อไปเล่นรอบสุดท้ายที่ประเทศเยอรมนี "ลา โรฆา" ก็ยังโชว์ความโหดด้วยการชนะครบ 7 เกมตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มยันรอบชิงชนะเลิศ โดยนัดชิงดำนั้นพวกเขาชนะ อังกฤษ 2-1 จนทำให้ สเปน ได้แชมป์ ยูโร เป็นสมัยที่ 4
- เด็กเกร็ดบอล -