ฮันซี่ ฟลิค ทำอย่างไรถึงเปลี่ยน พลังหนุ่ม บาร์ซ่า ให้เป็นแชมป์ ลา ลีกา ได้สำเร็จ

ฮันซี่ ฟลิค ทำอย่างไรถึงเปลี่ยน พลังหนุ่ม บาร์ซ่า ให้เป็นแชมป์ ลา ลีกา ได้สำเร็จ
ผ่านไปไม่ถึง 1 เดือนหลัง บาร์เซโลน่า คว้าโทรฟี่ โกปา เดล เรย์ ไปครอบครอง ขุนพลพลังหนุ่มของ ฮันซี่ ฟลิค ก็การันตีการเป็นแชมป์ ลา ลีกา ไปแล้วเรียบร้อย หลังบุกชนะ เอสปันญ่อล 2-0

บาร์ซ่า ชุดนี้เต็มไปด้วยขุนพลพลังหนุ่ม เต็มไปด้วยความมั่นใจ ไม่เกรงกลัวอะไรใด ๆ สไตล์การเล่นแบบไม่แคร์ใครบนโลก มันกลายเป็นพลังงานที่สร้างรอยยิ้มแห่งความสุขแก่ชาวคาตาลัน

ขณะที่แฟนบอลกำลังทึ่งกับฝีเท้าอันเกินวันของเหล่าแข้งดาวรุ่ง อย่าง ลามีน ยามาล (17), เปา กูบาร์ซี่ (18) และ เปดรี้ (22) หลายคนก็มีความเชื่อกันว่า บาร์เซโลน่า ชุดนี้อาจแผ่ขยายความสำเร็จเทียบเท่ายุค เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (2008-2011) ได้ แม้จะยังเป็นสิ่งที่ยังไกลพอตัว แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้เมื่อเวลาผ่านไป

อายุเฉลี่ยของทีมนี้อยู่ที่ตัวเลข 25 ปีเท่านั้น น้อยสุดใน ลา ลีกา และด้วยสถานะการเงินของสโมสรก็กลายเป็นแรงผลักให้ดาวรุ่งได้แจ้งเกิด

หลายคนหลงลืมไปว่า บาร์เซโลน่า เคยวิกฤติทางการเงินถึงขนาดไม่สามารถจดทะเบียนนักเตะใหม่ได้ 

แน่นอน ไม่ต้องพูดถึงการดึงสตาร์ค่าตัวแพงเข้ามาเลย

สิ่งที่ ฟลิค ทำคือ การเปลี่ยนอะไรเดิม ๆ ของทีม และพา บาร์เซโลน่า กลับมาสู่จุดที่เคยยืนอีกครั้ง

ตอนที่อดีตเทรนเนอร์ บาเยิร์น มิวนิค และทีมชาติเยอรมนี เข้ามารับงานที่นี่ เขาก็พบว่านักเตะหลายคนอยู่ในฟอร์มที่ต่ำกว่ามาตรฐาน

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ราฟินญ่า และ เฟรงกี้ เดอ ยอง ต่างหมดความมั่นใจ สาเหตุหลักคือพวกเขารู้สึกว่าไม่ได้รับความเชื่อใจจาก ชาบี เอร์นานเดซ กุนซือคนเก่า

ราฟินญ่า แทบไม่ค่อยได้เล่นเกินหนึ่งชั่วโมง ขณะที่ เลวี่ ต้องเล่นในสไตล์ที่ตัวเองไม่ถนัด ต้องหันหลังเล่นให้ประตู ซึ่งขัดกับธรรมชาติของเขา ส่วน เดอ ยอง ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะเขาเคยจะถูกขายทิ้งเพื่อลดภาระหนี้สโมสร

นอกเหนือจากทั้งสามคนรู้สึกว่าไม่เป็นที่ต้องการในทีม ฟลิค ยังมองเห็นว่า มีวัฒนธรรมภายใน เริ่มไม่ให้ความสำคัญกับแข้งเยาวชนมากพอ

แม้ ชาบี จะกล้าดันดาวรุ่งลงเล่นจากข้อจำกัดทางการเงิน ซึ่งจริง ๆ เขาก็สมควรได้รับเครดิต แต่เด็ก ๆ เหล่านี้ต้องการอะไรที่มากกว่านั้น พวกเขาอยากเป็นแกนหลักของทีม

ฟลิค เปิดโอกาสให้ กาบี, ยามาล, อเลฆานโดร บัลเด้ (21) และ มาร์ก กาซาโด (21) ได้ทำสิ่งนั้น 

ฟลิคช่วยให้บรรดาดาวรุ่งเริ่มมีบทบาทในห้องแต่งตัว ถึงขั้นอนุญาตให้แต่ละคนเลือกเพลงเปิดก่อนลงสนาม

ความไว้วางใจที่ ฟลิค มอบให้ ได้รับการตอบแทนผ่านผลงานบนสนาม และสะท้อนผ่านสไตล์การเล่นที่อิสระ แม้บางครั้งอาจดูไร้ประสบการณ์ไปบ้าง แต่มันเปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวาและความน่าตื่นเต้น

ไม่เพียงเท่านั้น ฟลิค ยังใกล้ชิดกับนักเตะที่ไม่ค่อยได้ลงเล่น โดยเน้นย้ำว่า เมื่อถึงเวลาที่ตัวหลักบาดเจ็บขึ้นมา พวกเขาเหล่านั้นจะได้โอกาสเล่นแน่นอน

ฟลิค แทบไม่ได้ร้องขออะไรจากบอร์ดบริหารในเรื่องตลาดซื้อขาย มีใช้เงินเพียงซื้อ ดานี่ โอลโม่ และ เปา วิคตอร์ ตอนช่วงซัมเมอร์ และไม่ได้เสริมใครเข้ามาเพิ่มเมื่อตลาดหน้าหนาว

ฟลิค มีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่า ไม่มีใครรู้สภาพร่างกายดีเท่าตัวนักเตะเอง ดังนั้น แผนการพักผู้เล่นอย่าง ยามาล หรือ ราฟินญ่า จึงมักเกิดขึ้นหลังเข้าไปถามความสมัครใจ ซึ่งนี่ทำให้เขาได้รับความไว้ใจเอามาก ๆ 

กุนซือวัย 60 ปีเองไม่ได้ปล่อยให้ตัวเขาถูกครอบงำจากสื่อ บาร์เซโลน่า ที่ทั้งทรงอิทธิพลและมักสร้างแรงกดดันยามที่ผลงานทีมไม่ดี และยังคงยึดมั่นในความซื่อสัตย์ต่อผู้เล่น 

ซึ่งแนวทางนี้ถูกทดสอบอย่างหนัก เมื่อ บาร์ซ่า แพ้ถึง 4 นัด และเก็บได้เพียง 5 แต้ม จากทั้งหมด 21 แต้มก่อนช่วงเบรกคริสต์มาส

...

ระหว่างที่ทำงานไป ฟลิค ก็ยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้ควบคู่กัน

การส่ง เดอ ยอง และ โอลโม่ ลงตัวจริงในเกมเอาชนะ เบนฟิก้า  5-4รอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อเดือนมกราคม ฟลิค ก็เริ่มค้นพบ 11 ตัวจริงที่ดีที่สุดของทีม

ในค่ำคืนสุดคลั่งที่ ลิสบอน ฟลิค ได้เห็นบทบาทผู้นำของ ราฟินญ่า ชัดเจน เมื่อได้ลงเล่นต่อเนื่อง แข้งแซมบ้าก็กลายเป็นจุดศูนย์กลางของทีมทันที

ไม่นานหลังจากนั้น ฟลิค รู้ว่าทีมต้องการผู้นำในแนวรับ และเขาก็เห็นสิ่งนั้นในตัว อินญีโก้ มาร์ตีเนซ

แม้แนวรับวัย 33 ปีจะไม่ได้มีความเร็ว และมักเล่นเกมรับจากแนวลึก แต่ ฟลิค ขอให้เขาขยับขึ้นมาเล่นไลน์สูง ซึ่งเป็นบทบาทที่ มาร์ตีเนซ ไม่เคยเล่นมาก่อน

ถึงจะดูขัดธรรมชาติ แต่ มาร์ตีเนซ ก็น้อมรับทำตามคำสั่ง 

เขารู้ดีว่าการเล่นเพรสสูงจะทำให้จุดอ่อนของตัวเองถูกเปิดเผย แต่เซ็นเตอร์แบ็กทีมชาติสเปนรายนี้ก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ และเล่นตามคำสั่งของโค้ช แม้ว่าตอนแรกมันจะดูเป็นสิ่งที่แปลกใหม่และไม่คุ้นเคยสำหรับเขาก็ตาม

ขณะเดียวกัน ยามาล ก็ถูก ฟลิค ดูแลเข้มงวดอย่างระมัดระวัง

ยามาล อยากลงเล่นทุกนัด อยากให้บอลมาที่เขาตลอด อยากคว้าแมนออฟเดอะแมตช์ทุกเกม และอยากเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง

ฟลิค จึงต้องเตือน ยามาล เป็นระยะว่า ใครคือคนตัดสินใจ และถ้าเขาไม่ทำหน้าที่ โดยเฉพาะตอนไม่มีบอล เขาก็จะโดนดร็อป

แต่จนถึงตอนนี้ ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ในเกม เอล กลาซิโก้ ที่ชนะ เรอัล มาดริด นั้น ยามาล แย่งบอลกลับมาได้มากกว่าบรรดาเซ็นเตอร์แบ็กของ บาร์เซโลนา หรือแม้แต่ เปดรี้ มิดฟิลด์ที่แย่งบอลเก่งที่สุดในสเปน เลย

สิ่งที่สำคัญที่สุดต่อความสำเร็จของ บาร์เซโลน่า ในฤดูกาลนี้คือ ความเป็นหนึ่งเดียวกันของทีม ภายใต้การนำของ ยามาล, ราฟินญ่า และเดอ ยอง

ฟลิค คอยวางแผน แล้วผู้เล่นก็ใส่หัวใจลงไปเล่น 

ฟลิค เป็น -แม่ทัพ- และนักเตะทุกคนคือ -ทหาร-

...

ในความเข้มงวดของ ฟลิค เขามีกฎเล็กบางอย่าง โดยเฉพาะเรื่อง ความตรงต่อเวลา

ซีซั่นนี้ ฌูลส์ กุนเด้ ถูกดร็อปถึง 3 ครั้ง เหตุเพราะมาสายตอนประชุมทีม

อินญากี้ เปญ่า ก็โดนดร็อปจากเกม ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า รอบรองชนะเลิศ กับ แอธเลติก บิลเบา ด้วยเหตุผลเดียวกัน

ฟลิค ยังยกเลิกวัฒนธรรมการแต่งตัวหรูหราแบบซูเปอร์สตาร์ ทุกคนรวมถึงผู้บริหาร ต้องใส่ชุดยูนิฟอร์มสโมสรเมื่อเดินทางไปเล่นเกมเยือน

ฟลิค มาอยู่ บาร์เซโลนา ในสภาพที่ปราศจากความเจ็บปวดจากสะโพก หลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกสำเร็จ เขาก็รู้สึกคล่องแคล่ว อารมณ์ดีขึ้น และสามารถโฟกัสกับงานได้เต็มที่

เขารู้ดีกว่าใครว่า บาร์ซ่า ชุดนี้ยังไม่สมบูรณ์แบบ

การตกรอบรองชนะเลิศ และเสียถึง 24 ประตูใน 14 เกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็เป็นหลักฐานชัดเจน

เขารู้ดีว่าสไตล์การเล่นของทีมในตอนนี้มันค่อนข้างเสี่ยง แม้ว่าที่ผ่านมาพวกเขาจะแสดงให้เห็นอยู่เสมอว่ามักจะสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้

เป้าหมายฤดูกาลหน้าคือการเพิ่มความสามารถในการควบคุมเกม ควบคู่ไปกับพลังเกมรุกที่เร้าใจ ซึ่งพาทีมคว้าชัยชนะแบบหวุดหวิดมาหลายครั้ง

และแน่นอนว่าทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นโดยมี ฟลิค เป็นผู้นำ

เมื่อฤดูกาลนี้จบลง ฟลิค จะเหลือสัญญาอีกเพียงหนึ่งปี และแม้ว่าเขาจะไม่มีปัญหาในการต่อสัญญา แต่ก็ไม่รู้ว่า เขาพร้อมจะเซ็นระยะยาวต่อไปหรือไม่

ซึ่งหากไม่ เขาก็พร้อมเดินหน้าต่อในระยะใกล้เพื่อเป้าหมายของทีม

HOSSALONSO




ที่มาของภาพ : reuters
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport