บราซิล : ความท้าทายใหญ่ยักษ์ชิ้นสุดท้ายของ คาร์โล อันเชล็อตติ?

บราซิล : ความท้าทายใหญ่ยักษ์ชิ้นสุดท้ายของ คาร์โล อันเชล็อตติ?
ในที่สุด คาร์โล อันเชล็อตติ ก็ตอบตกลงรับงานคุมทีมชาติ บราซิล หลังปฏิเสธการทาบทามจากทีม เซเลเซา มาโดยตลอด

แน่นอนว่านี่คือการแต่งตั้งกุนซือที่ถูกจับตามองมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของเกมลูกหนังจากข้อเท็จจริงที่ว่าโค้ชอิตาเลี่ยนไม่เคยจับงานกับทีมชาติมาก่อน แถม บราซิล ตกต่ำดำดิ่งไปนานชนิดที่กุนซือหลายรายไม่อาจปลุกมหาอำนาจลูกหนังรายนี้ได้สำเร็จ

จากที่มีกิตติศัพท์เล่นฟุตบอลได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจตามสไลต์ "แซมบ้า" แถมมีพิษสงที่ร้ายกาจ บราซิล สูญเสียชื่อเสียงที่พวกเขาสั่งสมมานานไปไม่น้อยเลย

"อันเชล็อตติ คือตัวเลือกอันดับหนึ่งจากความสำเร็จที่ไม่จบสิ้น และเขาได้แชมป์มาแล้วกับห้าชาติ" ทิม วิเกอรี่ ผู้เชี่ยวชาญลูกหนังอเมริกาใต้เอ่ยถึงกุนซือยอดฝีมือวัย 65 ปี

อย่างไรก็ดี อันเชล็อตติ มีงานหนักรออยู่กับการพาทีม เซเลเซา เข้าไปเล่น ฟุตบอลโลก ปี 2026 และคำถามสำคัญย่อมหนีไม่พ้นว่าเขาจะกอบกู้ยักษ์ใหญ่แห่งละตินชาตินี้ได้จริงหรือ?

ถึงขณะนี้ บราซิล ตกต่ำมานานกว่าสองทศวรรษแล้วแม้จะได้แชมป์ โกปา อเมริกา สองหนในช่วงเวลานี้เมื่อปี 2007 และ 2019 แต่สำหรับสถิติในศึก เวิลด์คัพ ต้องบอกว่ามันน่าผิดหวังอย่างแรง

อดีตแชมป์โลกห้าสมัยไม่ประสบความสำเร็จในรายการนี้มาตั้งแต่ปี 2002 และก็ไม่เท่านั้นเนื่องจากผลงานของพวกเขานับจากนั้นมีแต่สาละวันเตี้ยลง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2014 บราซิล ซึ่งเป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก โดน เยอรมนี ขยี้เละ 7-1 ในรอบรองชนะเลิศ

ถัดมาในปี 2018 บราซิล แพ้ เบลเยี่ยม ในรอบแปดทีม 2-1 และอีกสี่ปีต่อมา ทีมเมืองกาแฟตกรอบเดียวกันนี้ด้วยการแพ้ โครเอเชีย ในการดวลลูกโทษตัดสิน

"นับจากปี 2002 บราซิล ปะทะกับทีมจากยุโรปในรอบน็อกเอาต์ทุกครั้ง มันกลายเป็นการต้องคำสาปไปแล้วที่พวกเขาปราชัยโดยตลอด" วิเคอรี่ เสริม

สำหรับ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกปีนี้ บราซิล มีผลงานไม่สู้ดีเช่นกัน และไม่ใช่ว่าจะตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายได้อย่างสะดวกโยธินหลังโดน อาร์เจนติน่า พิชิต 4-1

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา บราซิล เปลี่ยนโค้ชไปแล้วหลายราย แต่ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นทั้ง ตีเต้ ที่ได้รับการยกย่องในฝีมือก็ลุกจากเก้าอี้หลังจบศึก เวิล์ดคัพ ปี 2022 ที่กาตาร์ กระทั่งรายล่าสุดอย่าง โดริวัล จูเนียร์ ก็โดนปลดหลังพาทีมพ่ายต่อ อาร์เจนติน่า

จากความล้มเหลวดังกล่าวทำให้สหพันธ์ฟุตบอลบราซิลตัดสินใจคิดใหม่ทำใหม่ และเลือกว่าจ้างโค้ชยุโรปอย่าง อันเชล็อตติ

แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ กุนซืออิตาเลี่ยนปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ต้องการคุมทีมเมืองกาแฟ แต่หลังจากเขาถูก เรอัล มาดริด ขอแยกทางหลังจบซีซั่นโดยมี ชาบี อลอนโซ่ รอสานงานแทน อันเชล็อตติ จึงตกลงรับงานช้างชิ้นนี้

เท่าที่ผ่านมามีโค้ชต่างชาติที่กุมบังเหียน บราซิล สามรายไล่ตั้งแต่ รามอน ปลาเตโร่ ชาวอุรุกวัยรายแรกในปี 1925 ซึ่งคุมทีมได้แค่สี่นัดตามด้วย โชเรก้า นายใหญ่โปรตุกีสซึ่งทำหน้าที่สองนัดในปี 1944 และสุดท้าย ฟิลโป้ นูนเญซ ชาวอาร์เจนไตน์ซึ่งได้คุมทีมแค่นัดเดียวในปี 1965

ก่อนหน้านี้ จอร์จ เชซุส กุนซือโปรตุกีสเป็นอีกรายที่ถูกมองว่ามีโอกาสได้คุมทีมแซมบ้าช่วงที่เขาเป็นนายใหญ่ทีม ฟลาเมงโก้ เมื่อปี 2019

ไม่เพียงจะพา ฟลาเมงโก้ คว้าแชมป์ลีกได้ เชซุส ยังได้แชมป์ โกปา ลิเบอร์ตาโดเรส ด้วยเช่นกันจนทำให้สโมสรประสบความสำเร็จสูงที่สุดครั้งหนึ่งก่อนที่เขาจะอำลาทีมในเดือนก.ค.2020 หลังคุมทีมชนะ 43 จาก 57 นัด

สำหรับ อันเชล็อตติ เขาพกดีกรีแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ห้าสมัย และแชมป์ลีกทั้งอิตาลี , อังกฤษ ,ฝรั่งเศส , สเปน และ เยอรมนี เข้ามากุมบังเหียน บราซิล

แม้ซีซั่นนี้กับ เรอัล มาดริด ทีมของเขาจะแพ้ บาร์เซโลน่า ในนัดชิงชนะเลิศ โกปา เดล เรย์ และโดน อาร์เซน่อล เขี่ยตกรอบแปดทีมถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกทั้งจ่อเสียแชมป์ ลา ลีกา ให้กับคู่ปรับจากกาตาลัน แต่เท่าที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าปฏิเสธฝีมือของโค้ชชาวเมืองมะกะโรนี

ขณะเดียวกัน ทีมขาติ บราซิล สามารถวางใจ อันเชล็อตติ ได้เช่นกันเนื่องจากเขาร่วมงานกับนักเตะแซมบ้าหลายรายทั้ง วินิซิอุส จูเนียร์ และ โรดรีโก้ ตลอดจน กาเซมีโร่ อดีตกองกลางของ เรอัล มาดริด

"วินิซิอุส จูเนียร์ รักการได้ร่วมงานกับเขา เขาดีใจที่ อันเชล็อตติ ได้รับการแต่งตั้ง" วิเกอรี่ เอ่ย

มีการตั้งข้อสังเกตว่า อันเชล็อตติ ประสบกับความยากลำบากในการวางแทคติกที่หลากหลาย แต่ขณะเดียวกันเขารู้วิธีดึงฟอร์มที่ดีที่สุดของนักเตะ และมอบความเชื่อมั่นตลอดจนอิสระในการเล่นให้กับลูกทีม

"อันเชล็อตติ ขจัดความกดดันให้กับนักเตะเสมอ" วิเกอรี่ ทิ้งท้าย

ถึงตอนนี้ ชาวโลกกำลังจับจ้องผลงานของ อันเชล็อตติ กับทีมชาติ บราซิล ว่าทั้งเขาและทีม เซเลเซา ตัดสินใจร่วมกันได้อย่างถูกต้องหรือเปล่ากับโจทย์สุดหินที่น่าจะเป็นงานชิ้นสุดท้ายในชีวิตของยอดโค้ชที่ทุกทีมอยากได้ตัวไปนั่งเก้าอี้บอส

ที่มาของภาพ : Reuters
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport