เหนือฟ้ายังมีฟ้า

สังเกตได้ชัดที่ข้างสนาม ระหว่างเกม ฟลิค ดูกระวนกระวายตลอดเวลา 

ที่เป็นเช่นนั้น เพราะเขารู้ว่าอะไรเป็นอะไร รู้ว่า เปแอสเช เวลานี้อยู่ในระดับไหน 

ยอมรับว่าผมเองก็ประเมิน เปแอสเช ต่ำในนัดนี้ คิดว่าการขาด มาร์กินญอส,เดมเบเล่,ควารัตสเคเลีย และ ดูเอ้ จะส่งผลกระทบจนทีมไม่เหมือนเดิม 

แต่ หลุยส์ เอ็นรีเก้ ใช้โอกาสนี้แสดงให้เห็นว่า เขากับ เปแอสเช เวลานี้ เหนือไปอีกขั้นแล้ว 

การขาดนักเตะตัวหลัก 4 คนพร้อมกัน แต่ยังเล่นได้ในระดับสูงขนาดล้ม บาร์ซ่า ถึงถิ่น พิสูจน์ให้เห็น 2 ข้อ

หนึ่ง ขุมกำลังเชิงลึกมีคุณภาพสูง 

สอง แก่นแท้ของ เปแอสเช ยุค เอ็นรีเก้ คือ 'ทีม' อันประกอบด้วยทีมเวิร์ค ระบบ วิธีการเล่น มายด์เซ็ท ไม่ยึดติดตัวบุคคล 

ถามว่า 4 ขุนพลตัวหลักที่ขาดหายไป ถ้ามีจะดีกว่ามั๊ย ? 

ก็ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว แต่ในยามขาดแคลน เปแอสเช ยังมี 2 สิ่งที่ว่าไว้ข้างต้น คอยประคับประคอง ซึ่งบอกเลยครับว่าปีนี้พวกเขายังคงน่ากลัว 

ผมเห็น บาเยิร์น เล่นแล้วชอบมาก 

เห็น บาร์ซ่า เล่นแล้วก็ชอบมาก 

อาร์เซน่อล ก็แกร่ง 

แต่กับ เปแอสเช ดูแล้ว มันให้ความรู้สึกอีกแบบ 

เมื่อคืนนี้ เกมอาจจะไม่ได้ว้าวเท่าช่วงพีคๆ แต่ก็โชว์ให้เห็นถึงแก่นของฟุตบอลแบบฉบับ เอ็นรีเก้ 

เขาคือหนึ่งในยอดโค้ชที่สามารถทำทีมไปสู่จุดที่ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถไปถึงได้และตราบใดที่ เปแอสเช ยังมี เอ็นรีเก้ พวกเขาก็จะยังคงมีฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมให้เราได้ดูอยู่เสมอ 

--------------------------------

อวย เปแอสเช เสร็จแล้ว ทีนี้ย้อนกลับมาที่ บาร์ซ่า บ้าง

ครึ่งแรกเป็น 45 นาทีที่ดีที่สุดของพวกเขาในเกมนี้ 

ทีมของ ฟลิค เริ่มต้นได้ดีมาก ขยับขึ้นกดดันสูง การเล่นแต่ละเพลย์ค่อนข้างคม 

เปดรี กับ ลามีน ยามาล คุมจังหวะเกมได้ ทีมครองบอลได้ และเคลื่อนบอลได้ดี

บอลของ บาร์ซ่า เคลื่อนที่อย่างมีเป้าหมายและอยู่ในจังหวะที่สม่ำเสมอ สร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับของ เปแอสเช 

ประตูขึ้นนำจาก เฟร์ราน ตอร์เรส จากแอสซิสต์สุดสวยของ แรชฟอร์ด บวกกับรูปเกมช่วง 35 นาทีแรก ดูเหมือน บาร์ซ่า จะสามารถเอาชนะผู้มาเยือนจากฝรั่งเศสได้ 

--------------------------------

จากมากสู่น้อย

ความจริงข้อนึงที่ต้องยอมรับคือ  เอ็นรีเก้ เทรนนักเตะของเขามาอย่างดีเยี่ยมจริงๆ แม้จะไม่มี 3 ประสานตัวจริง และต้องใช้ดาวรุ่งรุ่นราวคราวเดียวกับ กูบาร์ซี่ และ ยามาล เล่นแทน แต่กลับทำได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้ตัวหลัก

บาร์โกลา ,เอ็มบาย และ มายูลู เข้าใจระบบของแชมป์ยุโรปชุดปัจจุบันเป็นอย่างดี 

เปแอสเช ทำงานอย่างหนัก เมื่อผ่านครึ่งชั่วโมงแรก จากนั้นก็เริ่มพัฒนาขึ้น และการที่ทีมตีเสมอ 1-1 ทำให้พวกเขามีกำลังใจอย่างมาก

ประตูนี้ ต้องยกเครดิตให้กับความยอดเยี่ยมของ นูโน่ เมนเดส ที่สร้างเกมขึ้นมาด้วยตัวเองจากจังหวะที่ไม่มีอะไรเลย 

แบ็กโปรตุกีสสร้างสถานการณ์จนนำไปสู่การเปิดช่องเกมรับของ บาร์ซ่า ก่อนจะลุยขึ้นมาแอสซิสต์ให้ เซนนี่ มายูลู ยิงเข้าไป

ส่วนครึ่งหลัง ก็เป็นอย่างที่ ฟลิค ยอมรับหลังจบเกมว่าคู่แข่งเหนือกว่า 

เปแอสเช รักษาจังหวะการเล่นได้สม่ำเสมอและต่อเนื่องมากกว่า เล่นเอา บาร์ซ่า ไม่สามารถโต้กลับได้  เมื่อทำไม่ได้ พอเวลาผ่านไปแผงกลางของทีมก็ค่อยๆโดนตีกรอบโดยการผ่านบอลอันเฉียบคมของผู้มาเยือน 

เปแอสเช มีไอเดียที่ชัดกว่าและเล่นได้ดีกว่า ถึงกระนั้น นาที 63 ดานี่ โอลโม่ ก็มีโอกาสจะแจ้งที่จะส่งให้ทีมขึ้นนำ 2-1 

ถ้า โอลโม่ ส่งบอลตุงตาข่ายได้ในจังหวะนั้น ทุกอย่างอาจเปลี่ยนไปก็ได้ แต่ to be fair ครับ คุณก็ต้องมองไปถึงจังหวะซัดชนโคนเสาของ อี คัง อิน ด้วยเช่นกัน 

แต่เมื่อมันไม่เกิดขึ้น ท้ายที่สุดก็ต้องยอมรับความจริงที่ว่า เปแอสเช จัดการ บาร์ซ่า ด้วยจังหวะการเล่นที่โหดมาก ทีมของ ฟลิค ไม่สามารถเทียบได้ในช่วงโค้งสุดท้ายของเกม

บาร์ซ่า ยังมีอีกหลายข้อที่ต้องปรับปรุง ถึงแม้ประตูชัยของ กอนซาโล่ รามอส จะมาในนาทีสุดท้ายก็ตาม

จบเกมนี้ ฟลิค คงต้องวิเคราะห์และพยายามเปลี่ยนความพ่ายแพ้ให้เป็นสิ่งดี ๆ สำหรับทีมเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในอนาคต 

ลึกในรายละเอียด ไม่อยากจะเฉพาะเจาะจงอะไร แต่ส่วนตัวมองว่าระยะยาวตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟจะเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของ บาร์ซ่า ไม่ใช่แค่เกมรุกที่ เฟร์ราน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย หรือ เลวี่ ที่สูงวัย 

...เปา เริ่มจะเหนื่อยล้าแล้ว....

แพ้นัดนี้ ถือเป็นการปลุก บาร์เซโลนิสต้า บางคนที่มั่นใจว่าทีมตัวเองไม่เป็นรองทีมไหนให้ตื่นจากฝัน 

เหนือฟ้ายังมีฟ้า...ใน Red Ocean แห่งแชมเปี้ยนส์ลีกยังมีฉลามตัวที่ดุดันกว่า เชี่ยวกรากกว่าพวกเขาอย่าง เปแอสเช ในวันนี้

#เจมส์ลาลีกา