มาร์คัส แรชฟอร์ด ขุมกำลังคนใหม่ของ บาร์ซ่า

มาร์คัส แรชฟอร์ด ขุมกำลังคนใหม่ของ บาร์ซ่า
บาร์ซ่า บรรลุข้อตกลงยืมตัว มาร์คัส แรชฟอร์ด จาก แมนยูไนเต็ด ด้วยสัญญา 1 ปีบวกอ๊อปชั่นซื้อขาดแบบไม่บังคับในราคา 35 ล้านยูโร

เปิดฉากที่ ดิอ๊าซ เปลี่ยนมาเป็น นิโก้ แต่จบที่ แรชฟอร์ด !! 

จุดเริ่มต้นของการบรรจบกันระหว่าง บาร์ซ่า กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด เกิดขึ้นได้อย่างไร ?

ก็ต้องเล่าอย่างนี้ครับ 

เริ่มต้นด้วยไอเดียของ ฮันซี่ ฟลิค ที่ต้องการเสริมทัพในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งซ้าย

กับไอเดียนี้ มีแฟนๆมากมายที่ไม่เข้าใจ ในเมื่อทีมมี ราฟินญ่า ที่เล่นได้ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว (34 ประตู,25 แอสซิสต์ จาก 57 นัด)

ทำไมยังต้องมองหาหน้าซ้ายอีก ?

ทำไมไม่ซื้อกองหน้าตัวเป้า ? เพราะ เลวานดอฟสกี้ ปีนี้ย่าง 37 แล้ว

การเสริมตำแหน่งหน้าซ้าย สำหรับ ฟลิค ไม่ใช่ความคิดหุนหันพลันแล่น เเต่ผ่านการตรึกตรองมาเป็นอย่างดีว่า "จำเป็น"

กับผลงานของ ราฟินญ่า กับวิธีที่เขาทำประตู,แอสซิสต์ให้เพื่อน หรือสร้างประโยชน์กับทีมตลอดซีซั่นที่ผ่านมาได้ทำให้ ฟลิค มองเห็นศักยภาพของดาวเตะบราซิเลี่ยนในอีกมิตินึงนั่นคือ 'ตำแหน่งหน้าต่ำ' และ 'หน้าเป้า' แบบ falso 9

กับตำแหน่งหน้าต่ำ ทีมมี ดานี่ โอลโม่ กับ เฟร์มิน โลเปซ อยู่แล้ว แต่หากมองลึกลงไป ถ้ามีอ๊อปชั่นอย่าง ราฟินญ่า ให้เลือกเพิ่มอีก ทีมก็มีแต่จะได้ประโยชน์

นอกจากนั้นแล้ว หากว่ากันถึงตำแหน่งตัวริมเส้น ถ้า ฟลิค มีความคิดว่า ราฟินญ่า สามารถขยับไปเล่นเป็นได้ทั้งหน้าเป้า และ หน้าต่ำ ได้แล้วล่ะก็ กวาดตามองแนวรุกคนอื่นๆที่เหลือ จะเห็นได้ว่ามีแค่ ลามีน ยามาล เท่านั้นที่เป็นปีกธรรมชาติ 

ที่เหลือไม่ว่าจะเป็น เฟร์ราน ตอร์เรส,เปา บิคตอร์ หรือ โอลโม่  ถึงแม้ว่าจะขยับออกไปเล่นด้านข้างได้ แต่ก็ไม่ใช่ตำแหน่งถนัด

แน่นอนว่าปีกธรรมชาติอย่าง ยามาล จะประจำอยู่ฝั่งขวาไม่เปลี่ยนแปลง นั่นทำให้ ฟลิค ตระหนักว่าการจะทำให้แท็คติกของเขาสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นในปีนี้ เขาต้องหาตัวริมเส้นฝั่งซ้ายเข้ามาอีกราย เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและมิติในเกมรุก

ในการนี้ สเปคหน้าซ้ายที่ตั้งไว้คือ มีความเร็ว,เก่งในจังหวะตัวต่อตัว,สร้างสถานการณ์ที่ได้เปรียบ และจบสกอร์ได้ดี

ด้วยคุณสมบัติข้างต้น ในตลาดซื้อขายหน้าร้อนนี้ หลุยส์ ดิอ๊าซ คือนักเตะที่ตรงสเปคมากที่สุด แถม ดิอ๊าซ ยังมีความดุดันตามแบบฉบับแข้งละติน นอกจากนี้ฟอร์มก็กำลังอยู่ในช่วงร้อนแรง

ด้านนักเตะดูเหมือนว่าจะมีใจเอนเอียงไม่น้อย แต่อุปสรรคสำคัญคือต้นสังกัดอย่าง ลิเวอร์พูล

1.ลิเวอร์พูล ไม่มีความคิดที่จะขาย ดิอ๊าซ 

2. ถ้าจะเสียจริงๆ พวกเขาจะเรียกร้องในราคาที่สูงลิบลิ่ว ตัวเลขแรกเปิดมา ที่ 85 ล้านยูโร

ซัมเมอร์นี้ บาร์ซ่า พยายามอย่างหนักในการจัดการการเงินของตัวเองให้กลับเข้าสู่กฏ 1 : 1 อันมีผลต่อการลงทะเบียนนักเตะในซีซั่นที่กำลังจะเปิดฉากขึ้น ดังนั้นตราบใดที่ยังไม่ได้ไฟเขียวจาก ลา ลีกา พวกเขาก็ยังต้องระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายอยู่ต่อไป

บาร์ซ่า มีราคาในใจสำหรับ ดิอ๊าซ ที่ประมาณ 60 ล้านยูโรบวกลบ พวกเขาเชื่อลึกๆว่าการเทคแอ็คชั่นของตัวนักเตะจะช่วยให้สถานการณ์ง่ายขึ้น

ดิอ๊าซ เทคแอ็คชั่นอย่างที่ต้องการจริงๆ ข่าวออกมาว่าเขาได้แจ้งต่อ ลิเวอร์พูล ว่าต้องการย้ายทีม แต่ปัญหาคือไม่ได้มีผลกระทบ ลิเวอร์พูล สักเท่าไหร่ ราคายังคงสูงลิบ

ระหว่างพันตูกับ ดิอ๊าซ จู่ๆ เฟลิกซ์ ตีนต้า เอเยนต์ของ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ ก็ติดต่อเข้ามายื่นข้อเสนอว่านัดเตะของเขาสนใจมาร่วมทีมด้วย

วิลเลี่ยมส์ผู้น้องเคยตกเป็นเป้าหมายของ บาร์เซโลน่า เมื่อซัมเมอร์ปี 2024 ครานั้น ยักษ์ใหญ่กาตาลันไล่ล่าเต็มกำลัง แต่สุดท้าย นิโก้ เลือกอยู่กับ แอธ.บิลเบา ซึ่งภายหลังมีการเปิดเผยถึงเหตุผลว่ากังวลเรื่องการลงทะเบียน

นิโก้ กลับมาอีกครั้ง บาร์ซ่า ที่แม้จะวาง ดิอ๊าซ เป็นเป้าหมายอันดับหนึ่ง ก็อดที่จะหันมาเจราจาด้วยไม่ได้ เพราะ นิโก้ เองก็มีคุณสมบัติต้องตามที่ ฟลิค มองหา แถมยังมีข้อได้เปรียบตรงที่อายุน้อยกว่า,มีประสบการณ์ใน ลา ลีกา,มีดีกรีทีมชาติสเปนชุดใหญ่ และที่สำคัญคือราคาถูกกว่า ดิอ๊าซ ร่วม 23 ล้านยูโร เพราะมีค่าฉีกสัญญาที่ 58 ล้าน บวก CPI เบ็ดเสร็จก็ 62 ล้านยูโร

กระนั้นก็ตามข่าวกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็มีสลับออกมาเป็นระยะๆ โดยเริ่มมีความเชื่อมโยงช่วงประมาณปลายเดือนพฤษาภาคม จากการรายงานของ สปอร์ต ตามด้วยบทสัมภาษณ์ของเจ้าตัวว่า "อยากเล่นกับ ลามีน ยามาล" ทว่าน้ำหนักข่าวมีไม่มาก

เมื่อ ดิอ๊าซ ดูห่างไกล แถมมี บาเยิร์น มิวนิค เข้าร่วมวง บาร์ซ่า จึงหันเรือมาที่ นิโก้ เต็มตัว ก่อนจะบรรลุข้อตกลงส่วนตัวกับนักเตะ

25 มิ.ย. สื่อประโคมข่าว นิโก้ จะไป บาร์ซ่า แน่นอน แต่ 4 ก.ค. หรือ 9 ต่อมาดีลล่มอย่างไม่น่าเชื่อ !!

สาเหตุสำคัญมาจากเรื่องการลงทะเบียน บวกกับการเทคแอคชั่นของ แอธ.บิลเบา ที่บีบ บาร์ซ่า ในหลายทาง หลักคือไม่ยินยอมให้จ่ายค่าฉีกสัญญาแบบเป็นงวดๆ ทั้งยังหว่านล้อม นิโก้ จนนักเตะเปลี่ยนใจ

นิโก้ หักกับ บาร์ซ่า รอบ 2 ยอมต่อสัญญากับ แอธเลติก 10 ปี ด้วยค่าฉีกสัญญา 87 ล้านยูโร

4 ก.ค. บาร์ซ่า จึงเหลือทางเลือกแค่ แรชฟอร์ด ที่มีข่าวว่า ฟลิค ไฟเขียว กับ ดิอ๊าซ เป้าหมายอันดับหนึ่งที่ราคาเกินเอื้อม

17 ก.ค. บาเยิร์น มิวนิค ยื่นข้อเสนอขอซื้อ ดิอ๊าซ อย่างเป็นทางการที่ราคา 67.5 ล้านยูโร แต่ ลิเวอร์พูล ปฏิเสธ

ทีมดังแห่งลุ่มแม่น้ำเมอร์ซี่ตีมูลค่า ดิอ๊าซ ไว้ราว 100 ล้านยูโร แต่ที่หนักแน่นกว่านั้นคือได้มีการแจ้งว่า สโมสรไม่มีแผนขาย แม้นักเตะแสดงอย่างชัดเจนว่าต้องการย้ายทีมก็ตาม

ข้อเสนอของ บาเยิร์น มิวนิค ทำให้ บาร์ซ่า ตระหนักว่าด้วยศักยภาพการเงินเวลานี้พวกเขาไม่มีทางเข้าใกล้ ดิอ๊าซ ได้เลย เช่นนี้จึงหันไปมองที่ความเป็นจริง

ระหว่างทางที่ บาร์ซ่า มุ่งมั่นกับ ดิอ๊าซ , เจราจากับ นิโก้ นั้น แรชฟอร์ด ไม่เคยไปไหนเลย เขาอยู่ตรงนั้นเสมอเพื่อรอโอกาส

แรชฟอร์ด รู้ดีว่าเขาคืออ๊อปชั่นรอง แต่เขาก็พร้อมรอ พร้อมลดค่าเหนื่อยเพื่อให้ได้ย้ายมา บาร์ซ่า ขณะที่ต้นสังกัด แมนยูไนเต็ด พร้อมปล่อย เพราะไม่อยู่ในแผนงานของ รูเบน อโมริม

สุดท้ายฝันก็เป็นจริง แรชฟอร์ด ได้กลายเป็นนักเตะอังกฤษคนที่สองในประวัติศาสตร์ของ บาร์ซ่า ต่อจาก แกรี่ ลินิเกอร์ ที่เคยมาเล่นเมื่อปี 40 ปีก่อน

.........................................

แง่บวก

จากเรื่องราวข้างต้น ถ้าถามว่า แรชฟอร์ด คือตัวเลือกที่ดีที่สุดมั๊ย ?

คงต้องบอกว่า "ไม่ใช่" แรชฟอร์ด ไม่ใช่ตัวเลือกแรกของไอเดียนี้ เขาคือ Plan B อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม หากว่ากันตามสเปกหน้าซ้ายที่ ฟลิค ตั้งไว้ ด้วยสไตล์การเล่นและคาแรกเตอร์ แรชฟอร์ด ถือว่ามีสิ่งที่ว่านี้ครบถ้วนตามที่มองหา

นอกจากนี้ยังมีความอเนกประสงค์ เล่นได้ทุกบทบาทในแดนหน้า ไม่ว่าจะริมเส้นฝั่งซ้าย ,หน้าเป้า หรือฝั่งขวา ส่งผลให้ squad depth ของ บาร์ซ่า มีมากขึ้น

สำหรับการยิงประตู แรชฟอร์ด มีความเป็นดาวยิงอยู่ในตัว กว่า 120 ประตูที่ยิงให้ แมนยูไนเต็ด คือเครื่องพิสูจน์ว่าสัญชาติญาณในการจบสกอร์ของเขานั้นยอดเยี่ยม

ส่วนผลงานฤดูกาลที่แล้ว กองหน้าทีมชาติอังกฤษทำไป 11 ประตู 9 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 2,140 นาที (แมนยูไนเต็ด+แอสตัน วิลล่า)

ด้านประสบการณ์ แรชฟอร์ด ลงเล่นในระดับสูงยาวนานเกือบ 10 ปี กับ แมนยูไนเต็ด, แอสตัน วิลล่า และ ทีมชาติอังกฤษ สิ่งนี้จะมีประโยชน์ต่อตัวเขาในการปรับตัวที่สเปน รวมถึงสามารถถ่ายทอดให้กับนักเตะอายุน้อยภายในทีมได้อีกด้วย

ราคา และเงื่อนไข ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้ บาร์ซ่า ตัดสินใจเลือก แรชฟอร์ด เพราะจับต้องได้ เจ้าตัวลดค่าเหนื่อยลงมา 30 % จาก 18 ล้านยูโรต่อปี สอดคล้องกับสถานการณ์การเงินของสโมสร

นอกจากนี้ภายใต้สัญญายืมตัว 1 ปี+อ๊อปชั่นซื้อขาดแบบไม่บังคับ ทำให้ บาร์ซ่า สามารถตัดสินใจได้ง่าย ไม่ถูกตีกรอบ 

.........................................

แง่ลบ

ว่ากันในแง่คุณภาพ ถึงแม้ แรชฟอร์ด จะมีคุณสมบัติตรงตามที่ ฟลิค ต้องการ แต่ที่น่ากังวลคือเขาไม่ได้ทำได้ดีในทุกมิติ

จุดด้อยของเขามีไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น การตัดสินใจ การเปิดบอล การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า วิชั่นส์ในการเล่น ความคิดสร้างสรรค์ และ ความสม่ำเสมอ

ในเชิงเทคนิค นอกจากเปิดบอลไม่ค่อยแม่นยำแล้ว แรชฟอร์ด ยังควบคุมบอลแรกไม่ค่อยดีนักเมื่อถูกกดดันหรือประกบอย่างใกล้ชิด เขามีปัญหาเมื่อหันหลังให้กับประตู ขาดความแข็งแกร่งและเทคนิคที่จะเอาชนะการปะทะได้อย่างต่อเนื่อง

ในพาร์ทเกมรับ เขามักขาดความเข้มข้นในการกดดันและการเข้าปะทะเพื่อแย่งบอลจากคู่ต่อสู้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ ฟลิค ต้องการเสมอจากกองหน้าของเขา

นอกจากนั้นแล้วเรื่องของระเบียบวินัยและทัศนคติก็ยังเป็นที่กังขา ดาวยิงวัย 27 มักถูกวิจารณ์เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ มีข่าวเกี่ยวกับการดื่ม,การใช้ชีวิตที่หวือหวานอกสนาม

.........................................

บทสรุป

แรชฟอร์ด กับ บาร์ซ่า หากเรามองกันในวันนี้ ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะมาบรรจบกันได้ ด้วยสไตล์การเล่นของทีม ความเข้มข้นในการทำงานของ ฟลิค ดูห่างไกลจากความเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เรารู้จัก

กระนั้น หากมองในแง่บวก แรชฟอร์ด เองในวัย 27 ก็น่าจะกำลังมองหาจุดเปลี่ยนให้กับชีวิตตัวเองเช่นกัน กับโอกาสในการย้ายมาเล่นกับทีมอย่าง บาร์เซโลน่า ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นง่ายๆ โดยเฉพาะกับนักเตะอังกฤษอย่างเขา

มันคือโอกาสที่จะสร้างประวัติศาสตร์ สะสมเกียรติประวัติในชีวิตค้าแข้งชนิดที่ว่าหาไม่ได้อีกแล้วหลังจากนี้ นั่นอาจเป็นจุดที่ทำให้ทัศนคติของเขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นก็ได้

กับ ฟลิค เองก็ขึ้นชื่อว่าเป็นกุนซือที่โดดเด่นในการดึงศักยภาพของนักเตะออกมา ตัวอยางเช่น ราฟินญ่า ,มาร์ก กาซาโด้ หรือกระทั่ง เฟรงกี้ เดยอง ที่กลับมาพีคอีกครั้ง

สุดท้ายทุกๆคำถามเกี่ยวกับ แรชฟอร์ด ก็คงต้องจบตรงความคิดที่ว่า

ถ้าลองคนอย่าง ฟลิค บอกว่า 'เอา' แฟนๆก็ต้องฟัง

ถึงไม่มั่นใจในตัว แรชฟอร์ด

ถึงไม่ไว้ใจการจัดการของ เดโก้

แต่อย่างน้อย ก็จงไว้ใจคนอย่าง ฮันซี่ ฟลิค

#เจมส์ลาลีกา



ที่มาของภาพ : Gettyimages
BY : เจมส์ ลาลีกา
อาวุธ จิวรากรานนท์
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport