ไร้ความกดดัน! เปแอสเช ยุคเอ็นรีเก้ ดวลเป้าชนะรวด 4 นัดติด

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เอ็นรีเก้ สามารถเอาชนะช่วงดวลจุดโทษได้ทั้งหมด หลังล่าสุดเพิ่งพิชิต ฟลาเมงโก้ ในช่วงดวลเป้า 2-1 ของศึก ฟีฟ่า อินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ รอบชิงชนะเลิศ

นัดล่าสุดกับ ฟลาเมงโก้ ถือเป็นครั้งที่ 4 ที่ "เปแอสเช" ยุคของ เอ็นรีเก้ ต้องวัดกับคู่แข่งถึงฎีกา โดย 3 ครั้งก่อนหน้านี้คือเกม กู๊ป เดอ ฟร้องซ์ รอบ 64 ทีมสุดท้าย กับ ล็องส์ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2024 ที่ชนะ 4-3 ในการดวลจุดโทษ, รอบ 16 ทีมสุดท้ายของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ในช่วงดวลเป้าชนะ ลิเวอร์พูล 4-1 เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2025 และเกม ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ที่พิชิต ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ด้วยสกอร์ 4-3 ในการดวลเป้าเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เอ็นรีเก้ กล่าวชมลูกทีมที่เล่นด้วยทัศนคติที่ยอดเยี่ยมมาโดยตลอดจนทำให้พวกเขาได้แชมป์ถึง 6 รายการภายในปี 2025 "เราสร้างประวัติศาสตร์ได้อีกครั้ง ในปี 2025 ที่ยอดเยี่ยมนี้น่ะเราเล่นด้วยทัศนคติแบบเดิมมาโดยตลอด แน่นอนว่าเรามีความสุขกับตัวเอง รวมถึงดีใจแทนสโมสรกับแฟนบอล มันเป็นปีที่ยอดเยี่ยม และเราก็ต้องเดินหน้าด้วยผลงานแบบนี้ต่อไป"

"ผมคิดว่านี่เป็นวันที่เราจำเป็นต้องงัดฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาเพื่อที่จะเอาชนะ ฟลาเมงโก้ ให้ได้ ผมเชื่อว่าพวกเขา (ฟลาเมงโก้) เจ๋งพอจนสามารถมาเล่นในลีกของทวีปยุโรปได้สบายๆ พวกเขาสามารถสู้ได้กับทุกทีมในโลกนี้ด้วย"

ผลงานของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยุคของ หลุยส์ เอ็นรีเก้ กับการเล่นช่วงดวลจุดโทษ

- vs ล็องส์ (กู๊ป เดอ ฟร้องซ์ รอบ 64 ทีมสุดท้าย) ชนะช่วงดวลจุดโทษ 4-3 หลังจากเสมอ 1-1

- vs ลิเวอร์พูล (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย) ชนะช่วงดวลจุดโทษ 4-1 หลังจากเสมอ 1-1

- vs สเปอร์ส (ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ) ชนะช่วงดวลจุดโทษ 4-3 หลังจากเสมอ 2-2

- vs ฟลาเมงโก้ (ฟีฟ่า อินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ รอบชิงชนะเลิศ) ชนะช่วงดวลจุดโทษ 2-1 หลังจากเสมอ 1-1