ปังหรือแป้ก? 3 แข้งอังกฤษ-เวลส์ยุคโมเดิร์นในสีเสื้อบาร์เซโลน่า ก่อน แรชฟอร์ด จ่อเป็นรายที่ 4

ปังหรือแป้ก? 3 แข้งอังกฤษ-เวลส์ยุคโมเดิร์นในสีเสื้อบาร์เซโลน่า ก่อน แรชฟอร์ด จ่อเป็นรายที่ 4
มาร์คัส แรชฟอร์ด จ่อเป็นแข้งจากสหราชอาณาจักรรายที่ 4 ในยุคโมเดิร์นที่ได้สวมเสื้อ บาร์เซโลน่า หลังจาก 3 รุ่นพี่อย่าง สตีฟ อาร์ชิบัลด์, แกรี่ ลินิเกอร์ และ มาร์ค ฮิวจ์ส เคยฝากรอยเท้าไว้ ทั้งปังและแป้กในแบบต่างกันไป

ด้วยความที่สโมสรฟุตบอล บาร์เซโลน่า ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ปี 1899 ทำให้ที่ผ่านมามีนักเตะจากชาติในเครือสหราชอาณาจักรที่เล่นให้กับสโมสรหลายคน ยกตัวอย่างเช่น อาร์เธอร์ วิตตี้ ที่เริ่มเล่นให้ บาร์เซโลน่า ในปี 1899

อย่างไรก็ตาม หากนับเฉพาะในยุคสมัยใหม่ หรือที่คนชอบเรียกกันว่า "Modern Era" แล้วล่ะก็ ที่ผ่านมามีเพียง 3 คนเท่านั้นที่มาจากในเครือสหราชอาณาจักรแล้วได้เป็นนักเตะของ บาร์เซโลน่า โดยรายของ มาร์คัส แรชฟอร์ด กำลังจะเป็นคนที่ 4 หากไม่มีอะไรผิดพลาด ซึ่งเราจะย้อนไปดูว่า 3 คนก่อนหน้านี้มีใครบ้าง

- สตีฟ อาร์ชิบัลด์

ช่วงระหว่างปี 1980-1984 อาร์ชิบัลด์ เล่นให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งผลงานของเขาถูกใจ บาร์เซโลน่า อย่างมาก จนทำให้ในปี 1984 "อาซูลกราน่า" จ่ายเงิน 1.15 ล้านปอนด์เพื่อดึงอดีตหัวหอกชาวสกอตต์ไปร่วมทัพ

ตอนนั้น อาร์ชิบัลด์ ถึงขั้นได้รับเสื้อเบอร์ 10 กับทาง บาร์เซโลน่า ด้วย อย่างไรก็ตาม ตอนนั้นบางคนก็กังขาว่าเขาถือเป็นการเสริมทัพที่ถูกจุดหรือไม่ และที่ บาร์เซโลน่า ซื้อเขาไปร่วมทีมอาจจะเป็นเพราะตอนนั้นกุนซือของ บาร์เซโลน่า เป็น เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ ซึ่งเป็นคนสหราชอาณาจักรเหมือนกันเท่านั้น

ถึงกระนั้น อาร์ชิบัลด์ ก็แสดงให้เห็นว่าเขาได้มาอยู่กับทีมเพราะฝีเท้า หลังจากทำได้ 15 ประตูตั้งแต่ในซีซั่นแรกของการเล่นใน ลา ลีกา จนถือเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมในซีซั่น 1984-85 รวมถึงช่วยให้ บาร์เซโลน่า ได้แชมป์ลีกตั้งแต่ฤดูกาลเปิดตัว ขณะที่ในฤดูกาล 1985-86 เขาก็เป็นหนึ่งในขุมกำลัง บาร์เซโลน่า ชุดที่ไปถึงนัดชิงชนะเลิศของศึก ยูโรเปี้ยน คัพ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปัจจุบัน) ด้วย ก่อนที่จะแพ้ สเตอัว บูคาเรสต์ ในบั้นปลาย

น่าเศร้าที่หลังจากนั้น อาร์ชิบัลด์ ไม่ได้เป็นคนสำคัญของทีมเหมือนเก่า โดยเขาถึงขั้นเคยโดนปล่อยให้ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ยืมตัวไปใช้งานด้วย ก่อนที่จะแยกทางกับทีมแบบถาวรแล้วไปซบ ฮิเบอร์เนี่ยน ทีมในบ้านเกิดในปี 1988

- แกรี่ ลินิเกอร์

2.8 ล้านปอนด์ คือจำนวนเงินที่ บาร์เซโลน่า ยอมจ่ายให้ เอฟเวอร์ตัน ในช่วงซัมเมอร์ ปี 1986 หลังจาก ลินิเกอร์ เพิ่งทำไป 30 ประตูจากการเล่น 41 นัดในศึก ดิวิชั่น 1 ของอังกฤษ ฤดูกาล 1985-86 (สมัยนั้น ดิวิชั่น 1 คือลีกสูงสุดของอังกฤษ) ให้กับ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" รวมถึงจากการที่เขาเพิ่งเป็นดาวซัลโวสูงสุดของศึก ฟุตบอลโลก 1986 ด้วยผลงาน 6 ประตูกับทีมชาติอังกฤษ

ในฤดูกาลแรก หรือก็คือซีซั่น 1986-87 ลินิเกอร์ โชว์ฟอร์มสมราคาด้วยการทำได้ 20 ประตูจากการเล่นใน ลา ลีกา 41 นัด ให้กับทีมภายใต้การคุมทัพของ เวนาเบิ้ลส์ และพอถึงซีซั่น 1987-88 เขาก็ยิงในลีกได้อีก 16 ลูกจาก 36 เกม แม้ว่าในฤดูกาลนั้น บาร์เซโลน่า จะมีการเปลี่ยนกุนซือจาก เวนาเบิ้ลส์ ไปเป็น หลุยส์ อราโกเนส ในช่วงเดือนกันยายนของปี 1987 ก็ตาม

จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของ ลินิเกอร์ กับ บาร์เซโลน่า เกิดขึ้นในซีซั่น 1988-89 เมื่อ โยฮัน ครัฟฟ์ กุนซือคนใหม่ของทีมมองว่า ลินิเกอร์ ไม่เข้ากับระบบที่ตัวเองต้องการจนมักจะจับ ลินิเกอร์ ไปยืนเป็นปีกขวาบ่อยครั้ง สุดท้ายแล้วในฤดูกาลนั้น ลินิเกอร์ ก็ยิงในลีกได้แค่ 6 ลูกจาก 26 นัดใน ลา ลีกา ก่อนที่เขาจะโดนขายให้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หลังจากตอนนั้น บาร์เซโลน่า ต้องการงบให้ ครัฟฟ์ เอาไปใช้เสริมทัพ รวมถึงอยากเอาโควตาแข้งต่างชาติไปใช้กับคนอื่น

"ครัฟฟ์ ไม่ต้องการผม เขาจับผมไปยืนเป็นปีกขวาจนทำให้ผมโมโหและขอย้ายออกจากทีม มันเห็นได้ชัดเจนอยู่แล้ว ตอนนั้นมันสามารถส่งนักเตะต่างชาติลงเล่นได้แค่ 2 คน และเขาก็อยากใช้งานคนที่ตัวเองชอบ ที่จริงผมยอมรับได้นะ ผมไม่ใช่คนที่อีโก้สูงอะไรเลย แต่เขาไม่กล้าบอกผมตรงๆ ก็เท่านั้น" ลินิเกอร์ เคยเปิดใจถึงเรื่องนั้นเมื่อปี 2021 โดยเขาได้แชมป์ร่วมกับ บาร์เซโลน่า 2 รายการ ได้แก่ โกปา เดล เรย์ ซีซั่น 1987-88 กับ คัพ วินเนอร์ส คัพ ฤดูกาล 1988-89

- มาร์ค ฮิวจ์ส

นอกจาก ลินิเกอร์ แล้วนั้น ฮิวจ์ส ก็ย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า ในช่วงซัมเมอร์ของปี 1986 ด้วย ซึ่งตอนนั้น บาร์เซโลน่า จ่ายเงินให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นจำนวน 2 ล้านปอนด์ ประเด็นก็คือที่จริงแล้วตอนนั้น ฮิวจ์ส ไม่ได้อยากบอกลายอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แม้แต่นิดเดียว

"ตอนนั้นผมก็แค่พยายามเล่นตามสไตล์ของตัวเอง ผมค่อนข้างมีความสุขพอตัวด้วย ผมได้เป็นกองหน้าตัวเป้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชียวนะ ผมได้ลงเล่นทุกนัดต่อหน้าแฟนบอลทั้ง 40,000 คน ผมกำลังมีช่วงเวลาที่แสนสุข ผมไม่ได้อยากย้ายไปไหนเป็นพิเศษเลย" อดีตแข้งชาวเวลส์เคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้ ในฤดูกาล 1986-87 ฮิวจ์ส ได้ลงเล่นให้ บาร์เซโลน่า ไปทั้งหมด 37 นัดในทุกรายการ ซึ่งเขาก็ทำได้เพียง 5 ประตูเท่านั้น ทำให้ในซีซั่นต่อมาเขาย้ายไปเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยสัญญายืมตัว ก่อนที่ในช่วงซัมเมอร์ ปี 1988 เขาจะได้ย้ายกลับไปอยู่กับ แมนยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 1.8 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นการซื้อนักเตะด้วยค่าตัวที่สูงเป็นสถิติของ "ปีศาจแดง" ในตอนนั้น ทำให้เขาบอกลา บาร์เซโลน่า โดยที่ไม่ได้แชมป์อะไรกับทีมเลย


- เด็กเกร็ดบอล -



ที่มาของภาพ : Gettyimages
BY : เด็กเกร็ดบอล
เด็กเกร็ดบอล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport