ออกสตาร์ทใน ลา ลีกา 3 นัด แอต.มาดริด ยังควานหาชัยชนะไม่เจอ
แพ้ เอสปันญ่อล, เสมอ เอลเช่, เสมอ อลาเบส ด้วยสกอร์สุดฝืด 1-1
ทีมแรก ปีที่แล้วต้องลุ้นถึงเกมสุดท้ายกว่าจะรอดตกชั้น
ทีมต่อมาเป็นน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา
ส่วนที่ล่าสุดที่ แอตเลติโก แบ่งแต้มให้คือ ทีมที่อันดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ คืออันดับ 9
เหลือบมองตารางคะแนน เวลานี้ แอตเลติโก โดน เรอัล มาดริด ทิ้งห่าง 7 แต้ม และตามหลัง บาร์ซ่า 5 แต้ม
กับสถานการณ์อันย่ำแย่ เกิด 2 คำถามขึ้น คำถามแรกเป็นคำถามเดิมที่กลับมาอีกครั้ง
ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงแล้วหรือยัง ?
คำถามที่ 2 เกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกอย่างจึงไม่เวิร์ค ทั้งๆที่ลงเล่นไปมหาศาล ?
กับคำถามแรก ถือเป็นประเด็นที่ถูกหยิบกลับมาถกกันอีกครั้ง ซึ่งที่สเปนแพร่กระจายไปทุกที่ ในเว็บบอร์ดกลุ่มแฟนบอลแอตเลติ ,รายการทีวีหลายรายการ ,วิทยุกีฬาและสื่อออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม
ความเห็นยังคงแบ่งเป็น 2 ฝั่งอย่างชัดเจน กลุ่มนึงเชื่อมั่นใน โชโล่ ไม่เสื่อมคลาย อีกกลุ่มกำลังท้าทายด้วยแนวคิดที่แตกต่าง ที่ในวันนี้เสียงของพวกเขามีน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆ
"สำหรับผม ยุคสมัยของ โชโล่ มันจบลงแล้ว เขาให้อะไรกับทีมไม่ได้มากไปกว่านี้แล้ว เราอยู่กับคำโกหกของเขามาตลอด"
"โอเค อันดับ 3 มันไม่ได้แย่ แต่ถึงเวลาที่เราต้องมองให้ไกลกว่าเดิมแล้ว ถึงเวลาที่เราต้องคาดหวังถึงการคว้าแชมป์"
"ดูอย่าง บาร์เซโลน่า สิ ปีที่แล้วพวกเขาซื้อแค่ ดานี่ โอลโม่ ทีมแทบไม่ได้เปลี่ยนไปเลย แต่พวกเขาเปลี่ยนเทรนเนอร์เป็น ฮันซี่ ฟลิค"
"คุณก็รู้ใช่มั๊ยว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญยังไง แนวคิดเปลี่ยน ปรัชญาเปลี่ยน แนวทางการเล่นเปลี่ยน เข้าใจแล้วหรือยังไงว่าการเปลี่ยนแปลงเทรนเนอร์มอบอะไรให้กับทีม ?"
"คุณลงทุนซื้อผู้เล่นใหม่เข้ามา 8 คน เพื่อที่คุณจะไปเล่น แชมเปี้ยนส์ลีก ในปีหน้า โดยไม่เป็นแชมป์ก็ได้ยังงั้นเหรอ ? ที่ผ่านมาคุณก็ทำได้อยู่แล้วโดยไม่ต้องลงทุนถึงขนาดนี้"
"โชโล่ สร้างคุณงามความดีไว้มากมาย เราซาบซึ้งดี คุณก็สร้างอนุเสาวรีย์ให้กับเขาสิ ไม่ใช่ตอบแทนสิ่งที่เขาทำในอดีตด้วยการให้เขาขยี้อนาคตของทีม มันจบแล้ว มันจบแล้ว"
..........................................................................
"สำหรับผมอันดับ 3 ไม่ใช่ความล้มเหลว"
"อย่าลืมว่า เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า อยู่ตรงนั้นมาตลอด อยู่มาตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปลง การจะล้มพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่าย และควรยอมรับว่าไม่ใช่ใครก็ทำได้"
"คุณไม่มีทางทิ้ง เรอัล มาดริด หรือ บาร์เซโลน่า ไว้ข้างหลังได้ตลอดไปหรอก การที่ โชโล่ ล้มพวกเขาได้ มันคือความมหัศจรรย์แล้ว"
"โอเค ซื้อมา 8 คน แต่เราอยู่ดีว่านักเตะส่วนใหญ่อยู่ในเกรดไหน อย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้ ตลาดนักเตะมันมีกลไกของมันอยู่ ใช่ โชคดีที่ บาร์ซ่า มีปัญหาด้านการเงิน แต่ มาดริด คือฉลามในตลาดซื้อขาย ถ้าพวกเขาต้องการเซ็นกับใคร มันก็จะเป็นไปตามนั้น แอตเลติโก อยู่คนละระดับในส่วนนี้"
"อ้อ แล้วก็อย่าลืมน่ะ ฮูเลี่ยน ไม่ใช่ เอ็มบั๊บเป้ , อัลมาด้า กับ วินิซิอุส เทียบกันไม่ได้"
"ปีนี้ทีมผ่าตัดใหญ่ นักเตะใหม่ต้องการเวลาในการปรับตัว"
"มันจะดีขึ้นแน่ๆด้วยประสบการณ์ของเขา (โชโล่) ไม่มีใครเหมาะสมกับทีมในตอนนี้มากไปกว่าเขา"
"สำหรับคนที่เรียกร้องว่าต้องเปลี่ยน ไม่ได้รับผิดชอบอะไร ทุกความเสี่ยงตกอยู่กับฝ่ายบริหารและสโมสร คุณบอกให้เปลี่ยน แล้วถ้าไม่เป็นอย่างที่คิดล่ะ ความเสียหายตกอยู่กับใคร แต่คุณพูดมันไปแล้ว คุณแค่พูดในสิ่งที่คิดออกไปเท่านั้น เมื่อถึงเวลาคุณก็จะเริ่มพูดในสิ่งอื่น"
...................................................
3 นัด 2 แต้ม สะกดคำว่าชนะไม่เป็น เกิดอะไรขึ้นกับ แอตเลติโก ?
จากผลงานที่ย่ำแย่ใน 3 นัดแรก มีการวิจารณ์ถึงสไตล์การเล่น และการตัดสินใจของ โชโล่ ที่เริ่มหนักหน่วงและจริงจังมากขึ้น
อัลเบิร์ต เฟร์นานเดซ จาก Marca radio ตั้งข้อสงสัยว่าระยะเวลาที่ผ่านมานานถึง 14 ปีเต็ม มันส่งผลเสียต่อตัว โชโล่ หรือเปล่า เพราะฟุตบอลทุกวันนี้พัฒนาไปอีกขั้น และเห็นได้ชัดว่า โชโล่ ไม่ได้เหนือกว่าเทรนเนอร์คนอื่นๆเหมือนแต่ก่อนแล้ว
"เขาเริ่มเอาชนะทีมที่มีผู้เล่นคุณภาพด้อยกว่าได้ยากขึ้นเรื่อยๆ"
นอกจากนี้ อัลเบิร์ต ยังตั้งข้อสังเกตว่า ด้วย DNA แอตเลติโก เหมาะกับนักเตะสายพลังมากกว่าสายเทคนิค ยิ่งทีมมีนักเตะสายเทคนิคมากขึ้น ดูเหมือนทีมจะเล่นแย่ลง
"กลุ่มนักเตะที่แข็งแกร่งที่เราเคยรู้จักในยุค 2014-2016 เหลือให้เราเห็นน้อยลงทุกทีในวันนี้ เวลานี้เราแทบไม่รู้ว่าทีมต้องการเล่นแบบไหน"
ต่อคำถามที่ว่า ทำไมทีมจึงไม่ตอบสนองทั้งๆที่สโมสรลงทุนไปมหาศาล ตรงจุดนี้ มิเกล กินตาน่า เฮดของรายการ La Pizarra de Quintana ที่ออกอากาศทาง Radio MARCA แสดงมุมมองว่า การวางแผนงานเตรียมทีมเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก แต่เห็นได้ว่ามีช่องว่างมากมายภายในทีมที่ยังไม่ได้รับการเติมเต็มหลังจากทุ่มเงินไปหลายล้านยูโร"
"ทีมได้รับการตอบสนองน้อยมากสำหรับสิ่งที่ลงทุนไปกับผู้เล่นหน้าใหม่"
ด้าน เปโดร ฟูยาน่า นักข่าวจาก Cadena SER วิเคราะห์ว่า "เวลาเท่านั้นที่จะเป็นคำตอบ"
การตัด แอตเลติโก หลังจากผ่านไป 3 นัดดูจะเร็วเกินไป และเราไม่สามารถเทียบเคียงกับนักเตะคนอื่นๆได้ในกรณีนี้
มีคนยกตัวอย่าง ฟรังโก้ มาสตานตัวโน่ ที่ซ้อมเพียงไม่กี่ครั้งก็สามารถลงเล่นตัวจริงให้กับ เรอัล มาดริด ได้ทันที ทั้งๆที่มายุโรปครั้งแรกและอายุแค่ 18 ปี แต่นักเตะทุกคนมีความแตกต่างกัน
แอตเลติโก เปลี่ยนแปลงไปกว่าครึ่งทีม และนักเตะส่วนใหญ่ที่มาอายุยังน้อย แต่มันจะดีขึ้นอย่างแน่นอน ขอแค่เวลาในการทำงานมากกว่านี้ ทีมนี้จะระเบิดฟอร์มออกมาได้แน่
ครับ 2 ฝ่าย 2 มุมมอง ถกเถียงกันโดยมีผลงานในอดีตและปัจจุบันของ โชโล่ เป็นฐานที่ใช้ในการตัดสินใจ กับคำถามที่ว่าถึงเวลาเปลี่ยนแปลงแล้วหรือยัง มันอาจไม่มีผลอะไรตามมาเลย เมื่อบอร์ดบริหารยังคงหนุนหลัง โชโล่ เต็มที่
แต่กับคำถามที่ว่า อะไรที่ทำให้เงินกว่า 170 ล้านยูโรที่ลงทุนไปยังไม่งอกเงยนั้น คงพอจะนำมาถกกันได้ว่าเป็นที่ โชโล่ หมดมุก หรือก็แค่สถานการณ์ชั่วคราวที่หลายคนแค่ตื่นตระหนกไปเอง
เชิญแสดงความคิดเห็นครับ
#เจมส์ลาลีกา