คิดไว-ทำไว, Detect เร็ว คุณสมบัติสำคัญของเทรนเนอร์

เกมนี้ ส่วนตัวผมชื่นชม ฮันซี่ ฟลิค ที่กล้าปรับแท็คติกทันทีเมื่อเห็นอะไรไม่เวิร์ค ซึ่งมีส่วนอย่างมากในการพลิกเกมให้ทีมกลับมาชนะ 

โอเบียโด้ ขึ้นนำก่อนนาที 33 จากความผิดพลาดของ โจน การ์เซีย ออกมาตัดบอลดีแล้ว แต่จ่ายน้ำหนักแรงและไม่ตรง มาร์ค กาซาโด้ 

แต่ประตูนี้ก็ต้องให้เครดิต อัลเบร์โต้ เรน่า ว่าทำได้ยอดเยี่ยม ลูกยิงไกล 40 เมตรลักษณะนี้ ความเร็ว+น้ำหนัก+ทิศทางต้องเป๊ะจริงๆ เพราะมีเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นที่โอกาสเปิด

ประตูขึ้นนำของ โอเบียโด้ บวกเกมรุกที่มีแค่ มาร์คัส แรชฟอร์ด เท่านั้นที่คุกคามได้ ทำให้พักครึ่ง ฮันซี่ ฟลิค ปรับแผนทันที

ลำดับแรก กุนซือเยอรมันจัดระเบียบแดนกลางใหม่ ถอด กาซาโด้ ที่เล่นไม่ดีออก ส่ง เฟรงกี้ เดยอง ลงมา

การจับคู่ของ pivot เบอร์หนึ่งของโลก อย่าง เดยอง-เปดรี ทำให้เกมแตกต่างอย่างสิ้นเชิง

เมื่อกลางคุมได้แล้ว อย่างที่สองที่ ฟลิค แก้คือส่ง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ลงสนามในนาทีที่ 64

ฟลิค มองว่าในสถานการณ์นี้การมี เลวี่ อยู่ในสนามเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจาก บาร์ซ่า กำลังประสบปัญหาในการเข้าใกล้กรอบเขตโทษของ โอเบียโด้ ถึงแม้ เอริค การ์เซีย จะยิงตีเสมอให้ทีมไปแล้วก็ตาม

ทีมต้องการแอคชั่นที่มากขึ้นในกรอบเขตโทษ ซึ่งคุณสมบัติของ เลวี่ ตอบโจทย์

และ เดยอง-เลวี่ สองตัวสำรอง ก็จับคู่กันยิงประตูสำคัญ

มิดฟิลด์ดัตช์ตักบอลให้หัวหอกโปลสะบัดศรีษะโขกเช็ดคานผ่าน อารอน เอสกานเดลล์ เข้าไปอย่างแม่นยำ

ประตูนี้ นอกจากเทคนิคการเปิดของ เดยอง แล้ว ที่น่าสนใจคือการเคลื่อนที่ที่ของ เลวี่ ครับ น้องๆคนไหนเล่นฟุตบอล เล่นศูนย์หน้า ดูแล้วลองนำไปใช้

มองหาพื้นที่ว่าง เข้าสู่พื้นที่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม สอดช่องกลางระหว่างคู่เซนเตอร์ฯ เอริก ไบยี่-ดาบิด การ์โม จากนั้นก็เปรี้ยง !

ประตู 1-2 นี้ ไม่ใช่แค่เรื่องของจังหวะและโอกาส แต่เป็นความตั้งใจ มาจากแทคติกการเล่นในตอนนั้น ซึ่งก่อนจะได้ประตูนี้ เฟร์ราน ตอร์เรส ก็มีโอกาสโหม่งในลักษณะเดียวกันนี้

ฟลิค สั่งให้ลูกทีมพยายามส่งบอลเข้ากรอบเขตโทษให้มากขึ้น เพื่อแก้ลำหมาก low block ของ เปาโนวิช

การเปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษ (ที่แม่นยำ) ไม่ว่าจะจบที่การยิงหรือโหม่งทันที หรือจะจับลง จ่ายคืน พลิกไปสุดเส้นหลัง ไม่ว่าชอตต่อไปจะเลือกเล่นแบบไหนก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นคือเขย่าโซนรับของ โอเบียโด้ ให้เคลื่อน ยิ่งทำเร็วและแม่น ช่องก็จะยิ่งเปิด

นอกนี้แล้ว ประตูของ เลวี่ ยังนับเป็นอีกหนึ่งเทคนิคสำคัญของ บาร์ซ่า ในการยิงประตูคู่แข่ง

เทคนิคนี้คล้ายกับที่ แรชฟอร์ด ทำเมื่อไม่กี่วันก่อนในเกมกับ นิวคาสเซิล เป็นการยืนยันว่า บาร์ซ่า ไม่ได้มีดีแค่บอลสั้นหรือบอลตามช่อง แต่ลูกตัก ลูกหยอดเข้ากรอบก็อันตรายมาก

บาร์ซ่า พลิกนำ 1-2 นาที 70 ก่อนจะปิดเกมอย่างสมบูรณ์โดยลูกโขก โรนัลด์ อาเราโฮ

สิ้นเสียงนกหวีดของ มิเกล อังเคล ออร์ติซ ผู้ตัดสิน บาร์ซ่า เก็บ 3 แต้มเหนือ เรอัล โอเบียโด้ แบบเหนื่อยกว่าที่คิด กระนั้นก็ผ่านไปได้ด้วยดี

6 นัด 16 แต้ม ไม่ปล่อยให้ มาดริด ของ อลอนโซ่ ฉีกหนีไปไกล ถือว่าเป็นไปตามเป้า ก่อนที่วันเสาร์นี้ มาดริด จะไปเยือน แอตเลติโก ในเดร์บี้ มาดริเลนโญ่

................................................

ตบท้าย นอกจากนักเตะทุกคนแล้ว อยากชื่นชม ฟลิค เป็นพิเศษครับ

เหมือนที่จั่วหัวไปข้างต้น ไม่ใช่แค่เรื่อง 'คิดเร็ว-ทำเร็ว' เท่านั้น แต่ ฟลิค ยังเป็นเทรนเนอร์ที่ detect อะไรได้เร็ว

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ฟลิค เปลี่ยนผู้เล่นตัวจริงออกอย่างรวดเร็ว มันเคยเกิดขึ้นหลายครั้ง ล่าสุดกับ เลบันเต้ 

หนนั้น ฟลิค รื้อแผนของตัวเองจากครึ่งแรกที่เอา ราฟินญ่า เล่นเป็นหน้าต่ำ แล้วก็ยังถอด แรชฟอร์ด กับ กาซาโด้ ออกตอนพักครึ่ง ก่อนที่จะพาทีมพลิกสถานการณ์กลับมาได้

สังเกตมานานแล้วว่า ฟลิค มัก detect ปัญหาได้เร็วและแม่นยำ จากนั้นกระบวนการต่อมาคือ คิดหาวิธีแก้ และลงมือทำ ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของเทรนเนอร์

สำหรับเทรนเนอร์ หลายครั้งแพ้-ชนะก็วัดตรงนี้ครับ 

บางคนเก่งแทคติก ซ้อมดี มีแผนใหม่ๆมาตลอด แถมเข้ากับลูกทีมได้ แต่หน้างานดัน detect  ปัญหาไม่เก่ง

หรือบางคน detect ได้ แต่ออกลูกลังเล คิดช้า ไม่เด็ดขาด ไม่กล้าเปลี่ยน แผนตัวเอง บางคนกลัวนักเตะไม่พอใจ สุดท้ายทีมแพ้

ตบท้าย สรุปหล่อๆเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "ความเร็วเป็นของปีศาจครับ"

................................................

คะแนนความสามารถนักเตะบาร์ซ่า โดย มาร์ก้า 

โจน การ์เซีย 5, เอริก การ์เซีย 7,อาเราโฮ7,กูบาร์ซ่า 5,มาร์ติน 5,เปดรี 7,กาซาโด้ 5,ราฟินญ่า 6,โอลโม่ 5,แรชฟอร์ด 7,เฟร์ราน 6

สำรอง : เดยอง 7,เลวี่ 7,กุงเด้ 6,คริสเตนเซ่น ไม่มีคะแนน,เบร์นัล ไม่มีคะแนน

#เจมส์ลาลีกา