แรชฟอร์ด โซโล่เดี่ยว, เอริคเซ่น เจ๋งจริง ! ตัดเกรดแข้ง แมนยู ทุบ เบิร์นลี่ย์

แรชฟอร์ด โซโล่เดี่ยว, เอริคเซ่น เจ๋งจริง ! ตัดเกรดแข้ง แมนยู ทุบ เบิร์นลี่ย์
เอริค เทน ฮาก นายใหญ่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงพอใจกับฟอร์มการเล่นโดยรวมของลูกทีมในแมตช์เปิดรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ชนะ เบิร์นลี่ย์ 2-0 ศึกคาราบาว คัพ รอบ 4 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยแมตช์นี้บรรดาสตาร์ที่เดินทางไปช่วยชาติในศึกเวิลด์ คัพ ที่กาตาร์ ได้ลงสนามและโชว์ฟอร์มโดดเด่น ขณะที่พวกตัวสำรองที่ได้รับโอกาสก็ทำผลงานใช้ได้ งานนี้คงทำให้การแข่งขันเพื่อแย่งตำแหน่งตัวจริงของทัพ "ปีศาจแดง" คงเข้มข้นเร้าใจมากยิ่งขึ้น

ตัวจริง

มาร์ติน ดูบราฟก้า : 5

มีจังหวะเซฟสวยๆ ไม่กี่ครั้ง ช่วงครึ่งชั่วแรกของเกมดันรับบอลหลุดมือจากจังหวะการเปิดทางริมเส้นเดชะบุญที่ กาเซมีโร่ วิ่งมาเคลียร์ทิ้งได้ทันก่อนเข้าประตู ส่วนครึ่งหลังมีจังหวะที่วิ่งเข้ามากดดันคู่แข่งจนต้องรีบยิง สุดท้ายบอลออกหลัง

แอรอน วาน-บิสซาก้า :  7

ผลงานยอดเยี่ยมในครึ่งแรก แต่ฟอร์มดร็อปลงไปในช่วงครึ่งหลัง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะนักเตะไม่ค่อยได้ลงสนามมากนักในซีซั่นนี้ แต่สิ่งที่โดดเด่นก็คือการเล่นเกมรุกที่ดุดัน  และทำได้ 1 แอสซิสต์ ขณะที่เกมรับยังโดดเด่นเหมือนเดิม 

วิคตอร์ ลินเดเลิฟ : 7

สวมบทตัวหลักในแนวรับได้แข็งแกร่ง มีความนิ่งในการเล่น จัดการ แอชลี่ย์ บาร์นส์ อยู่หมัด ส่วนการผ่านบอลถือว่าใช้ได้ ที่สำคัญยังเป็นตัวคอยประคอง กาเซมีโร่ ที่ลงมาเล่นเป็นคู่หูเซนเตอร์แบ็กได้ดี 

กาเซมีโร่ : 6

โดนจับมาเล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัด แต่ก็ทำได้ดีในช่วงครึ่งแรก แถมยังช่วยเคลียร์บอลจากความผิดพลาดของ ดูบราฟก้า ขณะที่ครึ่งหลังแจกของขวัญให้ บาร์นส์ บริเวณแดนตัวเอง เดชะบุญที่คู่แข่งไม่เฉียบคมไม่งั้นคงเสียประตูแหงๆ ส่วนจังหวะการบล็อกและตัดบอลโด่งถือว่าใช้ได้ 

ไทเรลล์ มาลาเซีย :  6

โดนความเร็วและความคล่องตัวของ มานูเอล เบนสัน เล่นงานอย่างหนัก แต่เป็นนักเตะที่ครองบอลได้เหนียวแน่น และเน้นเกมรับมากกว่าเติมเกมรุก ขณะเดียวกันถูกจับโยกไปเล่นทางขวาตอนที่ ชอว์ ลงสนาม และทำผลงานได้ดี

สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ : 7

ทำผลงานได้ดีในการขับเคลื่อนเกมบุก ครองบอลเหนียวแน่น และทำงานหนัก มีส่วนในการแย่งบอลก่อนที่ แรชฟอร์ด จะฉายเดี่ยวซัดประตู พร้อมสู้ทุกจังหวะเพื่อทำให้แดนกลางของทีมได้เปรียบ 

คริสเตียน เอริคเซ่น : 7

ยิงประตูเบิกร่องให้แมนฯ ยูฯ โชว์คลาสบอลชั้นสูงด้วยการผ่านบอลอย่างชาญฉลาด คอยควบคุมจังหวะของทีม สภาพร่างกายกลับมาฟิตสมบูรณ์หลังกรำศึกกับ เดนมาร์ก ในเกมเวิล์ด คัพ 

มาร์คัส แรชฟอร์ด :  8

ทำงานหนักตั้งแต่นาทีแรก และได้รับรางวัลตอบแทนในช่วงต้นครึ่งหลัง จากจังหวะการโซโล่เดี่ยวกว่าครึ่งสนามเข้าไปซัดประตู เต็มไปด้วยความมั่นใจในการเล่น และพร้อมแบกรับหน้าที่หัวหอกเต็มตัว 

บรูโน่ แฟร์นันด์ส : 7

ยังคงเป็นหัวใจในแดนกลาง ทำหน้าที่ได้ดีทั้งเกมรุก และเกมรับ การผ่านบอลแม่นยำไว้ใจได้ ช่วยสร้างโอกาสให้ทีมในพื้นที่สุดท้าย และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ "ผีแดง" ได้ประตูขึ้นนำ 

อเลฮานโดร การ์นาโช่ :  5

น่าจะทำได้ดีกว่านี้จากจังหวะกระชากบอลเข้าเขตโทษ และคอนโทรลบอลไม่ค่อยดีนักในช่วงที่ทีมกำลังสร้างเกมรุก ถือเป็นฟอร์มที่น่าผิดหวังนับตั้งแต่เปิดซีซั่นนี้ 

อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล :  6

คอยเชื่อมเกมรุกได้ดี มีจังหวะยิงประตูในครึ่งแรก ครึ่งหลังผลงานดร็อปไปบ้างก่อนจะโดนเปลี่ยนตัวออก

ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม

อันโตนี่  (แทน อเลฮานโดร การ์นาโช่ น.58) : 6

 วูบวาบทางฝั่งขวา จังหวะใช้ความเร็วกระชากบอลยังน่ากลัว มีโอกาสยิงประตูแต่ตะบันไปติดเซฟอย่างน่าเสียดาย 

แอนโธนี่ย์ อีแลงก้า  (แทน อองโตนี่ มาร์กซิยาล น.71) : 5

ไม่สามารถสร้างผลงานอะไรได้มากนักกับโอกาสลงสนามราวๆ 20 นาที

ลุค ชอว์  (แทน แอรอน วาน-บิสซาก้า น.72) : 6

เพิ่งจะกลับมาจากการช่วย อังกฤษ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 ไม่มีจังหวะผิดพลาด ยังคงไว้วางใจได้เสมอ 

แบรนดอน วิลเลี่ยมส์  (แทน ไทเรลล์ มาลาเซีย น.86) : ไม่มีคะแนน

มีเวลาไม่มากพอให้แสดงผลงาน

เฟร็ด (แทน มาร์คัส แรชฟอร์ด น.86) : ไม่มีคะแนน

มีเวลาไม่มากพอให้แสดงผลงาน

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport