ต่อยกันไม่สนเพื่อน! เด แซร์บี้ ลั่น มาร์กเซย ทำถูกโละ ราบิโอต์-โรว์

โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ เทรนเนอร์ โอลิมปิก มาร์กเซย ยืนกรานว่าสโมสรทำถูกแล้วที่ตัดสินใจขายทั้ง อาเดรียง ราบิโอต์ กับ โจนาธาน โรว์ หลังจากทั้งคู่ทะเลาะกันแบบไม่สนใจ ดาร์รีล บาโกล่า กองกลางวัย 17 ปี ที่กำลังหมดสติอยู่

หลังจบเกมแพ้ แร็งส์ ในนัดแรกของซีซั่น ราบิโอต์ กับ โรว์ ก็ทะเลาะกันอย่างหนักในห้องแต่งตัวจนถึงขั้นมีการชกต่อยกัน โดยต้นเหตุมาจากการที่ โรว์ โดนคนอื่นตำหนิในทีมเรื่องฟอร์มการเล่น

เรื่องดังกล่าวนำไปสู่การที่ มาร์กเซย สั่งพักงานทั้ง ราบิโอต์ กับ โรว์ ก่อนจะปักป้ายขายทั้งคู่ ซึ่งมันก็ทำให้แม่ของ ราบิโอต์ ออกมาด่า มาร์กเซย อย่างหนักและกลายเป็นประเด็นร้อนของวงการฟุตบอลฝรั่งเศส

หลังโดนถามถึงเรื่องดังกล่าวแล้วนั้น เด แซร์บี้ ก็ตอบว่า "ผมเองเคยเล่นฟุตบอลอยู่หลายปี, ผมอยู่ในวงการนี้มามากกว่า 30 ปีแล้ว ผมคุ้นเคยกับการพูดถึงเรื่องที่ว่ามันเกิดอะไรในห้องแต่งตัวบ้าง แต่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องสะสางปัญหาสักหน่อย"

"มันไม่เกี่ยวหรอกว่าคุณทำงานที่ไหน ประเด็นก็คือถ้าพนักงาน 2 คนทะเลาะกันอย่างกับว่าอยู่ในผับทั้งที่เพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งหมดสตินอนอยู่กับพื้นแล้วล่ะก็ ผมถามหน่อยว่าคนที่เป็นนายจ้างควรจะต้องทำยังไง ? ทางเลือกมันมีแค่การพักงาน 2 คนนั้นหรือไม่ก็ปลดพวกเขาออกจากบริษัทไปซะ"

"เมห์ดี้ เบนาเตีย (ผู้อำนวยการกีฬา มาร์กเซย), ปาโบล ล็องโกเรีย (ประธาน มาร์กเซย) และผมคุยกันทางโทรศัพท์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และเราก็รอจนกระทั่งถึงวันจันทร์ก่อนที่จะประกาศถึงการตัดสินใจที่ชัดเจนของเรา นั่นคือการห้าม 2 คนนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับทีมโดยที่รอดูว่าจะมีใครที่สำนึกผิดหรือไม่"

"ในสโมสรฟุตบอลทุกแห่งและในสถานที่ทำงานทุกที่น่ะมันต้องมีลำดับชนชั้นตำแหน่งที่ชัดเจน และสโมสรต้องมีความสำคัญมากกว่าพวกเขา มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากแต่ก็ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง"

"เราอาจจะบอกให้พวกเขาาจับมือกันแล้วให้เรื่องมันจบไปเฉยๆ ก็ได้ แต่ผมจะไม่มีทางละทิ้งจุดยืนของผมไม่ว่าจะเพื่อเกมๆ หนึ่งหรือเพื่อตำแหน่งแชมป์ก็ตาม ผมสนับสนุนการตัดสินใจของสโมสรอย่างเต็มที่"

"จริงอยู่ว่าพวกเขาไม่ได้อัดกันหนักจนถึงขั้นฟันหลุด แต่มันเกิดเหตุวิวาทขึ้นมาจริงๆ เกิดเหตุชกต่อยกันจริงๆ ซึ่งผมไม่เคยเจออะไรแบบนั้นมาก่อนตลอดช่วงหลายปีที่ผมอยู่ในวงการนี้ พวกเขาทะเลาะกันทั้งที่ ดาร์รีล บาโกล่า หมดสตินอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นเนี่ยนะ"