5 ข้อดี บาร์เซโลน่า คว้า มาร์คัส แรชฟอร์ด เสริมเกมรุก : ดีลยืมตัวที่มีแต่ได้

เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา หลายสื่อใหญ่ รวมถึงบรรดานักข่าวระดับแถวหน้า ต่างรายงานตรงกันว่า บาร์เซโลน่า ปิดดีลคว้าตัว มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าสตาร์ดัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เป็นที่เรียบร้อย โดยเป็นดีลแบบยืมตัว พ่วงออปชั่นซื้อขาดที่ราคา 35 ล้านยูโร (ประมาณ 1,330 ล้านบาท) ซึ่งแน่นอนว่า นี่คืออีกหนึ่งดีลการย้ายทีมที่น่าสนใจมากๆ ในตลาดซัมเมอร์นี้ ว่าแต่ บาร์ซ่า ของกุนซือ ฮันซี่ ฟลิค จะได้อะไรบ้างจาก ดาวเตะความเร็วสูงวัย 27 ปี ผู้นี้

- แรชฟอร์ด มาพร้อมกับความกระหาย

ที่ผ่านมา แรชฟอร์ด แสดงให้เห็นชัดเจนมาตลอดว่า อยากเติมเต็มความฝันให้กับตัวเอง ด้วยการย้ายไป บาร์เซโลน่า และตอนนี้มันก็กลายเป็นจริงแล้ว ซึ่งแน่นอนว่า เจ้าตัวกระหายที่จะพิสูจน์ตัวเอง หลังจากที่ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐานไปเยอะในช่วงหลัง และนี่ยังเป็นการออกไปค้าแข้งต่างแดนครั้งแรกด้วย 

- เกมรุกจะจัดจ้านกว่าเดิม

ปกติเกมรุก บาร์เซโลน่า ก็โหดอยู่แล้ว กับการมี ราฟินญ่า, ลามีน ยามาล  และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นแกนนำ ดังนั้นการได้ แรชฟอร์ด เข้ามาเสริม นอกจากจะทำให้แนวรุกของทีมดูดุดันขึ้นแล้ว สปีดการเล่นก็จะสูงขึ้นด้วย ยากที่คู่แข่งจะรับมือ โดยเฉพาะบรรดาทีมใน ลา ลีกา

- เพิ่มทางเลือกให้ ฟลิค 

ถึงแม้ แรชฟอร์ด ไม่ได้เข้ามาเพื่อเป็นตัวหลักทันที แต่มีประโยชน์แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เจ้าตัวเล่นได้ทุกตำแหน่งในแดนหน้า ไม่ว่าจะเป็นริมเส้นฝั่งซ้าย-ขวา หรือ หน้าเป้า ซึ่งนั่นทำให้กุนซือ ฮันซี ฟลิค มีทางเลือกเพิ่มขึ้น สามารถจัดทีมได้หลากหลายรูปแบบ และหลากหลายแท็กติก 

- ตัวหลักแดนหน้าได้พักมากขึ้น

ฤดูกาล 2024/25 ที่ผ่านมา ราฟินญ่า, ยามาล, เลวานดอฟกี้ รวมถึง เฟร์ราน ตอร์เรส ถูกใช้งานหนักมาก จนร่างกายกรอบชัดเจนในช่วงท้ายซีซั่น ดังนั้นการมาของ แรชฟอร์ด จะช่วยโหลดงาน แบ่งเบาภาระได้แน่ เพราะเจ้าตัวสามารถลงแทนได้หมด ตามทึ่ว่าไว้ข้างบน 

- ดีลที่ดีสำหรับ บาร์ซ่า และดีกับทุกฝ่าย 

หากวิเคราะห์ตามที่มีข่าวออกมา ถือเป็นดีลที่ดีต่อทุกฝ่ายอย่างแท้จริง เพราะ บาร์เซโลน่า ได้ แรชฟอร์ด แบบยืมตัว พ่วงซื้อขาด ซึ่งถ้านักเตะเล่นดี ก็ดีไป แต่ถ้าไม่เป็นแบบนั้น ก็สามารถส่งนักเตะกลับต้นสังกัดตอนจบฤดูกาล และไม่ต้องเสียเงินซื้อขาด 35 ล้านยูโร (ตามข่าวไม่ได้ระบุว่า เป็นแบบบังคับซื้อขาด) ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ปล่อย แรชฟอร์ด ครั้งนี้ ได้ประหยัดเงินไปเยอะ เพราะ บาร์ซ่า รับผิดชอบเรื่องค่าเหนื่อยนักเตะทั้งหมดในระหว่างยืมตัว ส่วน แรชฟอร์ด ก็ได้ย้ายไปเล่นให้ บาร์เซโลน่า ตามความฝัน พร้อมเป็นการเติมไฟให้กับตัวเอง เพื่อเร่งคืนฟอร์มเก่ง ก่อนที่ศึกฟุตบอลโลก 2026 จะมาถึง 

 Subinho