อีวาน ราคิติช ประกาศเลิกเล่นในวัย 37 ปี ปิดฉากอาชีพ 19 ปีสุดยิ่งใหญ่ คว้า 17 แชมป์, ยิงเกือบ 150 ประตู พร้อมพาทีมชาติโครเอเชียทะลุชิงฟุตบอลโลก 2018 ถูกยกให้เป็นมิดฟิลด์ "Underrated" ที่ดีที่สุดคนหนึ่งในยุคของเขา
ถ้าจะเอ่ยชื่อนักฟุตบอลยุคปัจจุบันสักคนที่เก่งมากๆ แต่ดันไม่ค่อยถูกพูดถึง และไม่ได้รับการยกย่องอย่างที่ควรจะเป็น หรือในภาษาอังกฤษที่เรามักได้ยินบ่อยๆ ว่า "underrated" แน่นอนว่า จะต้องมีชื่อ อีวาน ราคิติช กองกลางชาวโครแอต อยู่ในลิสต์ของใครหลายๆ คน ซึ่งล่าสุด เมื่อวันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เจ้าตัวในวัย 37 ได้ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอย่างเป็นทางการเรียบร้อย หลังจากที่โลดแล่นอยู่ในวงการนานถึง 19 ปี โดยที่เล่นให้ ไฮดุ๊ค สปลิท เป็นสโมสรสุดท้าย และนี่คือไฮไลท์สำคัญในอาชีพนักเตะของ ราคิติช
คนโครเอเชีย แต่เกิดและโตที่สวิตเซอร์แลนด์
ราคิติช เริ่มเล่นฟุตบอลในทีมเยาวชนของ เอฟเซ เมอลิน รีบูร์ก ก่อนถูกสโมสรยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่าง บาเซิ่ล ดึงตัวไปร่วมทัพ โดยเริ่มต้นด้วยการอยู่ทีมสำรอง (2004-05) จากนั้นก็โดนดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ (2005–07)
สร้างชื่อที่ เยอรมนี
ช่วงซัมเมอร์ปี 2007 ราคิติช ได้ย้ายไปโชว์ฝีเท้าในเวที บุนเดสลีกา เยอรมนี กับ ชาลเก้ 04 (2007–11) ถึงแม้ไม่มีแชมป์ตลอดช่วงสามปีครึ่งที่อยู่รับใช้สโมสร แต่ก็ถือเป็นจุดที่ทำให้เจ้าตัวเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
เริ่มเฉิดฉายที่ สเปน
ราคิติช ย้ายร่วมก๊วน เซบีย่า ในศึก ลา ลีกา สเปน ช่วงเดือนมกราคม ปี 2011 และกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมทันที พร้อมช่วยทีมผงาดความแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ในฤดูกาล 2013/14 ซึ่งถึงแม้ได้แชมป์แค่รายการเดียวกับ เซบีย่า แต่ฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของเจ้าตัว กำลังเป็นที่โดนใจของหลายสโมสรชั้นนำในยุโรป
พีกสุดกับ บาร์เซโลน่า
ด้วยผลงานอันโดดเด่นกับ เซบีย่า ทำให้ ราคิติช ได้ย้ายไปอยู่กับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง บาร์เซโลน่า ซึ่งถือเป็นจุดพีกสุดในอาชีพนักเตะของเจ้าตัวเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากเล่นดีเล่นเด่นแล้ว ยังประสบความสำเร็จอย่างมากมายอีกด้วย โดยได้แชมป์ ลา ลีกา 4 สมัย, โกปา เดล เรย์ 4 สมัย, ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 สมัย โดยเฉพาะในฤดูกาล 2014/15 ถือเป็นไฮไลท์เลย เพราะ บาร์ซ่า ได้ "ทริปเปิลแชมป์" และเขาเป็นคนยิงประตูเปิดหัวในเกมรอบชิงฯ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ชนะ ยูเวนตุส 3-1 ด้วย
คัมแบ็ก เซบีย่า
ช่วงซัมเมอร์ปี 2020 เซบีย่า จ่าย 1.5 ล้านยูโร ดึง ราคิติช กลับมาจาก บาร์เซโลน่า ซึ่งกับ เซบีย่า รอบนี้ (2020-2024) เจ้าตัวลงเล่นทั้งสิ้น 174 นัด ซึ่งมากกว่าตอนอยู่กับทีมรอบแรก (149 นัด) เสียอีก และก็มีหนึ่งแชมป์ ซึ่งก็เป็นถ้วย ยูฟ่า ยูโรปา ลีก เหมือนเดิม ซึ่งเกิดขึ้นในฤดูกาล 2022/23
ลุยซาอุฯ ช่วงท้ายอาชีพ
ช่วงท้ายอาชีพนักเตะ ราคิติช ย้ายไปค้าแข้งที่ ซาอุดีอาระเบีย โดยเซ็นสัญญากับ อัล ชาบับ ช่วงเดือนมกราคม ปี 2024 แต่ก็เล่นให้ทีมแค่ 8 นัดเท่านั้น ก่อนยกเลิกสัญญา และกลับยุโรปมาร่วมทีม ไฮดุ๊ค สปลิท ที่โครเอเชีย ช่วงเดือนกรกฎาคม ปีเดียวกัน กระทั่งล่าสุด เมื่อวันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม 2025 ราคิติช ประกาศรีไทร์ เตรียมถูกดันขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการกีฬาของสโมสร
ขึ้นชั้นตำนานทีมชาติโครเอเชีย
ราคิติช รับใช้ทีมชาติโครเอเชีย นานถึง 12 ปี (2007-2019) ลงเล่นทั้งสิ้น 106 นัด ทำ 15 ประตู ประสานงานแดนกลางคู่กับ ลูก้า โมดริช ได้อย่างลงตัวสุดๆ และแน่นอนว่า ไฮไลท์สำคัญคือการช่วยทัพ "ตาหมากรุก" เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย แม้สุดท้ายพ่าย ฝรั่งเศส 2-4 แต่ทีมชาติโครเอเชียชุดดังกล่าว ได้รับการยกย่องอย่างมาก
สถิติการเล่นตลอดอาชีพของ ราคิติช นับรวมทั้งระดับสโมสรและทีมชาติ
- ลงเล่น : 993 นัด
- ทำ : 140 ประตู กับ 157 แอสซิสต์
- แชมป์ : 17 รายการ
Subinho