เรอัล มาดริด เวอร์ชั่น อลอนโซ่

เราได้เห็นอะไรบ้าง ?

ในแง่ผลการแข่งขัน ถ้าบอกว่าไม่สำคัญ ก็เห็นจะไม่ใช่ เพราะนี่คือรายการใหญ่ เงินรางวัลสูงนับร้อยล้านดอลล่าร์ มาพลาดจุดโทษช่วงทดเจ็บย่อมน่าผิดหวัง 

กระนั้นทีมยังมีอีก 2 เกมกับ เร้ดบูลส์ ซัลซ์บวร์ก และ ปาลูก้า ให้เล่น  โอกาสเข้ารอบยังเปิดกว้าง 

ที่น่าโฟกัสไม่แพ้กัน เผลอๆจะยิ่งกว่า ก็คือรูปแบบการเล่น ที่ มาดริดิสต้า ทุกคนคาดหวังว่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างที่ อลอนโซ่ โฆษณาไว้ 

"ว้าว นี้แหละ มาดริด ที่ฉันชอบ" 

ปรากฏว่าตลอด 90 นาทีเศษๆ มันไม่ได้ว้าวอะไร ยิ่งครึ่งแรก เห็นได้ชัดว่าทีมยังเล่นในแนวทางเดิมจากยุค อันเชล็อตติ 

เพรสไม่พร้อมเพรียง ไปกันคนละทางสองทาง วิ่งน้อย ขยับน้อย ครั้นได้บอลก็พยายามหาโอกาสเล่นเกมรุกแบบไดเรกต์เสียเป็นส่วนใหญ่ พอเสียบอลก็วิ่งกันน้ำบาน โดยเฉพาะจังหวะที่ อัล ฮิลาล ผ่านแนวป้องกันด่านแรกมาได้ จะเห็นได้ว่าพวกเขามีพื้นที่มากมายในการเล่นโต้กลับ 

ก็อย่างที่ ติโบลต์ กูร์ตัวส์ ว่า ผู้เล่นเคยชินกับวิธีการแบบ อันเชล็อตติ มา 4 ปีเต็มๆ ครั้นจะให้เปลี่ยนฉับพลันมันไม่ใช่เรื่องง่าย

ความคุ้นเคยเดิมๆ วิธีการเล่นเดิมๆ ที่ครั้งนึงเคยประสบความสำเร็จ มาวันนี้นักเตะมาดริดต้องยอมรับความจริงที่ว่า แนวทางแบบ คาร์เล็ตโต้ มันเดินมาถึงจุดตีบตันที่ไปต่อได้ยากแล้ว 

เมื่อคู่แข่งมีวิธีการใหม่ๆมาจัดการกับพวกเขา เช่นนี้ทีมก็ถึงคราวต้องเปลี่ยน 

จากที่รับต่ำ ตัดแล้วโต้ ทิ้งตัวรุกไว้ข้างหน้า ก็ต้องหันมาเพรสซิ่ง เดินเข้าหาเพื่อแย่งฟุตบอล 

เกมรุกจากที่ใช้การเล่นเพียงไม่กี่จังหวะถึงหน้าประตู ก็ลดความเสี่ยงหันมาคอนโทรลเกมมากขึ้น ลดเปอร์เซนต์การเสียบอลลง เน้นการครอบครองบอลในแดนสาม

นอกจากนี้การยืนตำแหน่งก็ยังต้องปรับ ซึ่งตรงนี้เห็นได้ชัดว่ายังมีความสับสน 

ครึ่งหลังทีมตอบสนองได้ดีขึ้น เล่นบอลไดเรกต์น้อยลง พาสบอลมากขึ้น มีการครอบครองบอลที่ดีขึ้น ยาวนานขึ้น 

มีการขยับเข้ามาเล่นร่วมกันมากขึ้นเพื่อครอบครองบอล บางจังหวะมีการหยุดนิ่งในช่วงสั้นๆ เพื่อหลอกแนวรับฝั่งตรงข้าม และสร้างพื้นที่ให้กับเพื่อนร่วมทีม 

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในกลไกสำคัญของฟุตบอลฉบับ อลอนโซ่ ที่ใช้การสลับตำแหน่งกันครองบอลนั้น ยังไม่มีให้เห็นเท่าไหร่ 

โดยรวมนี่ยังไม่ใช่เกมที่น่าพอใจนัก ทั้งสกอร์และรูปแบบการเล่น ทว่าการที่นักเตะตอบสนองการร้องขอจาก อลอนโซ่ ในครึ่งหลังถือเป็นสัญญาณที่ดี 

ถึงทำไม่ได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็ขานรับและพยายาม 

การเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่คุ้นชินมาเป็นเวลานาน ไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งกับเกมฟุตบอลที่เรียกร้องให้ผู้เล่นทุกคนต้องมีแนวคิดไปในทิศทางเดียวกันนั้นยิ่งยาก 

ด้วยระยะรวมตัวกัน 9 วัน มีผู้เล่นบาดเจ็บไม่พร้อมใช้งาน 6 คน มีนักเตะใหม่ 2 คน ผ่านการซ้อมเพียง 3 เซสชั่น มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่ทุกอย่างจะออกมาตามที่ทุกคนคาดหวัง 

และการจะไปถึงจุดนั้นได้ ก็ไม่มีทางลัด มีเพียงแค่การซ้อม ซ้อม และซ้อมเท่านั้น 

หนทางยังอีกยาวไกลกว่าที่ เรอัล มาดริด ชุดนี้จะฉายภาพในอุดมคติออกมาให้เห็นจริงในสนามแข่ง 

อลอนโซ่ ยังมีงานอีกมากให้ต้องทำ แฟนๆเองก็ต้องเข้าใจและอดทนรอ เพราะนี่คือสิ่งที่สโมสรเลือกแล้ว

................................

ส่วนตัว ชอบการเล่นของ ชูอาเมนี่ ในครึ่งหลังในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ, ดีน เฮาเซ่น ก็ทำได้เยี่ยม 

อาร์ด้า กือแลร์ ลงมาสำรอง สร้างอิมแพคกับทีมได้ชัดเจน 

สำหรับ เทรนท์ หนึ่งในนักเตะที่ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ ผลงานเกมแรกไม่ถือว่าดี แต่ก็ไม่ถึงกับห่วย เป็นตัวเปิดบอลคนสำคัญจากแนวรับ 

 สถิติส่วนตัวของ เทรนท์ ทุกท่านคงผ่านตาจากสื่อต่างๆไปแล้ว 

เกมแรกยังพิสูจน์อะไรไม่ได้ ต้องให้เวลาเป็นเครื่องตัดสินเหมือนกับ อลอนโซ่ และแข้งเรอัล มาดริดคนอื่นๆ เพราะต่างคนก็ต่างใหม่ด้วยกันทั้งหมด

#เจมส์ลาลีกา