บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด กำลังลงเล่นเกมแห่งฤดูกาล
ผลแพ้-ชนะ แม้ไม่สามารถตัดสินแชมป์โดยเด็ดขาด แต่ก็นับว่าใกล้เคียงที่สุดกว่าครั้งไหนๆ
คำถามสำคัญเวลานี้คือ ผลจะออกอย่างไร ?
มีหลายคนกระเซ้าว่า มาดริด เหมือนยอมไปแล้วกลายๆ พวกเขาเริ่มเตรียมตัวสำหรับฤดูกาลหน้าไปแล้ว
ตกลงแยกย้ายกับ คาร์โล อันเชล็อตติ และอีกไม่นานก็จะเปิดตัว ชาบี อลอนโซ่ ในฐานะนายใหญ่คนใหม่
เห็นคุยกันว่าจะเล่น หลัง 3 พร้อมหอบหิ้ว เซบาส ปาร์รีย่า มือขวา กับ อัลเบร์โต้ เอ็นซีนาส โค้ชความฟิตคู่ใจมาด้วย
ครับ คงเป็นแค่มุกมากกว่า เพราะตราบใดที่แต้มยังไม่ขาด ก็เท่ากับโอกาสยังไม่ปิด mentality แบบนี้มีอยู่ในตัวนักเตะชั้นยอดทุกทีม และแน่นอนว่ามันรวมถึงนักเตะมาดริดด้วย
ฉันใดก็ฉันนั้น นักเตะบาร์ซ่าก็ mentality แบบเดียวกัน ตราบใดที่แต้มไล่กันทัน ไม่มีทางที่จะเพลามือให้
ถ้าเกมนี้น็อค มาดริด ได้เป็นคำรบ 4 แชมป์ลา ลีกา สมัยที่ 28 จะไปไหนเสีย อีกทั้งคงเป็นยาวิเศษช่วยชุบชื้นให้หัวใจ หลังผิดหวังรุนแรงจาก แชมเปี้ยนส์ลีก
สถานการณ์เวลานี้ บาร์ซ่า นำ มาดริด 4 คะแนน 79-75 จากการลงเล่น 34 นัดเท่ากัน
ถ้า บาร์ซ่า ชนะ จะฉีกหนีเป็น 7 แต้ม ขณะที่เหลืออีก 3 เกม
ถ้า มาดริด ชนะ จะไล่จี้เหลือแต้มเดียว เหลืออีก 3 เกมก็ต้องไปลุ้นว่าจะมีนัดไหนที่ลูกทีมของ ฟลิค จะพลาดบ้าง
ถ้าเสมอ บาร์ซ่า แฮปปี้มากกว่า คงระยะห่างไว้ได้ จำนวนเกมลดลงไป
ชนะ-เสมอ-แพ้ ไม่ว่าออกรูปไหน หนทางที่เหลือ บาร์ซ่า ก็ยังได้เปรียบอยู่ อีกทั้งเฮด ทู เฮด ที่ใช้ตัดสินเวลาแต้มเท่าก็ยังตุนไว้ถึง 4-0 จากเกมแรกที่ เบร์นาเบว
เราได้เห็นอะไรจาก 3 เกมที่ผ่านมา ?
เกมแรกที่ เบร์นาเบว กับ เกมสองที่ ซาอุดิอาระเบีย ไลน์อัพมีแตกต่างบ้าง แต่วิธีการเล่นของ มาดริด แทบไม่แตกต่าง
ทั้งสองเกมที่ว่า มาดริด พยายามเล่นอย่างเข้มข้น ทะยานเข้าหาด้วยไดนามิกที่สูง ด้วยความมั่นใจว่าเร็ว ดุดัน และแม่นยำ ทว่าพวกเขากลับขาดซึ่งความสมดุล
ไม่มีจังหวะช้า-เร็ว ,ขาดความหนัก-เบา ประกอบกับนักเตะหลายคนไม่รับผิดชอบเกมรับดีพอ เกมดูดีในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านก็เสร็จ บาร์ซ่า แบบง่ายๆ
บาร์ซ่า ของ ฟลิค มีครบเกือบทุกองค์ประกอบของยอดทีม นักเตะทุกคนมีความสามารถเฉพาะตัวสูงไม่แพ้ มาดริด แต่เลือกที่จะใช้ระบบนำ
ภายใต้ระบบที่แข็งแกร่ง ทีมมีวิธีการเล่นที่ชัดเจน มีไอเดียในการสร้างสรรค์ , โครงสร้างเกมมีความซับซ้อนยากต่อการคาดเดามากกว่า ที่สำคัญนักเตะทุกคนเข้าใจบทบาท ตระหนักถึงหน้าที่รับผิดชอบ ทุกคนพร้อมเล่นเกมรับ
ฟุตบอลเล่น 90 นาที บวกทดเจ็บก็ราว 100 นาที ในระดับฝีเท้าใกล้เคียงกันเช่นนี้ เป็นเรื่องยากสำหรับทีมที่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวนำ และเต็มไปด้วยความหละหลวม จะเอาชนะทีมที่มีระบบและแบบแผนได้
เหตุนี้เราจึงเห็นคาแรกเตอร์ที่เปลี่ยนไปของ มาดริด ในนัดชิงโกปา เดล เรย์
ในเกมยังเป็น มาดริด ที่ดุดัน ยังอาศัยความสามารถนำ แต่เล่นแบบรู้สภาพตัวเองมากขึ้น รัดกุมกว่าเดิม
คาร์โล อันเชล็อตติ พยายามสร้างสมดุลให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะแดนกลางที่เป็นห้องเครื่อง ทว่าเกมรับพวกเขาก็ยังหละหลวม จนเป็นเหตุให้พ่ายแพ้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
สำหรับ มาดริดิสต้า ถ้ามองในแง่ดี นัดชิงโกปา เดล เรย์ คือเกมที่ทีมเข้าใกล้ บาร์ซ่า ได้มากที่สุดแล้ว
มาเกมนี้ จากข้อมูล อันเชล็อตติ จะเลือกให้โอกาส อาร์ด้า กือแลร์ ลงเล่นตัวจริงร่วมกับ เซบายอส,วัลเวร์เด้ และ จู๊ด ในแดนกลาง กองหน้าเป็น วินิซิอุส กับ เอ็มบั๊บเป้
ส่วนแผงหลังก็ว่ากันตามสภาพ อาเซนซิโอ ยืนเซนเตอร์กับ ชูอาเมนี่ แบ็กขวา ลูกัส แบ็กซ้าย ฟราน การ์เซีย มี กูร์กตัวส์ เฝ้าเสา
ด้าน บาร์ซ่า ยังไม่มี ฌูลส์ กุงเด้ ที่เจ็บ,มาร์ค กาซาโด้ ยังพักรักษาตัว ข่าวดีคือ อเลเฆานโดร บัลเด้ กับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หายเจ็บกลับมาแล้ว
ในการจัดทีม แผงรับจะใช้ เปา กูบาร์ซี่ ยืนเซนเตอร์กับ อินญิโก้ มาร์ติเนซ แบ็กขวา เอริก การ์เซีย แบ็กซ้ายเชื่อว่ายังใช้ เคราร์ด มาร์ติน ก่อน
ตรงกลาง เปดรี เดินเกมร่วมกับ เฟรงกี้ เดยอง เกมรุกใช้ ลามีน ยามาล ทางขวา ทางซ้าย ราฟินญ่า มี เลวานดอฟสกี้ เล่นหน้าเป้า
เกมจะออกมาอย่างไร ?
เชื่อว่า มาดริด จะสู้กับ บาร์ซ่า ได้สนุกขึ้น มุทะลุน้อยลง พยายามเล่นกับบอลมากขึ้น ลดอัตราเร่งของเกมลง แต่ยังเร็วในจังหวะทรานซิสชั่น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในไม้ตาย
ส่วน บาร์ซ่า จะเล่นแบบเดิม วิธีการเดิม แต่เพิ่มความรัดกุม เน้นใส่ใจรายละเอียด
เกมน่าจะออกมาสูสีกว่าเดิม และน่าจะดูสนุกเหมือนเคย เพราะฟุตบอลคู่นี้เจอกันทีไร ไม่มีคำว่า 0-0
มาริด จะสู้ไดีดีกว่าเดิม แต่อย่างที่บอกไปครับ ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ชนะก็ยังน่าจะเป็น บาร์ซ่า ที่สมดุลกว่าในหลายๆองค์ประกอบ
สกอร์ที่คาด : บาร์ซ่า ชนะ เรอัล มาดริด 3-2
เจมส์ลาลีกา